(***)สมควรที่จะได้มีการระงับหรือทบทวน แล้วเปิดโอกาสให้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ต่อไปในปีงบประมาณต่อไป หรือ 1 ต.ค.นี้ เป็นผู้ดำเนินการจัดทำเป็นหลัก ตรงนี้ก็จะได้ไม่มีใครไปกังวลว่าในช่วงที่จะต้องมีการโยกย้ายแต่งตั้ง จะต้องมีการเลื่อนตำแหน่งหรืออะไรต่างๆ จะมีเหตุอะไรซึ่งไปกระทบกระเทือนกับการทำคดี ซึ่งตรงไปตรงมา แล้วอาจจะไปกระทบกับบุคคลซึ่งอยู่ในราชการ อันนี้ก็เป็นเรื่องแรกที่ท่านได้เสนอมา ซึ่งผมก็ได้เห็นชอบ และท่านรองนายกฯ สุเทพ ก็เห็นชอบด้วยกับแนวทางนี้
ประการที่ 2 ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานให้ผมทราบว่า ท่านเองมีภารกิจในการที่จะต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศที่เป็นงานสำคัญทางราชการ และเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็จะขอถือโอกาสในการลา รวมทั้งการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยเริ่มต้นประมาณสัปดาห์หน้า คิดว่าคงจะเป็นสัปดาห์หน้า ในระยะเวลาที่ผมคิดว่าเพียงพอกับการที่จะทำให้คดีต่างๆ มีความคืบหน้าไป โดยไม่มีใครที่จะมาสามารถครหาได้ว่าตัวท่านจะเข้ามาเกี่ยวข้องหรือแทรกแซงอะไร ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว อย่างที่บอกก็คือว่าเรายังไม่ได้พบหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าท่านนั้นเป็นอุปสรรค ปัญหา เมื่อท่านได้เสนอมาอย่างนี้ ผมก็เห็นชอบด้วย เพราะฉะนั้นคิดว่าต้นสัปดาห์หน้าท่านก็คงจะทำเรื่องของตารางเวลาในการที่จะไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศและการลาต่อไป ซึ่งผมคิดว่าก็จะทำให้คนที่เคยมาพูดกับผมในเรื่องกรอบเวลา อุปสรรค ปัญหาต่างๆ ในการทำงาน ก็น่าจะเดินต่อได้ เพราะฉะนั้นผมถือว่าผมได้แก้ปัญหานี้โดยมุ่งในเรื่องผลของงานเป็นหลัก พร้อมๆ กับการที่จะดูแลให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และพยายามอย่างที่สุดก็คือ ทำให้ระบบการบริหารงานภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปอย่างมีเอกภาพ เป็นระบบ และไม่ให้เป็นประเด็นที่จะต้องมาใช้เป็นเวทีต่อสู้กันทางการเมือง นี่คือแนวทางที่ผมคิดว่าเป็นแนวทางที่ชัดเจน ทุกฝ่ายปฏิบัติได้ เป็นธรรมกับทุกคน และขอขอบคุณท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้เสนอแนวทางนี้มาให้ผม
ถาม-
นายกฯ- การลานี่ คือผมเข้าใจว่าท่านต้องไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศอยู่ ก็คงเป็นสิบกว่าวัน และก็คงจะลาเพิ่มเติมด้วย คือเวลาเพียงพอต่อการที่ผู้ที่เคยทำคดีบอกว่า เขาขอเวลาไม่กี่วันที่จะเดินหน้าต่างๆ ถ้าบรรยากาศต่างๆ คิดว่าไม่มีปัญหา อุปสรรค เช่น เรื่องโยกย้ายแต่งตั้งอะไรต่างๆ
ถาม- ลายาวถึงเกษียณ
นายกฯ- ไม่ถึงเกษียณ หรอกครับ
ถาม- ระหว่างการลาใครจะทำหน้าที่แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นายกฯ- ก็เป็นอำนาจของผมนะครับ กำลังดูข้อกฎหมายอยู่ว่าจะเป็นผมหรือจะเป็นท่าน ที่จะต้องแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน
ถาม- จะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะทราบ
