“กาญจนาภา หงษ์เหิน” เลขาฯส่วนตัว “หญิงอ้อ” เบิกความคดีไต่สวนยึดทรัพย์ “แม้ว” 7.6 หมื่นล้าน ยันโอนหุ้นชินคอร์ป ไปยัง “แอมเพิลริช” ถูกต้องตามระเบีบบ ก.ล.ต.เงินที่ได้จากขายหุ้นเทมาเส็กบริสุทธิ์ ควรตกเป็นของผู้ถือหุ้นเดิม อุ้มนายไม่ได้รับความเป็นธรรมในชั้นไต่สวน คตส.
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสนามหลวง นายสมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ไต่สวนพยานคดีที่อัยการสูงสุด ร้องขอให้ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบุคคลในครอบครัว มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ โดยขณะดำรงตำแหน่งใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
โดยในวันนี้ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัว คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นเบิกความยืนยันว่า การซื้อขายหุ้นและการโอนหุ้นของบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน ไปยังบริษัท แอมเพิลริช ถูกต้องทุกขั้นตอนตามระเบียบคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ส่วนสาเหตุที่ถูกกรมสรรพสามิตเรียกค่าปรับภาษี เนื่องจากไม่ทราบว่าต้องนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นให้ นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว คุณหญิงพจมาน มานับรวมเป็นรายได้ด้วย โดยยืนยันด้วยว่า ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว ที่อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลยึดตกเป็นของแผ่นดินในคดีนี้ เป็นทรัพย์สินของครอบครัวชินวัตร ที่ได้มาก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อขายหุ้นให้ บริษัท เทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์แล้ว เงินที่ได้รับก็ควรตกเป็นของผู้ถือหุ้นเดิมถือเป็นเงินที่ได้มาด้วยความบริสุทธิ์
นางกาญจนาภา เบิกความด้วยว่า ครอบครัวชินวัตร ไม่ได้รับความเป็นธรรมในชั้นไต่สวนของอนุกรรมคณะกรรมการตรวจสอบกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหานำทนายความ และพยาน ซึ่งเป็นเครือญาติ เข้าให้การและรับฟังการสอบสวน รวมทั้งอนุ คตส.ตั้งคำถามเพื่อให้พยานของครอบครัวชินวัตร ตอบอย่างที่ อนุ คตส.ต้องการ ภายหลังศาลไต่สวนเสร็จสิ้นแล้วศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปวันที่ 30 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสนามหลวง นายสมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ไต่สวนพยานคดีที่อัยการสูงสุด ร้องขอให้ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบุคคลในครอบครัว มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ โดยขณะดำรงตำแหน่งใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
โดยในวันนี้ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัว คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นเบิกความยืนยันว่า การซื้อขายหุ้นและการโอนหุ้นของบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน ไปยังบริษัท แอมเพิลริช ถูกต้องทุกขั้นตอนตามระเบียบคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ส่วนสาเหตุที่ถูกกรมสรรพสามิตเรียกค่าปรับภาษี เนื่องจากไม่ทราบว่าต้องนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นให้ นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว คุณหญิงพจมาน มานับรวมเป็นรายได้ด้วย โดยยืนยันด้วยว่า ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว ที่อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลยึดตกเป็นของแผ่นดินในคดีนี้ เป็นทรัพย์สินของครอบครัวชินวัตร ที่ได้มาก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อขายหุ้นให้ บริษัท เทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์แล้ว เงินที่ได้รับก็ควรตกเป็นของผู้ถือหุ้นเดิมถือเป็นเงินที่ได้มาด้วยความบริสุทธิ์
นางกาญจนาภา เบิกความด้วยว่า ครอบครัวชินวัตร ไม่ได้รับความเป็นธรรมในชั้นไต่สวนของอนุกรรมคณะกรรมการตรวจสอบกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหานำทนายความ และพยาน ซึ่งเป็นเครือญาติ เข้าให้การและรับฟังการสอบสวน รวมทั้งอนุ คตส.ตั้งคำถามเพื่อให้พยานของครอบครัวชินวัตร ตอบอย่างที่ อนุ คตส.ต้องการ ภายหลังศาลไต่สวนเสร็จสิ้นแล้วศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปวันที่ 30 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
