กองทัพปรับแผนตั้งด่านรักษาความปลอดภัยประชุมอาเซียน

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กองทัพแจงตั้งด่านรักษาความปลอดภัยจนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก เกิดจากตั้งด่านถี่เกินไป ปรับแผนใหม่ยุบด่านให้เหมาะสม แต่ยังคงตรวจเข้มในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรจากโรงแรมเครือลากูน่า วอนชาวภูเก็ตให้อดทนต่อการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ


พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการ ในฐานะหัวหน้าชุดประสานงานกองทัพบก ชี้แจงปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทดลองตั้งด่านรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคมนี้ ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูน่า ภูเก็ต ในการประชุมเตรียมการต้อนรับคณะรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 42 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง วันนี้ (15 ก.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ให้ประชาชนชาวภูเก็ตรับทราบผ่านทางกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนและหน่วยงานเกี่ยวข้องว่า ได้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดขึ้นในหลายจุดที่มีการตั้งด่านตรวจสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรไปมาบนถนนสายหลัก 402 บริเวณหน้าบริษัท อีซูซุ จำกัด ซึ่งเป็นการตั้งด่านของทางตำรวจภูเก็ต

โดยมีการบีบช่องการจราจรจาก 3 ช่องจราจรให้เหลือเพียง 1 ช่องจราจร กับจุดตรวจบริเวณถนนศรีสุนทร ด้านหน้าโรงเรียนบ้านม่าหนิก ปรากฏว่าได้มีประชาชนหยุดสอบถามถึงสถานที่ในการไปจัดทำสติกเกอร์ ส่งผลให้มีรถติดขัดเป็นจำนวนมาก เนื่องจากช่องจราจรคับแคบ ไม่ต่ำกว่า 2 กิโลเมตร

“ปัญหาที่เกิดขึ้นได้รับการสอบถามและกำชับมาจากรัฐบาล ท่านรองนายกรัฐมนตรี สุเทพ เทือกสุบรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการทหารบก ผู้นำเหล่าทัพต่างๆ และผู้บริหารระดับสูง ด้วยความห่วงใย เพราะได้มีคำสั่งที่ชัดเจนของนายกรัฐมนตรีในการรักษาความปลอดภัยการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด แม้ว่าจะสวนทางกันแต่ก็พยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาจากการตั้งด่านตรวจ ซึ่งมีทั้งความบกพร่องของทางผู้ปฎิบัติและจากตัวของประชาชน ซึ่งก็ต้องแก้ไข โดยจะพิจารณายุบรวมด่านตรวจในบางจุดร่วมกับทางตำรวจ หรือการหาจุดที่ตั้งซึ่งมีทางเบี่ยงเพื่อการเรียกตรวจรถต้องสงสัยจะได้ไม่กระทบกับรถคันอื่นๆ”

พล.ท.ดาว์พงษ์ กล่าวถึงความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่สำหรับการประชุมดังกล่าวว่า ค่อนข้างมั่นใจในความร่วมมือของพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต แต่ในการรักษาความปลอดภัยบางประการพี่น้องประชาชนมองไม่ถึง โดยมองเฉพาะการป้องกันม็อบกลุ่มใหญ่ๆ แต่ความจริงแล้วไม่ได้มีเฉพาะม๊อบในรูปแบบนั้น แต่ยังมีกลุ่มคนที่อาจเข้ามา 1-2 คน ก่อความวุ่นวาย หรือแม้กระทั่งการก่อวินาศกรรม ซึ่งต้องดูแลป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น จึงต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการเป็นหูเป็นตาช่วยสอดส่องดูแล

อย่างไรก็ตาม พล.ท.ดาว์พงษ์ ได้ฝากถึงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่า นอกเหนือจากความยินดีที่จะให้มีการจัดประชุมเกิดขึ้น น้ำใจไมตรีที่มีให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานมาตลอด แต่ให้พร้อมรับและมีความอดทนกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระบบการรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นจะต้องมี เพราะระบบการรักษาความปลอดภัยจะไปกระทบกับวิถีชีวิตประจำวันบ้างในบางส่วนในการเข้าไปในบางพื้นที่แล้วถูกตรวจบัตรทำให้เสียเวลา จึงอยากให้เข้าใจในส่วนนี้

โดยเฉพาะด้านการจราจร และการขอสติกเกอร์ติดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 6 ตำบลที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ส่วนประชาชนในพื้นที่อื่นๆ หากไม่มีเหตุจำเป็นก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงในการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว

การเพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยนั้นคงจะมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร จากสถานที่จัดการประชุม และในวันที่รัฐมนตรีจากประเทศต่างๆ เดินทางเข้ามา รวมถึงในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีของเราจะเดินทางมาด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่เขตโรงแรมลากูน่านั้นจะมีการตรวจเข้มเป็นพิเศษผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่สามารถเข้าไปในบริเวณโรงแรมลากูน่าได้ โดยพนักงานจะต้องแสดงบัตรทุกคน นักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมจะต้องมีบัตรติดแสดงการเป็นแขกของโรงแรม รวมไปถึงบุคคลและรถยนต์ในหมู่บ้านลากูน่าก็ต้องส่งรายชื่อผู้ที่พักและรถยนต์ทุกคันเช่นกัน

ส่วนของสถานการณ์ด้านการข่าวนั้น พล.ท.ดาว์พงษ์ ได้กล่าวขอบคุณชาวภูเก็ตที่มีการแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่จนถึงขณะนี้ทุกอย่างยังปกติ รวมถึงในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงซึ่งก็มีการติดตามสถานการณ์อยู่เช่นกัน