นายกฯ- ในชั้นนี้ท่านยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ จนถึงต้นสัปดาห์หน้า
ถาม-
นายกฯ- ผมคิดว่าสังคมต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ข้อเสนอนี้ท่านเป็นคนมาเสนอ ผมไม่สามารถไปบังคับให้ท่านทำสิ่งนี้ได้ ท่านเป็นคนเสนอ ท่านเต็มใจที่จะทำ และผมก็เห็นว่าเป็นทางออกที่ดี
ถาม- จะมีผลอะไรไหม เพราะเลขาฯ รมว.กลาโหม ก่อนหน้านี้ เมื่อวานนี้ออกมาขู่ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณพัชรวาท จะทำทั้งในและนอกกฎหมาย
นายกฯ- ก็เป็นการตัดสินใจของท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเอง ไม่มีใครมีสิทธิ์ทำอะไรนอกกฎหมาย เพราะฉะนั้นอันนี้ก็เป็นสิ่งที่จะต้องระมัดระวังคำพูดนะครับ ว่านอกกฎหมายนี่ไม่มีใครมีสิทธิ์ทำ
ถาม- กังวลกับคำขู่ไหม
นายกฯ- ผมไม่กังวลกับคำขู่หรอกครับ เพราะผมยืนยันว่าผมต้องดูแลให้บ้านเมืองนี้ปกครองด้วยกฎหมาย และทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายแบบเสมอภาคกัน
ถาม- จะทำให้ทหารไม่พอใจแล้วออกมาเขย่ารัฐบาล?
นายกฯ- ผมไม่คิดว่าจะมีปัญหากระทบกระเทือนอะไรนะครับ เพราะว่าผมคุยกับท่านผู้บัญชาการทหารบก ท่านก็ยืนยันว่า ในการทำคดีเรื่องนี้ขอให้เดินหน้าตรงไปตรงมา และเชื่อว่าสังคมจะเข้าใจว่าเรื่องตัวบุคคลกับเรื่ององค์กรเป็นคนละเรื่องกัน แม้คนกระทำความผิดเป็นทหาร ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องอะไรกับกองทัพในฐานะองค์กร เช่นเดียวกันท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมท่านก็บอกว่า เป็นเรื่องที่ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรที่มาเกี่ยวข้องอะไรกับการที่จะกระทบกระเทือนอะไรทั้งสิ้น
ถาม- พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ลาออกจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม
นายกฯ- ไม่มีเหตุผลอะไรนี่ครับ ท่านรัฐมนตรีไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปเกี่ยวข้องกับการลาออก ไม่ลาออกเลย
ถาม-
นายกฯ- ใครมาบีบอะไรใครล่ะครับ ผมทำซ้าย ก็ต้องบอกว่าทางฝ่ายซ้ายบีบผม ทำขวา ก็บอกว่าฝ่ายขวาบีบ ผมทำโดยเล็งเห็นว่า 1. คดีเดินได้ 2. ทุกคนได้รับความเป็นธรรม 3. ระบบบริหารงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เสียครับ ถ้ามีใครที่มีความคิดดีกว่านี้ ผมก็ยังไม่เห็นมีใครเสนอมา
ถาม- ผ่านการตัดสินใจวันนี้ไปแล้วคิดว่าจะกระทบอะไรกับเสถียรภาพของรัฐบาลไหม
นายกฯ- ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรกระทบครับ
ถาม- อะไรทำให้ท่านนายกฯ มั่นใจ
นายกฯ- เพราะว่ารัฐบาลทำทุกอย่างตามประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเดินหน้าได้ครับ
ถาม- รู้อุปสรรคที่แท้จริงหรือยังครับ
นายกฯ- สิ่งที่คนที่เคยพูดว่ามีอุปสรรคเพราะกังวลในบรรยากาศหรือเงื่อนไขอะไรต่างๆ วันนี้น่าจะมีความมั่นใจได้ จากข้อเสนอของท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเอง
ถาม-
นายกฯ- ก็ต้องถามชุดที่สอบสวนครับ เพราะต่อไปนี้ปัญหาอุปสรรคที่ท่านได้บอกมา ผมคิดว่ามันไม่มีอยู่แล้ว
ถาม- ข่าวลือเรื่องตั้งกรรมการสอบ...
