ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ศิษยานุศิษย์ลงนามสมุดเยี่ยม “หลวงพ่อคูณ” ต่อเนื่อง ด้านแพทย์ระบุหลวงพ่อคูณหายเป็นปกติแล้ว แต่ยังคงให้พักรักษาตัวที่รพ.ต่อเพื่อเฝ้าสังเกตอาการอีกระยะหนึ่งและงดเยี่ยมเกรงติดเชื้อเพิ่มเติม คาดหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงให้กลับวัดบ้านไร่ได้ 1 พ.ค.นี้ ด้านผู้ว่าฯ โคราชรุดนำกระเช้าเข้าเยี่ยมพ่อคูณ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร.9 รพ.มหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นวันที่ 4 หลังลูกศิษย์นำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการมีไข้ หนาวสั่น ซึมและสับสน เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (29 เม.ย.) อาการอาพาธ หลวงพ่อคูณหายเป็นปกติแล้ว แต่แพทย์ยังคงให้พักต่ออีกสักระยะเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น โดยหลวงพ่อคูณสามารถฉันภัตตาหารได้มาก แต่เดินออกกำลังกายที่บริเวณหน้าห้องผู้ป่วยได้ไม่ไกลเหมือนทุกวัน
เวลา 09.30 น. นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณ พร้อมเปิดเผยว่า จากการตรวจร่างกายของหลวงพ่อคูณหายเป็นปกติแล้ว แต่แพทย์ยังไม่มั่นใจจึงต้องให้พักรักษาต่ออีกสักระยะ และให้งดเยี่ยมเนื่องจากเกรงว่าหลวงพ่อจะติดเชื้อใหม่เข้าไปอีก ซึ่งหากอาการดีขึ้นตามลำดับเช่นนี้ และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคาดว่าจะอนุญาตให้หลวงพ่อคูณกลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้ในวันศุกร์ที่ 1 พ.ค.นี้แน่นอน
ส่วนบรรยากาศหน้าห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ได้มีศิษยานุศิษย์ที่ทราบข่าวการอาพาธของหลวงพ่อคูณ เดินทางมาลงนามในสมุดเยี่ยมที่ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาจัดเตรียมไว้ให้อย่างต่อเนื่อง พร้อมนำมาลัยมะลิและกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมด้วย ขณะที่ นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำกระเช้ามาเยี่ยมอาการหลวงพ่อคูณตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (28 เม.ย.)
ทางด้านโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกประกาศโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เรื่องอาการอาพาธพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ฉบับที่ 2 ล่าสุดระบุ ว่า คณะแพทย์ได้ตรวจอาการอาพาธพระเทพวิทยาคม มีรายงานการเปลี่ยนแปลงและการรักษาพยาบาลดังนี้
1.อาการโดยรวมดีขึ้นมาก ฉันอาหารได้มากขึ้น สัญญาณชีพปกติ ไม่มีไข้ น้ำตาลในเลือดปกติ สามารถเดินออกกำลังการตอนเช้าได้ และ 2.คณะแพทย์ยังคงให้พักรักษาตัวเพื่อเฝ้าสังเกตอาการอีกระยะหนึ่ง ประกาศเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2552