นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเบิกความคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว มูลค่า 76,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากทรัพย์สินที่ได้มาเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม
นายพานทองแท้ขึ้นเบิกความในฐานะผู้คัดค้านที่ 2 โดยยืนยันว่า การที่บิดาขายหุ้นในราคาต้นทุน เนื่องจากต้องการวางมือทางธุรกิจ เพื่อดำเนินการทางการเมืองอย่างจริงจัง และต้องการให้ตนเองสืบทอดธุรกิจ ส่วนการขายหุ้นให้เป็นไปโดยสุจริต และมีการจ่ายค่าหุ้นตามจริง ซึ่งการประชุมผู้ถือหุ้นมี นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นผู้ดำเนินการแทน
นายพานทองแท้ยังยืนยันต่อศาลด้วยว่า การขายหุ้นเครือชินคอร์ปอเรชั่นให้กลุ่มเทมาเส็ก พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นการซื้อขายผ่านนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ส่วนการดูแลทรัพย์สินนั้น ครอบครัวได้แบ่งหน้าที่ดูแลกันอย่างชัดเจน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ดูแลด้านการบริหาร และคุณหญิงพจมาน ดูแลด้านบัญชี
สำหรับการเบิกความนั้น นายบรรณพจน์ นางกาญจนาภา นางสาวพิณทองทา ชินวัตร เดินทางไปให้กำลังใจด้วย
นายพานทองแท้ขึ้นเบิกความในฐานะผู้คัดค้านที่ 2 โดยยืนยันว่า การที่บิดาขายหุ้นในราคาต้นทุน เนื่องจากต้องการวางมือทางธุรกิจ เพื่อดำเนินการทางการเมืองอย่างจริงจัง และต้องการให้ตนเองสืบทอดธุรกิจ ส่วนการขายหุ้นให้เป็นไปโดยสุจริต และมีการจ่ายค่าหุ้นตามจริง ซึ่งการประชุมผู้ถือหุ้นมี นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นผู้ดำเนินการแทน
นายพานทองแท้ยังยืนยันต่อศาลด้วยว่า การขายหุ้นเครือชินคอร์ปอเรชั่นให้กลุ่มเทมาเส็ก พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นการซื้อขายผ่านนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ส่วนการดูแลทรัพย์สินนั้น ครอบครัวได้แบ่งหน้าที่ดูแลกันอย่างชัดเจน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ดูแลด้านการบริหาร และคุณหญิงพจมาน ดูแลด้านบัญชี
สำหรับการเบิกความนั้น นายบรรณพจน์ นางกาญจนาภา นางสาวพิณทองทา ชินวัตร เดินทางไปให้กำลังใจด้วย