นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ อัตราเงินเฟ้อเดือนมกราคม 2553 ว่า หากเทียบกับ 100 เท่ากับ 106.29 ถือเป็นครั้งที่รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเป็นจุดทศนิยม 2 ตำแหน่ง เพื่อเพิ่มความละเอียดและเพิ่มความแม่นยำมากขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 4.1 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แสดงให้เห็นว่าทิศทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยราคาน้ำมันมีทิศทางสูงขึ้น รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 3.2 ได้รับผลกระทบมาจากดัชนีหมวดข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 8 เนื้อสัตว์เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ ร้อยละ 3.8 ส่วนดัชนีผู้บริโภคทั่วไปเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 0.6 เป็นภาวะราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ปัจจัยสำคัญยังคงเป็นราคาสินค้าในหมวดอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉลี่ยภายในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นกับเดือนก่อนหน้า
นายยรรยง กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อ ปี 2553 คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ระหว่างร้อยละ 3-3.5 ส่งผลให้ในช่วง ไตรมาสแรก จะอยู่ที่ ร้อยละ 3.7 และหลังจากนั้น จะมีอัตราลดลง แต่เงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์ ยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 31-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และการใช้มาตรการการลดภาระค่าครองชีพของรัฐบาลอีกระยะหนึ่ง แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้จะมีการปรับตัวดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน โดยธนาคารแห่งประเทศไทยมองว่า เศรษฐกิจในปีนี้ จะโตร้อยละ 3.3 - 5.3
แต่ปัจจัยที่ต้องมีการจับตาเป็นพิเศษ ได้แก่สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ แต่เรื่องความผันผวนของราคาน้ำมันยังเชื่อว่าปีนี้จะไม่ผันผวนมาก ทั้งปีจะเฉลี่ยที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นนั้น ผลผลิตสินค้าเกษตรลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเพลี้ยกระโดด หากตามราคาสินค้าในขณะนี้ โดยรวมกลุ่มวัสดุก่อสร้างมีการปรับตัวสูงขึ้น แต่ในส่วนของปูนซีเมนต์กลับมีราคาลดลง โดยปูน ขนาด 50 กิโลกรัม จาก 135 บาท เหลือ 132 บาท ปุ๋ย ราคาขายปลีก ขนาด 50 กิโลกรัม จาก 835 บาท เหลือ 827 บาท มะพร้าวขูด ขนาด 1 กิโลกรัม จาก 32 บาท เหลือ 30 บาท
นายยรรยง กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อ ปี 2553 คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ระหว่างร้อยละ 3-3.5 ส่งผลให้ในช่วง ไตรมาสแรก จะอยู่ที่ ร้อยละ 3.7 และหลังจากนั้น จะมีอัตราลดลง แต่เงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์ ยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 31-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และการใช้มาตรการการลดภาระค่าครองชีพของรัฐบาลอีกระยะหนึ่ง แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้จะมีการปรับตัวดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน โดยธนาคารแห่งประเทศไทยมองว่า เศรษฐกิจในปีนี้ จะโตร้อยละ 3.3 - 5.3
แต่ปัจจัยที่ต้องมีการจับตาเป็นพิเศษ ได้แก่สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ แต่เรื่องความผันผวนของราคาน้ำมันยังเชื่อว่าปีนี้จะไม่ผันผวนมาก ทั้งปีจะเฉลี่ยที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นนั้น ผลผลิตสินค้าเกษตรลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเพลี้ยกระโดด หากตามราคาสินค้าในขณะนี้ โดยรวมกลุ่มวัสดุก่อสร้างมีการปรับตัวสูงขึ้น แต่ในส่วนของปูนซีเมนต์กลับมีราคาลดลง โดยปูน ขนาด 50 กิโลกรัม จาก 135 บาท เหลือ 132 บาท ปุ๋ย ราคาขายปลีก ขนาด 50 กิโลกรัม จาก 835 บาท เหลือ 827 บาท มะพร้าวขูด ขนาด 1 กิโลกรัม จาก 32 บาท เหลือ 30 บาท
