น.พ.กวี ไชยศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมด้วย น.พ.วีรศักดิ์ เกียรติผุดงกุล รองผู้อำนวยการ และ น.พ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด ตรวจอาการของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ เป็นวันที่ 6 ล่าสุดอาการโดยรวมหายเป็นปกติแล้ว ตื่นจำวัดเวลา 06.00 น. ทำกิจธุระส่วนตัว ก่อนที่ลูกศิษย์จะพาไปเดินออกกำลังกายบริเวณหน้าห้องผู้ป่วย และชมดอกไม้พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ตั้งอยู่บนแท่นโต๊ะหมู่ ก่อนจะยิ้มด้วยความปลาบปลื้มและเดินกลับเข้าห้องพัก จากนั้นได้ฉันภัตตาหารที่ลูกศิษย์นำมาถวาย ซึ่งหลวงพ่อคูณสามารถฉันภัตตาหารคาวหวานที่ลูกศิษย์นำมาถวายได้มาก
น.พ.กวี กล่าวว่า ระบบร่างกายหลวงพ่อคูณทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แพทย์หยุดให้ยาโอเซลทามิเวียร์ และซานามิเวียร์แล้ว จากนี้ไปจะสังเกตอาการต่อไปอีกประมาณ 2 วัน หากไม่มีอะไรแทรกซ้อนจะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้ในวันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคมนี้
ส่วนผลการตรวจสารคัดหลั่งและเลือดจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ มีผลเป็นลบ (Negative) ไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างไรก็ตาม แพทย์ยังเป็นห่วงหลวงพ่อคูณ หากกลับวัดบ้านไร่ แม้ศิษย์ผู้ใกล้ชิดจะสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อเข้าไปปรนนิบัติท่านตามแพทย์สั่ง แต่เกรงว่าญาติโยมที่เข้ามากราบไว้ในแต่ละวันจำนวนมากอาจนำเชื้อมาสู่หลวงพ่อคูณได้ เพราะอายุมากแล้วถึง 86 ปี ควรเข้ากราบในระยะห่าง 1 เมตร ส่วนการเคาะศีรษะญาติโยมขอให้หยุดไว้ก่อน หรืออย่างน้อย 1 เดือน เพราะยังไม่แข็งแรง และไม่ควรนิมนต์หลวงพ่อคูณเดินทางไกล
น.พ.กวี กล่าวว่า ระบบร่างกายหลวงพ่อคูณทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แพทย์หยุดให้ยาโอเซลทามิเวียร์ และซานามิเวียร์แล้ว จากนี้ไปจะสังเกตอาการต่อไปอีกประมาณ 2 วัน หากไม่มีอะไรแทรกซ้อนจะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้ในวันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคมนี้
ส่วนผลการตรวจสารคัดหลั่งและเลือดจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ มีผลเป็นลบ (Negative) ไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างไรก็ตาม แพทย์ยังเป็นห่วงหลวงพ่อคูณ หากกลับวัดบ้านไร่ แม้ศิษย์ผู้ใกล้ชิดจะสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อเข้าไปปรนนิบัติท่านตามแพทย์สั่ง แต่เกรงว่าญาติโยมที่เข้ามากราบไว้ในแต่ละวันจำนวนมากอาจนำเชื้อมาสู่หลวงพ่อคูณได้ เพราะอายุมากแล้วถึง 86 ปี ควรเข้ากราบในระยะห่าง 1 เมตร ส่วนการเคาะศีรษะญาติโยมขอให้หยุดไว้ก่อน หรืออย่างน้อย 1 เดือน เพราะยังไม่แข็งแรง และไม่ควรนิมนต์หลวงพ่อคูณเดินทางไกล
