วานนี้ (26 เม.ย.) เวลา 11.00 น. ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดนำโดยนายสมศักดิ์ เหมทานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังมีอาการไข้หนาวสั่น อ่อนเพลีย สับสนและซึม
ทันทีที่เดินทางถึงโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ได้นำหลวงพ่อคูณ เข้าตรวจเอ็กซเรย์ร่างกายและเอ็กซเรย์สมองด้วยคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงระบบดิจิตอล ก่อนที่จะนำตัวมาตรวจระบบหัวใจ ที่ศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด บริเวณชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 โดย นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดและเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ซึ่งได้ตรวจอาการอย่างละเอียดใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงนำหลวงพ่อคูณ ขึ้นไปนอนพักผ่อนที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 9 ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ที่มาคอยเข้าดูอาการอย่างใกล้ชิดเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาและแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า หลวงพ่อคูณ เริ่มมีอาการสับสนเล็กน้อยตั้งแต่ 5 ทุ่มเมื่อคืนนี้ และมาตอนเช้าวันนี้ (26 เม.ย.) มีอาการสับสน และอาการซึมมากขึ้น จึงได้ให้แพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด ไปประเมินอาการเบื้องต้น ปรากฏว่ามีไข้และคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับหลวงพ่อคูณน่าจะเป็นอาการติดเชื้อในกระแสเลือดประกอบกับอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทดได้ให้การรักษาเบื้องต้นด้วยการให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียแล้ว
หลังจากมาถึงโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาและแพทย์ได้ทำการตรวจ โดยเฉพาะกรณีหลวงพ่อคูณเคยมีปัญหาทางสมองถึงขั้นต้องผ่าตัดใหญ่ที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อ 5 ปีก่อน และท่านมีอายุมากถึง 86 ปีแล้ว ฉะนั้นอาการซึมดังกล่าว ก็ต้องซีเรียสหรือเป็นห่วงไว้ก่อนว่า มีปัญหาเรื่องเส้นเลือดสมองตีบหรือแตกมากขึ้นหรือไม่
"หลวงพ่อคูณปีนี้อายุ 86 ปี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ อาการเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงและแพทย์ค่อนข้างซีเรียสจึงต้องให้ส่งตัวมารับการรักษาและตรวจอย่างละเอียดที่ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา" นพ.พินิศจัย กล่าว และกล่าวต่อว่า จากตรวจดูอาการมั่นใจว่าเป็นการติดเชื้อในกระแสเลือด แต่เชื้อชนิดใดต้องรอผลการตรวจ และติดเชื้อในตำแหน่งใดนั้นก็ไม่สามารถระบุอย่างชัดเจนได้ อาจจะเป็นติดเชื้อทางเดินหายใจหรือระบบอื่นก็ได้ แต่คงต้องขอดูผลตรวจอย่างชัดเจนอีกที และขอดูอาการต่อสักระยะ ลักษณะเช่นนี้ เบาที่สุดอาจจะเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามต้องคิดไปในทางที่ซีเรียสไว้ก่อน
ขณะนี้แพทย์ให้หลวงพ่อคูณพักรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลการอีกสักระยะ ไม่สามารถกำหนดวันได้ว่าจะอนุญาตให้กับวัดบ้านไร่ได้เมื่อใด เพราะต้องดูผลตรวจและการรักษาเป็นเกณฑ์ถึงจะประเมินได้ว่าจะให้กลับได้เมื่อไหร่ การรักษาขณะนี้ได้ให้ยาปฏิชีวนะ ตามอาการไปก่อน และให้งดเยี่ยม
ด้าน นพ.ชัยวิวัฒน์ ตุงคะเสรีรักษ์ แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการประเมินดูช่วงที่นำหลวงพ่อคูณมาพบแพทย์ ยังมีสติ รับรู้ได้ดีและพูดได้ปกติ ซึ่งจากการสแกนคอมพิวเตอร์ตรวจดูสมอง พบว่า มีแผลเป็นอยู่ที่สมองด้านขวา ซึ่งเป็นปกติของหลวงพ่อคูณที่เคยมีเลือดออกในสมองอันเดิม ส่วนเลือดใหม่ยังไม่พบ สมองโดยรวมเป็นปกติดี แต่ที่ทำให้สับสนอาจมาจากอาการไข้ที่มีขึ้นมาและทำให้มีอาการสับสนเพิ่มขึ้น ซึ่งการเกิดอาการไข้น่าจะมาจากอาการติดเชื้อ ขณะนี้ได้ส่งเลือดไปพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการแล้ว
