นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ได้นำเอกสารหลักฐานการตรวจสอบการทุจริต งบประมาณโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ประจำปี 2552 ของ จ.สุรินทร์ ให้กับ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ดำเนินการต่อ โดยต้องการให้ทำเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ
นายเจริญ ระบุว่า จากการตรวจสอบเรื่องการใช้งบประมาณดังกล่าว พบความผิดปกติในหลายจังหวัด โดยที่ จ.สุรินทร์ ที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณไปดำเนินการซ่อมแซมก่อสร้างอาคารที่ถูกน้ำท่วม ทั้งที่ไม่พบว่า มีการดำเนินการ และจากการเบิกจ่ายเบื้องต้นพบว่า ผู้รับเหมารายใหญ่ ที่รับงานของ จ.สุรินทร์ มีนามสกุลเดียวกับที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกันกับการทุจริต
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การทุจริตงบประมาณเรื่องนี้ อาจเชื่อมโยงกับการซื้อขายตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดของกระทรวงมหาดไทย
พ.อ.ปิยะวัฒก์ ระบุว่า จะรับตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ตามกระบวนการ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการทุจริต จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวน และเอาผิดต่อไป
นายเจริญ ระบุว่า จากการตรวจสอบเรื่องการใช้งบประมาณดังกล่าว พบความผิดปกติในหลายจังหวัด โดยที่ จ.สุรินทร์ ที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณไปดำเนินการซ่อมแซมก่อสร้างอาคารที่ถูกน้ำท่วม ทั้งที่ไม่พบว่า มีการดำเนินการ และจากการเบิกจ่ายเบื้องต้นพบว่า ผู้รับเหมารายใหญ่ ที่รับงานของ จ.สุรินทร์ มีนามสกุลเดียวกับที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกันกับการทุจริต
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การทุจริตงบประมาณเรื่องนี้ อาจเชื่อมโยงกับการซื้อขายตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดของกระทรวงมหาดไทย
พ.อ.ปิยะวัฒก์ ระบุว่า จะรับตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ตามกระบวนการ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการทุจริต จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวน และเอาผิดต่อไป