นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ไทยเตรียมยกเลิกบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยู ระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า ขณะนี้กรมสนธิสัญญา กระทรวงการต่างประเทศ กำลังดำเนินการดูข้อกฎหมาย ซึ่งโดยหลักสามารถดำเนินการได้ไม่ยาก แต่หากเร่งรัดเจรจาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะกรอบเจรจายังไม่เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา อีกทั้งต้องมีการทบทวนหากเดินหน้าทำกรอบเจรจาภายใต้บันทึกความเข้าใจที่มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน โดยตนจะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ ตนมองว่า กัมพูชาไม่สามารถบังคับให้ไทยดำเนินการตามกรอบเจรจาได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ตนเชื่อว่ากัมพูชารับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาที่เกิดขึ้นนั้น หากมีท่าทีเคารพ และจริงใจในการดำเนินการความสัมพันธ์ ปัญหาก็จะจบ อย่างไรก็ตาม ตนเรียกร้องให้ทุกคนยึดผลประโยชน์ของประเทศ รวมทั้งอย่าทำให้ประเทศเสียเปรียบ แต่หากมีคนสองคนจะคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตนก็ต้องปล่อยไป
ทั้งนี้ ตนมองว่า กัมพูชาไม่สามารถบังคับให้ไทยดำเนินการตามกรอบเจรจาได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ตนเชื่อว่ากัมพูชารับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาที่เกิดขึ้นนั้น หากมีท่าทีเคารพ และจริงใจในการดำเนินการความสัมพันธ์ ปัญหาก็จะจบ อย่างไรก็ตาม ตนเรียกร้องให้ทุกคนยึดผลประโยชน์ของประเทศ รวมทั้งอย่าทำให้ประเทศเสียเปรียบ แต่หากมีคนสองคนจะคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตนก็ต้องปล่อยไป
