ระดมค้นหา “จระเข้” หลวงพ่อคูณยังไม่พบ-ชาวบ้านเชื่อไม่ทำร้ายคน

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชาวด่านขุนทด โคราช พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ระดมกำลังค้นหาจระเข้ ที่หลุดหนีออกไปจากสระน้ำในวัดบ้านไร่ “หลวงพ่อคูณ” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่ยังไม่พบ ด้านศิษย์ใกล้ชิดยันมีจระเข้อยู่ทั้งหมด 7 ตัว แต่อาศัยอยู่ประจำแค่ 2 ตัว แต่ครั้งนี้หลุดออกไปหมดคาดไม่นานก็กลับ เผย ชาวบ้านไม่หวาดกลัว เพราะพบเจอบ่อยครั้งและ เชื่อว่า จระเข้หลวงพ่อคูณไม่ทำร้ายใคร

วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าการออกค้นหาจระเข้ ที่หลุดหนีออกไปจากบ่อเลี้ยงภายในวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เป็นวันที่ 2 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและชาวบ้านยังช่วยกันออกค้นหาในพื้นที่โดยรอบๆ และขยายวงกว้างออกไปอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่พบตัวจระเข้ที่หลุดหนีหายไปแต่อย่างใด

นายมานะ แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลกุดพิมาน คณะกรรมการของวัดบ้านไร่ ศิษย์ผู้ใกล้ชิด พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ กล่าวว่า หลวงพ่อคูณ ท่านได้เลี้ยง จระเข้ที่เลี้ยงไว้ในสระน้ำวัดบ้านไร่มานานหลายปีแล้ว ตอนแรกมีทั้งหมด 9 ตัว ตัวที่ใหญ่ที่สุด น้ำหนักมากกว่า 500 กิโลกรัม (กก.) แต่ตายไปแล้วเนื่องจากน้ำในบ่อแห้ง ส่วนอีกตัวขนาดใกล้เคียงกัน หลวงพ่อ ได้บริจาคให้กับสวนสัตว์นครราชสีมา เพื่อนำไปศึกษาและให้ประชาชนที่สนใจเข้าชม

ส่วนจระเข้ที่เหลืออยู่อีก 7 ตัว ที่อาศัยอยู่ในสระน้ำของวัดบ้านไร่ นั้น บางครั้งก็ออกไปอาศัยอยู่ตามห้วยหนองคลองบึง สาธารณะ ชาวบ้านที่อยู่บริเวณรอบวัดบ้านไร่พบเห็นจระเข้พวกนี้อยู่เป็นประจำ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา และชาวบ้านเชื่อว่าจระเข้ของหลวงพ่อคูณไม่ทำร้ายใครซึ่งที่ผ่านมามันก็ไม่ได้ทำร้ายใครเลย มีบางคนเท่านั้นที่เห็นแล้วชอบนำไม้ไปแหย่หรือทำร้ายมัน

นายมานะ กล่าวอีกว่า จระเข้ที่อาศัยอยู่ประจำในสระน้ำวัดบ้านไร่จะมีอยู่แค่ 2 ตัว น้ำหนักตัวละประมาณ 200 กก.มีบางครั้งที่ออกไปจากสระน้ำ เพื่อไปหากินอาหาร หรือไม่ก็ไปเที่ยว จนล่าสุดทราบว่าได้ออกไปจากสระน้ำภายในวัดเมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) โดยคนที่ดูแลจระเข้ได้เอาอาหารไปให้และเรียกให้มากินอาหาร แต่กลับไม่พบจระเข้ทั้ง 2 ตัวเหมือนทุกวันที่ผ่านมา จึงคาดว่ามันคงหนีออกไปนอกสระน้ำแล้ว และไม่นานก็คงกลับมาเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ชาวบ้านในเขตพื้นที่ตำบลกุดพิมาน อ.ด่านขุนทด ไม่ได้หวาดกลัวจระเข้ของหลวงพ่อ เพราะพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่ขอฝากเตือนประชาชนว่า หากพบแล้วอย่าเข้าไปทำร้ายมันหรือไปแหย่ เพราะอาจเป็นอันตรายได้ หรือไม่ก็ให้แจ้งวัดบ้านไร่ได้ทราบเพื่อจะได้ไปนำตัวจระเข้กลับมาไว้ที่สระน้ำวัดบ้านไร่เช่นเดิม