นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ทางการไทยเตรียมประสานงานกับอัยการสูงสุด (อสส.) ให้ดำเนินการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้หากรัฐบาลกัมพูชาไม่ดำเนินการตามสนธิสัญญาที่มีอยู่ มีมาตรการอื่นเตรียมรับมือไว้แล้วแต่ไม่ขอเปิดเผย
ทั้งนี้ ยืนยันว่าคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคดีอาญา ไม่ใช่คดีการเมือง อย่างไรก็ตามการตัดสินใจส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ประเทศไทยนั้น อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่กระบวนการยุติธรรมของประเทศกัมพูชาไม่ใช่ของฝ่ายบริหาร หรือสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี
ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ จะมีการพิจารณาบันทึกความเข้าใจทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา หรือเอ็มโอยู ฉบับเดียว ก่อนนำเข้าหารือต่อรัฐสภา โดยระหว่างนี้จะรอดูท่าทีประเทศกัมพูชา เพื่อกำหนดเป็นมาตรการของไทยต่อไป
นอกจากนี้ นายกษิตกล่าวย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือตัวปัญหาที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาไม่ค่อยอบอุ่นเหมือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ตนคาดหวังว่า สมเด็จฮุน เซน จะทบทวนและไตร่ตรองถึงผลประโยชน์ระหว่างประเทศมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว
ทั้งนี้ ยืนยันว่าคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคดีอาญา ไม่ใช่คดีการเมือง อย่างไรก็ตามการตัดสินใจส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ประเทศไทยนั้น อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่กระบวนการยุติธรรมของประเทศกัมพูชาไม่ใช่ของฝ่ายบริหาร หรือสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี
ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ จะมีการพิจารณาบันทึกความเข้าใจทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา หรือเอ็มโอยู ฉบับเดียว ก่อนนำเข้าหารือต่อรัฐสภา โดยระหว่างนี้จะรอดูท่าทีประเทศกัมพูชา เพื่อกำหนดเป็นมาตรการของไทยต่อไป
นอกจากนี้ นายกษิตกล่าวย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือตัวปัญหาที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาไม่ค่อยอบอุ่นเหมือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ตนคาดหวังว่า สมเด็จฮุน เซน จะทบทวนและไตร่ตรองถึงผลประโยชน์ระหว่างประเทศมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว
