นางสาวพิณทองทา ชินวัตร บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เบิกความต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในฐานะพยานผู้ร้องคัดค้านที่ 3 ในคดียึดทรัพย์ จำนวน 76,000 ล้านบาท โดยกล่าวถึงที่มาของทรัพย์สินที่ได้ครอบครอง เพราะซื้อหุ้นมาจากพี่ชาย จำนวน 2 ครั้ง เพื่ออยากลงทุนในตลาดหลักทรัพย์โดยไม่ต้องบริหารเอง นอกจากนี้ยังเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท แอมเพิลริช และเป็นกรรมการบริษัท จากนั้น นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุง มาติดต่อว่า กองทุนเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ สนใจอยากซื้อหุ้นบริษัท แอมเพิลริช จึงตกลงกับพี่ชายว่าจะขายหุ้นให้กองทุนเทมาเส็ก จำนวน 164 ล้านหุ้น หุ้นละ 49.25 บาท ขณะที่ คตส.ได้ประสานกรมสรรพากรให้ประเมินภาษีว่า ตนและพี่ชายที่ขายหุ้นดังกล่าวต้องเสียภาษีเงินได้คนละกว่า 5,000 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า ได้หุ้นมาในฐานะที่เป็นกรรมการบริษัท แอมเพิลริช ต่อมากลับอายัดเงินในบัญชีทั้งหมด กว่า 20,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น แต่ถือครองหุ้น พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน โดยนางสาวพิณทองทา ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุผลของ คตส.ว่า ค่อนข้างขัดแย้งกันเอง