ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ตอบกระทู้ถามของ พล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร ส.ว.สรรหา ระหว่างการประชุมวุฒิสภา เรื่องความคืบหน้าของการดำเนินโครงการประมูลจัดสรรคลื่นความถี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G โดยกล่าวย้ำถึงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่จะจัดการประมูลจัดสรรคลื่นความถี่ระบบ 3G ตามมาตรา 47 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่ง กทช.มีอิสระที่จะดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล และมีกระบวนการคัดเลือกเอกชนเข้ารับการประมูล โดยคำนึงถึงความมั่นคงของชาติ ป้องกันการโจรกรรมข้อมูล และให้ความเป็นธรรมด้านอัตราค่าบริการกับประชาชน
นอกจากนี้ ยังเห็นควรให้เปิดโอกาสให้เอกชนของไทยได้เป็นผู้ได้รับสัมปทานมากกว่าบริษัทต่างชาติที่มีเงินทุนมหาศาล เพราะไม่คุ้มค่าเมื่อแลกกับความมั่นคงของชาติและความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องจ่ายค่าบริการในอัตราสูง
ขณะที่ พล.ต.ต.เกริก แสดงความเป็นห่วงว่า การประมูลจัดสรรคลื่นความถี่ 3G ที่มีการกำหนดราคาค่าประมูลสูง โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 15 ปี จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุนต่างชาติได้รับสัมปทาน เพราะมีเงินทุนมากกว่าบริษัทเอกชนของไทย และอาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงและอัตราค่าบริการ
อย่างไรก็ตาม การประชุมวุฒิสภาวันนี้ยังมีเรื่องด่วน เรื่องการคัดเลือกคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) แทนตำแหน่งที่ว่าง 1 คน หลังคณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาตรวจสอบประวัติความประพฤติของนายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร เลขาธิการ กทช. และ พล.อ.ชูชาติ สุขสงวน อดีตเจ้ากรมพระธรรมนูญ
ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมวุฒิสภาวันนี้ นายสมชาย แสวงการ และนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้กล่าวท้วงติงการทำหน้าที่ของนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กรณีนำเรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งเรื่องให้วุฒิสภาดำเนินการถอดถอนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากกรณีมีคำสั่งสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ว่า ควรดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากมีผลต่อการพิจารณาดำเนินคดีในศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ซึ่งประธานวุฒิสภาชี้แจงว่า ได้วินิจฉัยตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ส่งให้มีการจำหน่ายคดี เนื่องจากนายสมชายได้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีไปแล้ว วุฒิสภาจึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาถอดถอนอีก แต่เมื่อมีข้อท้วงติงก็จะให้ฝ่ายกฎหมายวุฒิสภาพิจารณาอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังเห็นควรให้เปิดโอกาสให้เอกชนของไทยได้เป็นผู้ได้รับสัมปทานมากกว่าบริษัทต่างชาติที่มีเงินทุนมหาศาล เพราะไม่คุ้มค่าเมื่อแลกกับความมั่นคงของชาติและความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องจ่ายค่าบริการในอัตราสูง
ขณะที่ พล.ต.ต.เกริก แสดงความเป็นห่วงว่า การประมูลจัดสรรคลื่นความถี่ 3G ที่มีการกำหนดราคาค่าประมูลสูง โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 15 ปี จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุนต่างชาติได้รับสัมปทาน เพราะมีเงินทุนมากกว่าบริษัทเอกชนของไทย และอาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงและอัตราค่าบริการ
อย่างไรก็ตาม การประชุมวุฒิสภาวันนี้ยังมีเรื่องด่วน เรื่องการคัดเลือกคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) แทนตำแหน่งที่ว่าง 1 คน หลังคณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาตรวจสอบประวัติความประพฤติของนายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร เลขาธิการ กทช. และ พล.อ.ชูชาติ สุขสงวน อดีตเจ้ากรมพระธรรมนูญ
ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมวุฒิสภาวันนี้ นายสมชาย แสวงการ และนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้กล่าวท้วงติงการทำหน้าที่ของนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กรณีนำเรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งเรื่องให้วุฒิสภาดำเนินการถอดถอนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากกรณีมีคำสั่งสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ว่า ควรดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากมีผลต่อการพิจารณาดำเนินคดีในศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ซึ่งประธานวุฒิสภาชี้แจงว่า ได้วินิจฉัยตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ส่งให้มีการจำหน่ายคดี เนื่องจากนายสมชายได้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีไปแล้ว วุฒิสภาจึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาถอดถอนอีก แต่เมื่อมีข้อท้วงติงก็จะให้ฝ่ายกฎหมายวุฒิสภาพิจารณาอีกครั้ง