ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “หลวงพ่อคูณ” เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ถูกลูกศิษย์นำส่ง รพ.มหาราชนครราชสีมา เป็นการด่วน หลังอาพาธมีอาการเบลอ สับสน หลงลืมจำใครไม่ได้ แพทย์เร่งตรวจอาการสมอง ปอด และหัวใจ แต่หลวงพ่อหงุดหงิดไม่ค่อยให้ความร่วมมือ ระบุผลตรวจเบื้องต้นสมองยังปกติ คาดเกิดจากสูงอายุ-พักผ่อนไม่เพียงพอและฉันยาบางชนิด แพทย์ให้พักรักษาที่ รพ.ประเมินอาการวันต่อวัน
วันนี้ (13 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.45 น. ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดได้นำ พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นการด่วน หลังอาพาธ ด้วยอาการเบลอ สับสน หลงลืม จดจำใครไม่ได้
ทันทีที่เดินทางมาถึงโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา คณะแพทย์ได้นำหลวงพ่อคูณเข้าตรวจที่ห้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูงระบบดิจิตอล ที่ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เพื่อเอกซเรย์ตรวจดูสภาพสมอง และนำหลวงพ่อเข้าตรวจที่ห้องเอกซเรย์เพื่อตรวจดูสภาพปอด จากนั้นได้นำหลวงพ่อคูณไปยังตึกผู้ป่วยหลังเก่า ชั้น 8 เพื่อตรวจคลื่นสมองไฟฟ้า แต่หลวงพ่อไม่ยอมให้ตรวจ บ่นอยากกลับวัดบ้านไร่ พร้อมแสดงอาการกลัวและตัวสั่น แพทย์จึงนำมายังศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เพื่อตรวจดูการเต้นของหัวใจ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะหลวงพ่อไม่ยอมให้แพทย์ตรวจเช่นกัน อีกทั้งหลวงพ่ออารมณ์ไม่ดี แสดงอาการหงุดหงิดตลอดเวลา และไม่ยอมนอนเปลผู้ป่วย โดยขอเดินเอง พร้อมบ่นอยากกลับวัดบ้านไร่ท่าเดียว และยังคงมีอาการเบลอสับสนจำใครไม่ได้
นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดเปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา แพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด ได้มาเจาะเลือดหลวงพ่อคูณไปตรวจตามกำหนดครบรอบ 3 เดือน จำนวน 2 หลอด ซึ่งขณะนี้อาการหลวงพ่อยังเป็นปกติทุกอย่าง กระทั่งเวลา 10.00 น. ลูกศิษย์ได้พาไปสรงน้ำเช็ดตัว สังเกตพบว่ามีอาการเบลอ สับสน จำใครไม่ได้ จึงแจ้งให้แพทย์ให้โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ทราบจึงสั่งแพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทดมาตรวจดูอาการและ ให้พักผ่อน พบว่าอาการดีขึ้นจึงให้จำวัด
กระทั่งเวลา 12.00 น. หลวงพ่อตื่นจากจำวัดก็มีการเบลอสับสนมากกว่าเดิม แพทย์จึงให้นำส่งมาตรวจอาการโดยละเอียดที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาดังกล่าว
ทางด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดและแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ พร้อมด้วย นพ.สุรินทร์ แซ่ตั้ง และ นพ.ชัยวิวัฒน์ ตุงคเสรีรักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมประสาท โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงผลเบื้องต้นการตรวจอาการอาพาธของ หลวงพ่อคูณ ระบุว่า จากการตรวจสมองเบื้องต้นไม่พบความผิดปกติ แต่คนไข้ไม่ยอมให้ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองซึ่งเป็นการตรวจสมองอย่างละเอียด ฉะนั้น สิ่งที่ทำได้ขณะนี้ คือ คอยสังเกตอาการของหลวงพ่อต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร เบื้องต้นแพทย์สบายใจได้ว่า รูปสมองของหลวงพ่อไม่พบความผิดปกติ
ส่วนสาเหตุคาดว่าอาการเบลอ สับสน จำใครไม่ได้ลักษณะเช่นนี้อาจเกิดจากการมีอายุมากของผู้สูงอายุ และพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือฉันยาบางอย่างเข้าไป อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการเบลอ สับสนได้ รวมทั้งหลวงพ่อคูณนั้นปกติแล้วกลัวเข็มฉีดยามาก ฉะนั้น การเจาะเลือดของแพทย์เมื่อเช้าที่ผ่านมา อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลวงพ่อช็อก จนมีอาการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์มีความเห็นให้หลวงพ่อคูณ พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 8 ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 โรงพยาบาลมหาราชสีมา เพื่อสังเกตอาการและประเมินอาการอาพาธแบบวันต่อวัน ซึ่งแม้ผลตรวจสมองเบื้องต้นจะไม่พบสิ่งผิดปกติแต่ต้องเฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด
อนึ่ง พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อายุ 85 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา อาพาธถูกนำส่งโรงพยาบาลครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมาด้วยอาการมีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย ซึมและสับสน เนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด แพทย์ให้พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล รวม 6 วัน อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา
