xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้งซ่อมสกลนคร สะท้อนสันดานนักการเมือง!

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

วันที่ 21 มิถุนายนนี้จะมีการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 3 จังหวัดสกลนคร และมีการเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้วในวันที่ 14 มิถุนายน โดยมีประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งมาใช้สิทธิล่วงหน้ามากมายเป็นประวัติการณ์

เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดสกลนครมี 5 อำเภอคือ อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอส่องดาว อำเภอเจริญศิลป์ อำเภอคำตากล้า และอำเภอบ้านม่วง มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง 2 คนคือ นายพิทักษ์ จันทศรี พรรคภูมิใจไทย และนางอนุรักษ์ บุญศล พรรคเพื่อไทย

ชัยชนะของผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคใดพรรคหนึ่งไม่มีผลต่อรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่จะมีผลสำคัญยิ่งกับทั้งสองพรรคคือ พรรคภูมิใจไทยซึ่งร่วมรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่ขณะนี้ กับพรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้าน

ทั้งสองพรรคคือภูมิใจไทยและเพื่อไทย มีที่ไปที่มาจากพรรคพลังประชาชน และจากพรรคไทยรักไทย โดยมี ทักษิณ ชินวัตร ยืนอยู่เบื้องหลัง หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน เพราะกรรมการบริหารพรรคทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนต้องยุติบทบาททางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ทำให้สมาชิกพรรคแตกเป็น 2 ส่วนสำคัญคือ ส่วนหนึ่งไปจัดตั้งพรรคเพื่อไทย ยึดถือ ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป และปฏิบัติตามนโยบายและคำสั่งเสียของ ทักษิณ ชินวัตร ทุกอย่างทุกประการ

อีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่เรียกกันว่า เพื่อนเนวินซึ่งหมายถึงนายเนวิน ชิดชอบ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิทางการเมืองไปเมื่อครั้งเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กลุ่มนี้แปรสภาพจากที่เคยสนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร หันมาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ และจัดตั้งพรรคภูมิใจไทยขึ้นมา

ทั้งสองพรรคคือ เพื่อไทย และภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เป็นพิเศษ เพราะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่จังหวัดสกลนครถือว่าเป็นพื้นที่ของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน หรือขณะนี้คือ พรรคเพื่อไทย เป็นพื้นที่ที่สนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร ที่พรรคการเมืองอื่นไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย (พัฒนา) ไม่อาจจะช่วงชิงได้

เช่นเดียวกับเขตเลือกตั้งอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังเชื่อกันว่า ทักษิณ ชินวัตร ยังครองใจผู้คนที่มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่นี้อยู่

การโฆษณาหาเสียงเมื่อครั้งที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเดือนธันวาคม 2550 ผู้สมัครของพรรคพลังประชาชนต่างประกาศชัดเจนว่า เมื่อได้รับเลือกตั้ง เมื่อได้จัดตั้งรัฐบาลแล้ว ภารกิจอันสำคัญยิ่งของพวกเขาก็คือการนำ ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศให้ได้

และทักษิณ ชินวัตร ก็กลับประเทศได้จริงๆ เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนได้เป็นนายกรัฐมนตรี หากแต่ทักษิณ ชินวัตร หนีไปเองในตอนหลัง (เพราะขืนอยู่ติดคุกแน่)

พรรคภูมิใจไทยซึ่งคือกลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ คือกลุ่มที่พรรคเพื่อไทย และทักษิณ ชินวัตร เชื่อว่าเป็นกลุ่มที่ทรยศ ไม่จงรักภักดีต่อ ทักษิณ ชินวัตร ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างมาก

พวกเขาจะปักธงภูมิใจไทยในแผ่นดินอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นอกบุรีรัมย์ (เขตเลือกตั้งของ ชัย ชิดชอบ เนวิน ชิดชอบ) ได้หรือไม่ ถ้าหากได้ คือสามารถเอาชนะการเลือกตั้งในเขตพื้นที่เขต 3 สกลนคร ก็จะเป็นขวัญกำลังใจให้กับเขตเลือกตั้งอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ว่าจะเป็นนครพนม อุบลราชธานี ยโสธร ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ฯลฯ

ที่สำคัญจะทำให้นักการเมืองที่ยังลังเลอยู่ว่า ถ้าหากไม่ชู ทักษิณ ชินวัตร แล้วจะเอาชนะได้หรือไม่จะได้ไม่ลังเลอีกต่อไป