นายกฯ- กรรมการที่จะสอบอะไรนี่ผมก็คิดว่าเขาก็คงลำบากล่ะครับ เพราะว่าโจทย์ที่ตั้งกับลักษณะที่จะไปสอบ ผมก็คิดว่ามันคงไม่ค่อยเป็นประโยชน์อะไรเท่าไรนัก และทางเลขาฯ ก.พ.ก็ได้รายงานปัญหามาอยู่ และขอเลื่อนเวลาไปอยู่แล้ว
ถาม-
นายก- ผมก็ถามท่านว่าให้คนบอกให้ท่านฟัง กับให้คนเขียนให้ ท่านจะเชื่ออันไหนมากกว่ากัน
ถาม- เหตุผลที่มีการตั้งกรรมการสอบวินัย...
นายกฯ- ยังไม่มีครับ ใครจะไปสอบวินัยใครล่ะครับตอนนี้ ไม่มีใครไปกล่าวหาใครเป็นเรื่องเป็นราวเลย มีแต่การพูดถึงสภาพปัญหาในการทำงาน ซึ่งผมก็บอกแล้วว่า ผมมาวิเคราะห์และฟังในภาพรวมแล้ว ทั้งเรื่องโยกย้ายแต่งตั้ง ทั้งเรื่องการเมือง ทั้งเรื่องอะไรต่างๆ มันเข้ามาวุ่นวายกันหมด เราก็ปลดล็อกตรงนี้เท่านั้นเอง แล้วคนที่ช่วยปลดล็อกให้ก็คือท่าน ผบ.ตร.
ถาม-
นายกฯ- คิดว่าท่านทราบแล้วนะครับ คือท่านอยู่ต่างประเทศ แต่ผมให้ท่านเลขาธิการนายกฯ แจ้งไป
ถาม- แต่คำสั่งนี้มันเซ็นโดยคุณสุเทพ ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าให้สอบคุณธานี กับ (***)
นายกฯ- ไม่ใช่ครับ ไม่มีใคร มีการให้สอบข้อเท็จจริงว่ามีปัญหา อุปสรรคในการทำคดีอย่างไร ซึ่งท่านเลขาธิการ ก.พ.รายงานมาเบื้องต้นว่าไม่สามารถที่จะได้ข้อยุติตามกรอบเวลาที่ให้ไปได้ แล้วก็พยายามจะขอยืดอายุของกรรมการไป
ถาม- กรอบเวลาที่ให้ไปเท่าไร?
นายกฯ- ตอนนั้น 7 วันครับ ซึ่งสิ้นสุดวันนี้
ถาม- ที่ท่านนายกฯ บอกว่า กรรมการ (***) ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร ก็คือเท่ากับว่ามันจะไม่มีการสอบต่อแล้วในส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า
นายกฯ- ก็ขึ้นอยู่กับท่านเลขาธิการ ก.พ.ว่าท่านคิดว่าจะทำต่อหรือไม่ เพราะผมคิดว่าในมาตรการในทางบริหารขณะนี้ และการตัดสินใจของท่าน ผบ.ตร.เอง เป็นแนวทางที่น่าจะทำให้ปัญหานี้หมดไป
ถาม-
นายกฯ- เดิมเมื่อมีการร้องมาว่ามีปัญหา มีอุปสรรค ท่านรองนายกฯ ซึ่งรับผิดชอบหน่วยงาน ท่านก็ตั้งกรรมการสอบตามกฎหมาย แต่เมื่อการทำงานผ่านไป 7 วัน และครบวันนี้ ก็เห็นชัดเจนว่า มันเป็นเรื่องยาก และถ้าจะยืดเวลาออกไป ผมเองผมเป็นคนตัดสินใจเองบอกว่าวันนี้ต้องจบ เพราะผมเห็นว่าเรื่องนี้ยืดเยื้อไปไม่เป็นผลดีกับใคร ผมต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ต้องการให้การดำเนินคดีเดินไปข้างหน้าได้ ทุกฝ่ายมีความมั่นใจ ให้ความเป็นธรรม และรักษาองค์กรด้วย ผมก็คิดว่าแนวทางนี้ดีที่สุด ผมก็ขอบคุณท่าน ผบ.ตร.ครับ
ถาม-
ประการที่ 2 ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานให้ผมทราบว่า ท่านเองมีภารกิจในการที่จะต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศที่เป็นงานสำคัญทางราชการ และเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็จะขอถือโอกาสในการลา รวมทั้งการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยเริ่มต้นประมาณสัปดาห์หน้า คิดว่าคงจะเป็นสัปดาห์หน้า ในระยะเวลาที่ผมคิดว่าเพียงพอกับการที่จะทำให้คดีต่างๆ มีความคืบหน้าไป โดยไม่มีใครที่จะมาสามารถครหาได้ว่าตัวท่านจะเข้ามาเกี่ยวข้องหรือแทรกแซงอะไร ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว อย่างที่บอกก็คือว่าเรายังไม่ได้พบหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าท่านนั้นเป็นอุปสรรค ปัญหา เมื่อท่านได้เสนอมาอย่างนี้ ผมก็เห็นชอบด้วย เพราะฉะนั้นคิดว่าต้นสัปดาห์หน้าท่านก็คงจะทำเรื่องของตารางเวลาในการที่จะไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศและการลาต่อไป ซึ่งผมคิดว่าก็จะทำให้คนที่เคยมาพูดกับผมในเรื่องกรอบเวลา อุปสรรค ปัญหาต่างๆ ในการทำงาน ก็น่าจะเดินต่อได้ เพราะฉะนั้นผมถือว่าผมได้แก้ปัญหานี้โดยมุ่งในเรื่องผลของงานเป็นหลัก พร้อมๆ กับการที่จะดูแลให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และพยายามอย่างที่สุดก็คือ ทำให้ระบบการบริหารงานภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปอย่างมีเอกภาพ เป็นระบบ และไม่ให้เป็นประเด็นที่จะต้องมาใช้เป็นเวทีต่อสู้กันทางการเมือง นี่คือแนวทางที่ผมคิดว่าเป็นแนวทางที่ชัดเจน ทุกฝ่ายปฏิบัติได้ เป็นธรรมกับทุกคน และขอขอบคุณท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้เสนอแนวทางนี้มาให้ผม
ถาม-
นายกฯ- การลานี่ คือผมเข้าใจว่าท่านต้องไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศอยู่ ก็คงเป็นสิบกว่าวัน และก็คงจะลาเพิ่มเติมด้วย คือเวลาเพียงพอต่อการที่ผู้ที่เคยทำคดีบอกว่า เขาขอเวลาไม่กี่วันที่จะเดินหน้าต่างๆ ถ้าบรรยากาศต่างๆ คิดว่าไม่มีปัญหา อุปสรรค เช่น เรื่องโยกย้ายแต่งตั้งอะไรต่างๆ
ถาม- ลายาวถึงเกษียณ
นายกฯ- ไม่ถึงเกษียณ หรอกครับ
ถาม- ระหว่างการลาใครจะทำหน้าที่แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นายกฯ- ก็เป็นอำนาจของผมนะครับ กำลังดูข้อกฎหมายอยู่ว่าจะเป็นผมหรือจะเป็นท่าน ที่จะต้องแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน
ถาม- จะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะทราบ
นายกฯ- ในชั้นนี้ท่านยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ จนถึงต้นสัปดาห์หน้า
ถาม-
นายกฯ- ผมคิดว่าสังคมต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ข้อเสนอนี้ท่านเป็นคนมาเสนอ ผมไม่สามารถไปบังคับให้ท่านทำสิ่งนี้ได้ ท่านเป็นคนเสนอ ท่านเต็มใจที่จะทำ และผมก็เห็นว่าเป็นทางออกที่ดี
ถาม- จะมีผลอะไรไหม เพราะเลขาฯ รมว.กลาโหม ก่อนหน้านี้ เมื่อวานนี้ออกมาขู่ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณพัชรวาท จะทำทั้งในและนอกกฎหมาย
นายกฯ- ก็เป็นการตัดสินใจของท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเอง ไม่มีใครมีสิทธิ์ทำอะไรนอกกฎหมาย เพราะฉะนั้นอันนี้ก็เป็นสิ่งที่จะต้องระมัดระวังคำพูดนะครับ ว่านอกกฎหมายนี่ไม่มีใครมีสิทธิ์ทำ
ถาม- กังวลกับคำขู่ไหม
นายกฯ- ผมไม่กังวลกับคำขู่หรอกครับ เพราะผมยืนยันว่าผมต้องดูแลให้บ้านเมืองนี้ปกครองด้วยกฎหมาย และทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายแบบเสมอภาคกัน
ถาม- จะทำให้ทหารไม่พอใจแล้วออกมาเขย่ารัฐบาล?
