ASTVผู้จัดการรายวัน-บอร์ดบีโอไอนัดถกวันนี้ เตรียมอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน 7 โครงการมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท เผยยอดลงทุน 11 เดือนเม็ดเงิน 4.36 แสนล้านบาทลดลง 34.4%
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ธ.ค.นายโอฬาร ไชยประวัติ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ได้นัดประชุมคณะกรรมการบีโอไอ (บอร์ดบีโอไอ)เพื่อพิจารณาอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน 7 โครงการมูลค่าประมาณกว่า 5 หมื่นล้านบาท พร้อมกันนี้ บีโอไอยังจะรายงานภาวะการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนฯ 11 เดือน
"บอร์ดครั้งนี้ถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบีโอไอชุดใหม่ จากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งตามกฎหมายแม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการสามารถนัดประชุมได้ เพราะเป็นการพิจารณาส่งเสริมการลงทุนปกติทั่วไป"นางอรรชกากล่าว
สำหรับภาวะลงทุนช่วง 11 เดือนปีนี้พบว่ามีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมลงทุน 1,198 โครงการ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1,165 โครงการ ส่วนเม็ดเงินขอรับการส่งเสริมลงทุนยอมรับว่าลดลงมากเหลือเพียง 4.36 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 5.86 แสนล้านบาท หรือลดลงจากปีที่ผ่านมาถึง 34.4% เนื่องจากปี 2550 มีโครงการในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและรถยนต์เข้ามามากกว่า 3.2 แสนล้านบาท จากปีนี้มีเข้ามาเพียง 1.2 แสนล้านบาท ประกอบกับปีนี้ไม่มีโครงการใหญ่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เข้ามา แต่เป็นโครงการต่อเนื่องของปีก่อน โดยจะเห็นได้จากจำนวนโครงการที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2550
ทั้งนี้ แม้ว่าเงินลงทุนในปีนี้จะไม่เท่าปีที่แล้วที่มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมลงไทยไว้ถึง 6.5 แสนล้านบาท เพราะอย่างมากสุดปีนี้คงอยู่ในระดับ 5 แสน แต่คาดว่าในปีหน้าคาดว่าจะมีเงินลงทุนเข้ามาไม่น้อยกว่าปี 2550 ที่อยู่ในระดับ 6.5 แสนล้านบาท เพราะจะมีโครงการใหญ่ที่รออยู่คือโครงการเหล็กต้นน้ำที่มีภาคเอกชนสนใจพอสมควรและแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจจะไม่สู้ดีนักโดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกค่อนข้างชะลอตัวแต่กิจการหลายอย่างโดยเฉพาะเหล็กนั้นจะต้องอาศัยเวลาในการก่อสร้างซึ่งการลงทุนจะต้องมองยาว 1-2 ปีหากเศรษฐกิจกลับมาดีความต้องการก็จะกลับมา
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ธ.ค.นายโอฬาร ไชยประวัติ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ได้นัดประชุมคณะกรรมการบีโอไอ (บอร์ดบีโอไอ)เพื่อพิจารณาอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน 7 โครงการมูลค่าประมาณกว่า 5 หมื่นล้านบาท พร้อมกันนี้ บีโอไอยังจะรายงานภาวะการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนฯ 11 เดือน
"บอร์ดครั้งนี้ถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบีโอไอชุดใหม่ จากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งตามกฎหมายแม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการสามารถนัดประชุมได้ เพราะเป็นการพิจารณาส่งเสริมการลงทุนปกติทั่วไป"นางอรรชกากล่าว
สำหรับภาวะลงทุนช่วง 11 เดือนปีนี้พบว่ามีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมลงทุน 1,198 โครงการ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1,165 โครงการ ส่วนเม็ดเงินขอรับการส่งเสริมลงทุนยอมรับว่าลดลงมากเหลือเพียง 4.36 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 5.86 แสนล้านบาท หรือลดลงจากปีที่ผ่านมาถึง 34.4% เนื่องจากปี 2550 มีโครงการในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและรถยนต์เข้ามามากกว่า 3.2 แสนล้านบาท จากปีนี้มีเข้ามาเพียง 1.2 แสนล้านบาท ประกอบกับปีนี้ไม่มีโครงการใหญ่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เข้ามา แต่เป็นโครงการต่อเนื่องของปีก่อน โดยจะเห็นได้จากจำนวนโครงการที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2550
ทั้งนี้ แม้ว่าเงินลงทุนในปีนี้จะไม่เท่าปีที่แล้วที่มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมลงไทยไว้ถึง 6.5 แสนล้านบาท เพราะอย่างมากสุดปีนี้คงอยู่ในระดับ 5 แสน แต่คาดว่าในปีหน้าคาดว่าจะมีเงินลงทุนเข้ามาไม่น้อยกว่าปี 2550 ที่อยู่ในระดับ 6.5 แสนล้านบาท เพราะจะมีโครงการใหญ่ที่รออยู่คือโครงการเหล็กต้นน้ำที่มีภาคเอกชนสนใจพอสมควรและแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจจะไม่สู้ดีนักโดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกค่อนข้างชะลอตัวแต่กิจการหลายอย่างโดยเฉพาะเหล็กนั้นจะต้องอาศัยเวลาในการก่อสร้างซึ่งการลงทุนจะต้องมองยาว 1-2 ปีหากเศรษฐกิจกลับมาดีความต้องการก็จะกลับมา