การเดินทางลงพื้นที่สกลนคร (แม้จะไม่ลงในพื้นที่เลือกตั้ง) ของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีคนอื่นๆ ของพรรคภูมิใจไทย การลงไปกำกับการแสดงด้วยตนเองของนายเนวิน ชิดชอบ เสี่ยง และหมิ่นเหม่ต่อการทำผิดกฎหมาย ล้วนแสดงให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทยทุ่มเทให้กับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งก็ไม่แตกต่างไปจากพรรคเพื่อไทยของ ทักษิณ ชินวัตร ที่จะต้องรักษาพื้นที่เอาไว้ให้ได้

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งแม้จะผิดหวังที่พรรคไม่เสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแข่งกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ดันไปสนับสนุนคนนอกพรรคคือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก แทน เก็บความขมขื่นใจเอาไว้ ทุ่มเทให้พรรคอย่างเต็มที่ ประกาศจะนำ ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศให้ได้ ถ้าหากเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี (ซึ่งความจริง ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยได้ทุกเวลาอยู่แล้ว ไม่มีใครห้าม ไม่มีใครขัดขวาง เพียงแต่เข้ามาก็ต้องเข้าคุก ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น)

ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งกำลังหนีคุกอยู่ต่างประเทศ และหยุดโฟนอินไปพักหนึ่งหลังเหตุการณ์เสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองเมื่อวันสงกรานต์ กลับมาใช้โทรศัพท์อีก คราวนี้ไม่ต้องรอให้ประชาชนมาชุมนุมกันเป็นพันเป็นหมื่น แต่เพียงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ของสกลนคร ทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่คร้านที่จะโทรศัพท์มาขอคะแนนเสียงและให้ช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ตนสนับสนุน

ก่อนการเลือกตั้ง 21 มิถุนายนนี้มีรายงานว่า รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยจะลงพื้นที่ซึ่งอาจจะเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับการเลือกตั้ง หรือพื้นที่ที่มีการเลือกตั้ง แต่ก็จะเลี่ยงไปงานอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการหาเสียง จนกระทั่งนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการเลือกตั้งด้านกิจการพรรคการเมืองต้องออกมาบอกว่า

รัฐบาลจะต้องสั่งให้รัฐมนตรีวางตัวเป็นกลาง ต้องระมัดระวังในการลงพื้นที่ แม้รัฐมนตรีจะสวมหมวก 2 ใบก็ตาม และเป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย ต้องให้ระลึกถึงอยู่เสมอว่า ขณะปฏิบัติงานมีหมวกแค่ใบเดียว พอหลัง 4 โมงเย็นสวมหมวกอีกใบ

การที่กรรมการเลือกตั้งซ่อมต้องออกมาเตือนรัฐบาลให้สั่งรัฐมนตรีก็ดี การที่การเลือกตั้งล่วงหน้ามีผู้มาใช้สิทธิมากเป็นพิเศษ มีพฤติการณ์ประหลาดๆ เช่น ประชาชนที่มาใช้สิทธิมีเอกสารการขอใช้สิทธิล่วงหน้ามาจากบ้าน การยอมให้ใช้สิทธิหลังจากหมดเวลาแล้ว ฯลฯ ล้วนแล้วแต่สุ่มเสี่ยงต่อการที่จะทำให้การเลือกตั้งผิดกฎหมายเป็นโมฆะได้ทั้งสิ้น

ซึ่งจะทำให้เสียเวลาเลือกตั้งอีก เสียงบประมาณแผ่นดินอีก

ที่สำคัญสะท้อนให้เห็นถึงความหน้าด้าน หน้าหนาของนักการเมืองที่จ้องจะเอาชนะกันอย่างเดียว ไม่คำนึงถึงคุณธรรม จริยธรรม

ครั้นเกิดปัญหาขึ้นมาก็บอกว่า เป็นเพราะรัฐธรรมนูญไม่ดี รัฐธรรมนูญกำหนดให้ลงโทษยุบพรรค ลงโทษกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำผิด ต้องแก้ที่รัฐธรรมนูญอย่างที่กรรมการสมานฉันท์ทำกันอยู่ขณะนี้

ไม่คิดที่จะแก้กันที่สันดานของนักการเมืองเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น