40 ส.ว.จี้ประธานวุฒิสภา เดินหน้าถอดถอน"สมชาย วงศ์สวัสดิ์" หลังป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณ๊สลายการชุมนุม 7 ตุลา 51 แม้สินสภาพนายกฯ แล้วก็ตาม ระบุมีผลต่อการตัดสิทธิ์ทางการเมือง
ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้หารือถึงกรณีที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาไม่นำรายงานการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องการถอดถอนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง กรณีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาเพื่อถอดถอน
ทั้งนี้นายประสพสุข ได้ชี้แจงว่าได้เทียบเคียงกรณีนี้กับกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ สิ้นสภาพการเป็น รมช.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.51 ซึ่งกรณีนี้ทำให้นายวิรุฬต้องสิ้นสภาพการเป็นส.ส.ด้วย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็จะพบว่าขณะนี้นายสมชาย ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้นวุฒิสภาจึงไม่มีความจำเป็นต้องพิจารณาเพื่อถอดถอนอีก
อย่างไรก็ตาม นายสมชายได้เสนอว่า กรณีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แตกต่างจากนายวิรุฬ เพราะหากวุฒิสภาเห็นว่าควรถอดถอน นายสมชาย ก็จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ดังนั้นขอให้ประธานวุฒิสภาพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง โดยขอเสนอให้นำเรื่องนี้ให้ที่ปรึกษาด้านกฎหมายวุฒิสภา ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนไม่อยากให้กรณีดังกล่าวเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของนักการเมือง เนื่องจากเห็นว่าถ้าใครทำผิดแล้วลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งควรจะได้รับโทษจากความผิดนั้นๆด้วย โดยเฉพาะกรณีนี้ยังคล้ายกับ 16 ส.ว. กำลังเผชิญอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนขอเสนอให้คณะกรรมาธิการการยุติธรรม และการตำรวจร่วมศึกษาเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อนำรายงานผลการศึกษาให้ที่ประชุมวุฒิสภาได้หารือต่อไป ซึ่งนายประสพสุข เห็นด้วยและรับจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาอีกครั้ง
ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้หารือถึงกรณีที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาไม่นำรายงานการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องการถอดถอนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง กรณีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาเพื่อถอดถอน
ทั้งนี้นายประสพสุข ได้ชี้แจงว่าได้เทียบเคียงกรณีนี้กับกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ สิ้นสภาพการเป็น รมช.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.51 ซึ่งกรณีนี้ทำให้นายวิรุฬต้องสิ้นสภาพการเป็นส.ส.ด้วย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็จะพบว่าขณะนี้นายสมชาย ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้นวุฒิสภาจึงไม่มีความจำเป็นต้องพิจารณาเพื่อถอดถอนอีก
อย่างไรก็ตาม นายสมชายได้เสนอว่า กรณีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แตกต่างจากนายวิรุฬ เพราะหากวุฒิสภาเห็นว่าควรถอดถอน นายสมชาย ก็จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ดังนั้นขอให้ประธานวุฒิสภาพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง โดยขอเสนอให้นำเรื่องนี้ให้ที่ปรึกษาด้านกฎหมายวุฒิสภา ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนไม่อยากให้กรณีดังกล่าวเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของนักการเมือง เนื่องจากเห็นว่าถ้าใครทำผิดแล้วลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งควรจะได้รับโทษจากความผิดนั้นๆด้วย โดยเฉพาะกรณีนี้ยังคล้ายกับ 16 ส.ว. กำลังเผชิญอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนขอเสนอให้คณะกรรมาธิการการยุติธรรม และการตำรวจร่วมศึกษาเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อนำรายงานผลการศึกษาให้ที่ประชุมวุฒิสภาได้หารือต่อไป ซึ่งนายประสพสุข เห็นด้วยและรับจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาอีกครั้ง