นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เลขาธิการพรรค นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เทศบาล อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร เพื่อช่วยนายพิทักษ์ จันทศรี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย หาเสียงในเขตเลือกตั้งซ่อม โดยเดินพบปะประชาชน ตามบ้านต่าง ๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก
นายชวรัตน์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการชูสโลแกนเป็นพรรคการเมืองรุ่นใหม่ ของคนหนุ่มสาว ที่จะใช้พลังความคิด พลังกาย พลังใจ ทำงานอย่างเต็มที่ ในการผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชน เชื่อว่าผลการเลือกตั้งคะแนนจะไม่ขาดลอย แต่มั่นใจว่าจะได้คะแนนสูง ช่วงเวลาที่เหลือจะต้องปรับกลยุทธ์ พยายามลงพื้นที่ เจาะลึกให้มากที่สุด การที่ตนไม่ได้ปราศรัยในช่วงที่เหลือเนื่องจากที่ผ่านมา มีชุดล่วงหน้าที่เป็นแกนนำของพรรค มาปราศรัยอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การที่ตนสวมหมวก 2 ใบ ระหว่างหัวหน้าพรรคกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงต้องระวังตัว เพราะอาจหมิ่นเหม่ที่จะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยโจมตีว่าใช้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย มาช่วยเหลือการเลือกตั้งนั้น ยืนยันว่าไม่มี เพราะรู้อยู่ว่าไม่เหมาะสม และข้าราชการไม่ได้เป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นข้าราชการของรัฐ
อย่างไรก็ตาม รู้สึกหนักใจ เหมือนม้าที่วิ่งอยู่ยังไม่ถึงโค้งสุดท้าย ก็ต้องตั้งใจไม่ประมาท หากผู้สมัครไม่ชนะการเลือกตั้งก็รู้สึกผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดา และต้องปรับยุทธศาสตร์ใหม่ ส่วนตัวเชื่อว่านโยบายของพรรค 9 ข้อ ที่เน้นเข้าถึงประชาชน จะสามารถชนะใจประชาชนที่ยังคิดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พรรคเพื่อไทยนำมาใช้ในการหาเสียงได้
นายชวรัตน์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้บังคับหรือขนคนไปเลือกตั้งล่วงหน้า ตามที่มีการกล่าวหา แต่เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สร้างโอกาสให้คนสามารถไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าได้ จำนวนคนที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากขึ้น ถือเป็นผลพวงจากกระแส พรรคไม่สามารถไปบังคับใครให้ไปลงคะแนนได้
ด้านนายบุญจง กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยชู พ.ต.ท.ทักษิณ ในการหาเสียง ตนมั่นใจว่าประชาชนจะแยกแยะได้ การคิดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นแค่ความรู้สึก แต่วันนี้ไม่มีอดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว และพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เดินทางกลับมาประเทศเอง พรรคไม่ได้ขัดขวาง คนจึงหันมาเลือกอนาคตที่ดีกว่า โดยเฉพาะนโยบายที่พรรคสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ซึ่งการใช้ยุทธศาสตร์ให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ ถือเป็นการแสดงความจริงใจให้ประชาชนรู้ว่าพรรคทุ่มเททำงาน และขณะนี้ได้ลงพื้นที่กว่าร้อยละ 90 แล้ว ช่วงโค้งสุดท้ายจึงเป็นการอุดจุดอ่อนที่เหลืออยู่ให้เข้มแข็งขึ้น
นายชวรัตน์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการชูสโลแกนเป็นพรรคการเมืองรุ่นใหม่ ของคนหนุ่มสาว ที่จะใช้พลังความคิด พลังกาย พลังใจ ทำงานอย่างเต็มที่ ในการผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชน เชื่อว่าผลการเลือกตั้งคะแนนจะไม่ขาดลอย แต่มั่นใจว่าจะได้คะแนนสูง ช่วงเวลาที่เหลือจะต้องปรับกลยุทธ์ พยายามลงพื้นที่ เจาะลึกให้มากที่สุด การที่ตนไม่ได้ปราศรัยในช่วงที่เหลือเนื่องจากที่ผ่านมา มีชุดล่วงหน้าที่เป็นแกนนำของพรรค มาปราศรัยอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การที่ตนสวมหมวก 2 ใบ ระหว่างหัวหน้าพรรคกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงต้องระวังตัว เพราะอาจหมิ่นเหม่ที่จะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยโจมตีว่าใช้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย มาช่วยเหลือการเลือกตั้งนั้น ยืนยันว่าไม่มี เพราะรู้อยู่ว่าไม่เหมาะสม และข้าราชการไม่ได้เป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นข้าราชการของรัฐ
อย่างไรก็ตาม รู้สึกหนักใจ เหมือนม้าที่วิ่งอยู่ยังไม่ถึงโค้งสุดท้าย ก็ต้องตั้งใจไม่ประมาท หากผู้สมัครไม่ชนะการเลือกตั้งก็รู้สึกผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดา และต้องปรับยุทธศาสตร์ใหม่ ส่วนตัวเชื่อว่านโยบายของพรรค 9 ข้อ ที่เน้นเข้าถึงประชาชน จะสามารถชนะใจประชาชนที่ยังคิดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พรรคเพื่อไทยนำมาใช้ในการหาเสียงได้
นายชวรัตน์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้บังคับหรือขนคนไปเลือกตั้งล่วงหน้า ตามที่มีการกล่าวหา แต่เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สร้างโอกาสให้คนสามารถไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าได้ จำนวนคนที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากขึ้น ถือเป็นผลพวงจากกระแส พรรคไม่สามารถไปบังคับใครให้ไปลงคะแนนได้
ด้านนายบุญจง กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยชู พ.ต.ท.ทักษิณ ในการหาเสียง ตนมั่นใจว่าประชาชนจะแยกแยะได้ การคิดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นแค่ความรู้สึก แต่วันนี้ไม่มีอดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว และพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เดินทางกลับมาประเทศเอง พรรคไม่ได้ขัดขวาง คนจึงหันมาเลือกอนาคตที่ดีกว่า โดยเฉพาะนโยบายที่พรรคสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ซึ่งการใช้ยุทธศาสตร์ให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ ถือเป็นการแสดงความจริงใจให้ประชาชนรู้ว่าพรรคทุ่มเททำงาน และขณะนี้ได้ลงพื้นที่กว่าร้อยละ 90 แล้ว ช่วงโค้งสุดท้ายจึงเป็นการอุดจุดอ่อนที่เหลืออยู่ให้เข้มแข็งขึ้น