นายกฯ- ผมไม่คิดว่าจะมีปัญหากระทบกระเทือนอะไรนะครับ เพราะว่าผมคุยกับท่านผู้บัญชาการทหารบก ท่านก็ยืนยันว่า ในการทำคดีเรื่องนี้ขอให้เดินหน้าตรงไปตรงมา และเชื่อว่าสังคมจะเข้าใจว่าเรื่องตัวบุคคลกับเรื่ององค์กรเป็นคนละเรื่องกัน แม้คนกระทำความผิดเป็นทหาร ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องอะไรกับกองทัพในฐานะองค์กร เช่นเดียวกันท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมท่านก็บอกว่า เป็นเรื่องที่ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรที่มาเกี่ยวข้องอะไรกับการที่จะกระทบกระเทือนอะไรทั้งสิ้น
ถาม- พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ลาออกจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม
นายกฯ- ไม่มีเหตุผลอะไรนี่ครับ ท่านรัฐมนตรีไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปเกี่ยวข้องกับการลาออก ไม่ลาออกเลย
ถาม-
นายกฯ- ใครมาบีบอะไรใครล่ะครับ ผมทำซ้าย ก็ต้องบอกว่าทางฝ่ายซ้ายบีบผม ทำขวา ก็บอกว่าฝ่ายขวาบีบ ผมทำโดยเล็งเห็นว่า 1. คดีเดินได้ 2. ทุกคนได้รับความเป็นธรรม 3. ระบบบริหารงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เสียครับ ถ้ามีใครที่มีความคิดดีกว่านี้ ผมก็ยังไม่เห็นมีใครเสนอมา
ถาม- ผ่านการตัดสินใจวันนี้ไปแล้วคิดว่าจะกระทบอะไรกับเสถียรภาพของรัฐบาลไหม
นายกฯ- ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรกระทบครับ
ถาม- อะไรทำให้ท่านนายกฯ มั่นใจ
นายกฯ- เพราะว่ารัฐบาลทำทุกอย่างตามประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเดินหน้าได้ครับ
ถาม- รู้อุปสรรคที่แท้จริงหรือยังครับ
นายกฯ- สิ่งที่คนที่เคยพูดว่ามีอุปสรรคเพราะกังวลในบรรยากาศหรือเงื่อนไขอะไรต่างๆ วันนี้น่าจะมีความมั่นใจได้ จากข้อเสนอของท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเอง
ถาม-
นายกฯ- ก็ต้องถามชุดที่สอบสวนครับ เพราะต่อไปนี้ปัญหาอุปสรรคที่ท่านได้บอกมา ผมคิดว่ามันไม่มีอยู่แล้ว
ถาม- ข่าวลือเรื่องตั้งกรรมการสอบ...
