ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – แพทย์ รพ.มหาราชโคราชระบุอาการอาพาธ “หลวงพ่อคูณ” ดีขึ้นมาก ฉันภัตตาหารได้มากขึ้น ความจำกลับมาเท่าเดิม ผลตรวจเลือด-สารคัดหลั่งจากห้องแล็ปเบื้องต้นไม่พบเชื้อหวัด 2009 รอยืนยันอีกครั้งจาก รพ.จุฬาฯ พรุ่งนี้ แต่คงให้การรักษาเหมือนผู้ป่วยหวัด 2009 ต่อไป โดยให้ยาโอเซลทามิเวียร์จนครบกำหนด พร้อมยังสั่งงดเยี่ยม คาดหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนให้กลับวัดบ้านไร่ 20 ส.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นวันที่ 4 หลังถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการเบลอ สับสน จำใครไม่ได้ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (16 ส.ค.) อาการโดยรวมหลวงพ่อคูณดีขึ้นมาก สามารถฉันภัตตาหารได้มากขึ้น หน้าตาสดชื่นกว่าทุกวัน แต่ยังคงมีอาการอ่อนเพลียอยู่บ้าง ความจำกลับมาเท่าเดิม และไข้ลดลงเป็นปกติ
นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยรวมของหลวงพ่อคูณวันนี้ดีขึ้นตามลำดับ การรู้สึกตัวเป็นปกติ ไข้ลดลง และฉันภัตตาหารได้มากขึ้น เสลดในปอดลดลงแต่ยังคงมีอาการอ่อนเพลียเนื่องจากการติดเชื้อไวรัส
ส่วนการรักษาแพทย์ยังคงให้ยาโอเซลทามีเวียร์ต่อเนื่อง ซึ่งจนถึงวันนี้หลวงพ่อคูณรับยาไปแล้ว 6 เม็ด พร้อมกับให้ยาซานามีเวียร์ฆ่าเชื้อไวรัสแบบพ่น และให้น้ำเกลือเป็นขวดที่ 4 ส่วนผลการตรวจเลือดและสารคัดหลั่งเบื้องต้นที่ส่งตรวจยังห้องปฏิบัติการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์จังหวัดนครราชสีมาผลออกมาเป็นลบ (Negative) คือ ไม่ยืนยันเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่วนตัวอย่างเลือดและสารคัดหลั่งที่ส่งตรวจ รพ.จุฬาฯ กรุงเทพฯ คาดว่าจะทราบผลในวันจันทร์ที่ 17 ส.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม แม้ผลการตรวจเบื้องต้นจะไม่ยืนยันชัดเจนว่า หลวงพ่อคูณป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่การรักษาของแพทย์ยังคงให้ยาเหมือนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 เหมือนเดิม เพราะคนไข้ตอบสนองต่อการรักษาได้เป็นอย่างดี ซึ่งผลออกมาเช่นนี้ท่านอาจเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดาก็ได้ แต่ด้วยประสบการณ์ของแพทย์ ประกอบกับหลวงพ่อคูณเคยรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปก่อนหน้านี้ จึงทำให้เชื่อว่าท่านป่วยเป็นไข้หวัด 2009 อีกทั้งผลตรวจห้องแล็ปนั้นไม่สามารถยืนยันได้ 100% ทุกกรณี ทั้งนี้คงต้องรอผลตรวจจากกรุงเทพฯ ยืนยันอีกครั้ง
“แพทย์ยังคงให้งดเยี่ยม และได้กำชับให้ลูกศิษย์สวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าไปปรนนิบัติท่าน และให้หลวงพ่อทำกายภาพบำบัดบนเตียงผู้ป่วยเพื่อจะได้แข็งแรงเร็วขึ้น ซึ่งหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นหลังรับยาครบตามกำหนดแล้ว อย่างเร็วที่สุดจะอนุญาตให้หลวงพ่อคูณกลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้ในวันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคมนี้ได้ ทั้งนี้จะประเมินดูอาการอีกครั้งหนึ่ง” นพ.พินิศจัย กล่าว