เมื่อเวลา 14.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เริ่มอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น ต่อจำเลยทั้ง 44 คนอย่างละเอียด โดยบรรยายคำฟ้องเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ที่โจทก์เห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการดำเนินการในขั้นตอนการจัดซื้อกล้ายางพาราที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มธุรกิจเอกชน โดย ป.ป.ช.ได้ฟ้องเอาผิดทางอาญา และขอให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินสดพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งจำเลยทั้ง 44 คน ได้ปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา และเบิกความว่า คำฟ้องของ ป.ป.ช.ไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย เพราะ ป.ป.ช.ขอเข้าเป็นโจทก์แทนที่ คตส. ซึ่งสิ้นสุดหน้าที่ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2551
ศาลพิเคราะห์ข้อกล่าวหาของจำเลยเรื่องการใช้เงินผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นว่าจำเลยที่เป็นคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร หรือ คชก. มิได้กระทำความผิดตามคำฟ้อง เช่นเดียวกับจำเลยซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการประกวดราคา และคณะกรรมการบริหารโครงการปลูกยางพารา ไม่มีความผิดตามคำฟ้องในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการจัดการประกวดราคาด้วยเช่นกัน
ส่วนจำเลยที่ 4 นายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ ศาลพิเคราะห์ว่า การเสนอโครงการมาจากนโยบายของรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวสวนยาง และเป็นการขยายพื้นที่การปลูกยางพาราในภาคอีสานและภาคเหนือ จึงถือว่าไม่มีความผิดตามคำฟ้อง โดยศาลมีมติ 8 ต่อ 1
ส่วนบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญา ที่ถูกกล่าวหาว่าคุณสมบัติไม่ครบ และแจ้งเอกสารเท็จนั้น ศาลเห็นว่าไม่ขัดระเบียบ และไม่เข้าข่ายเรื่องของการฮั้วประมูล มีมติให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 44 คน รวมทั้งไม่ต้องชดใช้เงินจำนวน 1,349 ล้านบาท ให้กับกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง
ทั้งนี้ ภายหลังรับฟังคำพิพากษาแล้ว แกนนำพรรคภูมิใจไทยได้เดินทางไปหารือกันที่อาคารศิริภิญโญ ถนนศรีอยุธยา ขณะที่ในวันพรุ่งนี้หลังการประชุมพรรค ก็จะมีการจัดงานเลี้ยงฉลองรับขวัญนายเนวินด้วย
ศาลพิเคราะห์ข้อกล่าวหาของจำเลยเรื่องการใช้เงินผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นว่าจำเลยที่เป็นคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร หรือ คชก. มิได้กระทำความผิดตามคำฟ้อง เช่นเดียวกับจำเลยซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการประกวดราคา และคณะกรรมการบริหารโครงการปลูกยางพารา ไม่มีความผิดตามคำฟ้องในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการจัดการประกวดราคาด้วยเช่นกัน
ส่วนจำเลยที่ 4 นายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ ศาลพิเคราะห์ว่า การเสนอโครงการมาจากนโยบายของรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวสวนยาง และเป็นการขยายพื้นที่การปลูกยางพาราในภาคอีสานและภาคเหนือ จึงถือว่าไม่มีความผิดตามคำฟ้อง โดยศาลมีมติ 8 ต่อ 1
ส่วนบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญา ที่ถูกกล่าวหาว่าคุณสมบัติไม่ครบ และแจ้งเอกสารเท็จนั้น ศาลเห็นว่าไม่ขัดระเบียบ และไม่เข้าข่ายเรื่องของการฮั้วประมูล มีมติให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 44 คน รวมทั้งไม่ต้องชดใช้เงินจำนวน 1,349 ล้านบาท ให้กับกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง
ทั้งนี้ ภายหลังรับฟังคำพิพากษาแล้ว แกนนำพรรคภูมิใจไทยได้เดินทางไปหารือกันที่อาคารศิริภิญโญ ถนนศรีอยุธยา ขณะที่ในวันพรุ่งนี้หลังการประชุมพรรค ก็จะมีการจัดงานเลี้ยงฉลองรับขวัญนายเนวินด้วย