นายกฯ- กรรมการที่จะสอบอะไรนี่ผมก็คิดว่าเขาก็คงลำบากล่ะครับ เพราะว่าโจทย์ที่ตั้งกับลักษณะที่จะไปสอบ ผมก็คิดว่ามันคงไม่ค่อยเป็นประโยชน์อะไรเท่าไรนัก และทางเลขาฯ ก.พ.ก็ได้รายงานปัญหามาอยู่ และขอเลื่อนเวลาไปอยู่แล้ว
ถาม-
นายก- ผมก็ถามท่านว่าให้คนบอกให้ท่านฟัง กับให้คนเขียนให้ ท่านจะเชื่ออันไหนมากกว่ากัน
ถาม- เหตุผลที่มีการตั้งกรรมการสอบวินัย...
นายกฯ- ยังไม่มีครับ ใครจะไปสอบวินัยใครล่ะครับตอนนี้ ไม่มีใครไปกล่าวหาใครเป็นเรื่องเป็นราวเลย มีแต่การพูดถึงสภาพปัญหาในการทำงาน ซึ่งผมก็บอกแล้วว่า ผมมาวิเคราะห์และฟังในภาพรวมแล้ว ทั้งเรื่องโยกย้ายแต่งตั้ง ทั้งเรื่องการเมือง ทั้งเรื่องอะไรต่างๆ มันเข้ามาวุ่นวายกันหมด เราก็ปลดล็อกตรงนี้เท่านั้นเอง แล้วคนที่ช่วยปลดล็อกให้ก็คือท่าน ผบ.ตร.
ถาม-
นายกฯ- คิดว่าท่านทราบแล้วนะครับ คือท่านอยู่ต่างประเทศ แต่ผมให้ท่านเลขาธิการนายกฯ แจ้งไป
ถาม- แต่คำสั่งนี้มันเซ็นโดยคุณสุเทพ ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าให้สอบคุณธานี กับ (***)
นายกฯ- ไม่ใช่ครับ ไม่มีใคร มีการให้สอบข้อเท็จจริงว่ามีปัญหา อุปสรรคในการทำคดีอย่างไร ซึ่งท่านเลขาธิการ ก.พ.รายงานมาเบื้องต้นว่าไม่สามารถที่จะได้ข้อยุติตามกรอบเวลาที่ให้ไปได้ แล้วก็พยายามจะขอยืดอายุของกรรมการไป
ถาม- กรอบเวลาที่ให้ไปเท่าไร?
นายกฯ- ตอนนั้น 7 วันครับ ซึ่งสิ้นสุดวันนี้
ถาม- ที่ท่านนายกฯ บอกว่า กรรมการ (***) ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร ก็คือเท่ากับว่ามันจะไม่มีการสอบต่อแล้วในส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า
นายกฯ- ก็ขึ้นอยู่กับท่านเลขาธิการ ก.พ.ว่าท่านคิดว่าจะทำต่อหรือไม่ เพราะผมคิดว่าในมาตรการในทางบริหารขณะนี้ และการตัดสินใจของท่าน ผบ.ตร.เอง เป็นแนวทางที่น่าจะทำให้ปัญหานี้หมดไป
ถาม-
นายกฯ- เดิมเมื่อมีการร้องมาว่ามีปัญหา มีอุปสรรค ท่านรองนายกฯ ซึ่งรับผิดชอบหน่วยงาน ท่านก็ตั้งกรรมการสอบตามกฎหมาย แต่เมื่อการทำงานผ่านไป 7 วัน และครบวันนี้ ก็เห็นชัดเจนว่า มันเป็นเรื่องยาก และถ้าจะยืดเวลาออกไป ผมเองผมเป็นคนตัดสินใจเองบอกว่าวันนี้ต้องจบ เพราะผมเห็นว่าเรื่องนี้ยืดเยื้อไปไม่เป็นผลดีกับใคร ผมต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ต้องการให้การดำเนินคดีเดินไปข้างหน้าได้ ทุกฝ่ายมีความมั่นใจ ให้ความเป็นธรรม และรักษาองค์กรด้วย ผมก็คิดว่าแนวทางนี้ดีที่สุด ผมก็ขอบคุณท่าน ผบ.ตร.ครับ
ถาม-