สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รายงานยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 588 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 701 ราย ทำให้เงินลงทุนลดลงจากปีก่อนร้อยละ 5.3 หรือเป็นยอดเงินลงทุน 222,000 ล้านบาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนของต่างชาติ 11,800 ล้านบาท ลดลง 15,300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้การจ้างงานจากการส่งเสริมการลงทุน ลดลงไปถึงร้อย
ละ 53.5
ทั้งนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด รองลงมาเป็นยุโรป สหรัฐฯ สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง ส่วนประเภทธุรกิจที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดคือ ธุรกิจบริการ และสาธารณูปโภค รองลงมาคือ ธุรกิจด้านเกษตรกรรม และผลผลิตจากการเกษตร ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่า เตรียมจัดเจรจาและจับคู่ธุรกิจระหว่างนักลงทุน กับนักลงทุนจากญี่ปุ่นปลายเดือนนี้ เพื่อให้นักลงทุนญี่ปุ่น ศึกษาศักยภาพของไทยในการรองรับการลงทุนภาคอุตสาหกรรม โดยเป็นกลุ่มกิจการประเภทเดียวกัน หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักร และอุปกรณ์ โดยก่อนหน้านี้ได้จับคู่ธุรกิจไทย-จีนแล้ว
ละ 53.5
ทั้งนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด รองลงมาเป็นยุโรป สหรัฐฯ สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง ส่วนประเภทธุรกิจที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดคือ ธุรกิจบริการ และสาธารณูปโภค รองลงมาคือ ธุรกิจด้านเกษตรกรรม และผลผลิตจากการเกษตร ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่า เตรียมจัดเจรจาและจับคู่ธุรกิจระหว่างนักลงทุน กับนักลงทุนจากญี่ปุ่นปลายเดือนนี้ เพื่อให้นักลงทุนญี่ปุ่น ศึกษาศักยภาพของไทยในการรองรับการลงทุนภาคอุตสาหกรรม โดยเป็นกลุ่มกิจการประเภทเดียวกัน หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักร และอุปกรณ์ โดยก่อนหน้านี้ได้จับคู่ธุรกิจไทย-จีนแล้ว