ทันทีที่เดินทางถึงโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ได้นำหลวงพ่อคูณ เข้าตรวจเอ็กซเรย์ร่างกายและเอ็กซเรย์สมองด้วยคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงระบบดิจิตอล ก่อนที่จะนำตัวมาตรวจระบบหัวใจ ที่ศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด บริเวณชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 โดย นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดและเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ซึ่งได้ตรวจอาการอย่างละเอียดใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงนำหลวงพ่อคูณ ขึ้นไปนอนพักผ่อนที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 9 ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ที่มาคอยเข้าดูอาการอย่างใกล้ชิดเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาและแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า หลวงพ่อคูณ เริ่มมีอาการสับสนเล็กน้อยตั้งแต่ 5 ทุ่มเมื่อคืนนี้ และมาตอนเช้าวันนี้ (26 เม.ย.) มีอาการสับสน และอาการซึมมากขึ้น จึงได้ให้แพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด ไปประเมินอาการเบื้องต้น ปรากฏว่ามีไข้และคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับหลวงพ่อคูณน่าจะเป็นอาการติดเชื้อในกระแสเลือดประกอบกับอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทดได้ให้การรักษาเบื้องต้นด้วยการให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียแล้ว
หลังจากมาถึงโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาและแพทย์ได้ทำการตรวจ โดยเฉพาะกรณีหลวงพ่อคูณเคยมีปัญหาทางสมองถึงขั้นต้องผ่าตัดใหญ่ที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อ 5 ปีก่อน และท่านมีอายุมากถึง 86 ปีแล้ว ฉะนั้นอาการซึมดังกล่าว ก็ต้องซีเรียสหรือเป็นห่วงไว้ก่อนว่า มีปัญหาเรื่องเส้นเลือดสมองตีบหรือแตกมากขึ้นหรือไม่
"หลวงพ่อคูณปีนี้อายุ 86 ปี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ อาการเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงและแพทย์ค่อนข้างซีเรียสจึงต้องให้ส่งตัวมารับการรักษาและตรวจอย่างละเอียดที่ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา" นพ.พินิศจัย กล่าว และกล่าวต่อว่า จากตรวจดูอาการมั่นใจว่าเป็นการติดเชื้อในกระแสเลือด แต่เชื้อชนิดใดต้องรอผลการตรวจ และติดเชื้อในตำแหน่งใดนั้นก็ไม่สามารถระบุอย่างชัดเจนได้ อาจจะเป็นติดเชื้อทางเดินหายใจหรือระบบอื่นก็ได้ แต่คงต้องขอดูผลตรวจอย่างชัดเจนอีกที และขอดูอาการต่อสักระยะ ลักษณะเช่นนี้ เบาที่สุดอาจจะเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามต้องคิดไปในทางที่ซีเรียสไว้ก่อน
ขณะนี้แพทย์ให้หลวงพ่อคูณพักรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลการอีกสักระยะ ไม่สามารถกำหนดวันได้ว่าจะอนุญาตให้กับวัดบ้านไร่ได้เมื่อใด เพราะต้องดูผลตรวจและการรักษาเป็นเกณฑ์ถึงจะประเมินได้ว่าจะให้กลับได้เมื่อไหร่ การรักษาขณะนี้ได้ให้ยาปฏิชีวนะ ตามอาการไปก่อน และให้งดเยี่ยม
ด้าน นพ.ชัยวิวัฒน์ ตุงคะเสรีรักษ์ แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการประเมินดูช่วงที่นำหลวงพ่อคูณมาพบแพทย์ ยังมีสติ รับรู้ได้ดีและพูดได้ปกติ ซึ่งจากการสแกนคอมพิวเตอร์ตรวจดูสมอง พบว่า มีแผลเป็นอยู่ที่สมองด้านขวา ซึ่งเป็นปกติของหลวงพ่อคูณที่เคยมีเลือดออกในสมองอันเดิม ส่วนเลือดใหม่ยังไม่พบ สมองโดยรวมเป็นปกติดี แต่ที่ทำให้สับสนอาจมาจากอาการไข้ที่มีขึ้นมาและทำให้มีอาการสับสนเพิ่มขึ้น ซึ่งการเกิดอาการไข้น่าจะมาจากอาการติดเชื้อ ขณะนี้ได้ส่งเลือดไปพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการแล้ว
