นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) วันนี้(19 ต.ค.) ได้พิจาณาแนวทางการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ซึ่งประสบปัญหาราคาตกต่ำ โดยเฉพาะข้าวเปลือกจ้าวและข้าวปทุม โดยได้มีมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว 6 มาตราการ ได้แก่ การเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการค้าข้าว โดยกระทรวงการคลังจะสนับสนุนชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปีให้โรงสี โครงการแทรกแซงตลาด รัฐบาลจะรับซื้อโดยตรงในราคาอ้างอิง โดยให้โรงสีซื้อแทนรัฐบาลและเก็บไว้ในสภาพข้าวเปลือก การจัดตลาดนัดข้าวเปลือก เพื่อให้โรงสีได้พบปะกับผู้ซื้อใน 57 จังหวัด 119 ครั้ง การผลักดันการส่งออกผลผลิตในช่วงต้นฤดูปี 2553 โดยเน้นแนวทางการเจรจาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐเป็นหลัก ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซีย มาดากัสการ์ บรูไน อิหร่าน อินโดนีเซีย และติมอร์เลสเต โครงการรับฝากข้าวเปลือกในยุ้งฉางของเกษตรกร โดยจะกำหนดระยะเวลาระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2552 กุมภาพันธ์ 2553 และสร้างความเข้าใจ ในการรักษาเสถียรภาพข้าวเปลือก โดยจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ รวมถึงข้อเรียกร้องของเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถเข้าโครงการรับจำนำได้ เนื่องจากติดกฎระเบียบ จึงขอเข้าโครงการประกันรายได้ เพราะได้จดทะเบียนและทำประชาคมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเสนอคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน