xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ : พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ช่วงที่ 3)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สโรชา- กลับเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ่อแม่พี่น้องหลายท่านโทรเข้ามา ไม่ใช่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ เป็นรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
หลายอย่างเปลี่ยนไป เชื่อว่าความคิดเห็นต่างๆของพ่อแม่พี่น้อง หรือผู้ชมรายการในยุคนั้นมาถึงยุคนี้ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ผู้ดำเนินรายการก็เปลี่ยนไป
คุณสนธิคะ พ่อแม่พี่น้องเราโทรเข้ามา บางท่านบอกว่า อยากให้เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง อยากให้ไปนำการเมืองใหม่ บางท่านก็แสดงความเป็นห่วง บอกว่า อย่าเลยเหนื่อยมามากแล้ว สงสาร กลัวว่าจะต้องไปเผชิญอะไรมากกว่านี้อีกหรือ

สนธิ- เรื่องเป็นหัวหน้าพรรค หรือไม่เป็นนั้น มันเป็นเรื่องอนาคต ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะว่ายังไม่ทราบว่าพ่อแม่พี่น้องคิดอย่างไร เรื่องที่ 2 นั้น เป็นอะไรไม่สำคัญหรอกครับ สำคัญที่จิตวิญญาณต้องอยู่เหมือนเดิม จะเป็นนายสนธิ ที่เคยทำเมืองไทยรายสัปดาห์กับคุณสโรชา หรือเป็นนายสนธิ ที่เป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือเป็นนายสนะ ที่จัดรายการ Goodmorning Thailand หรือว่าเป็นนายสนธิ ที่ถูกยิงไปแล้ว เพิ่งฟื้นไข้มา หรือจะเป็นนายสนธิ อะไรก็ตาม จะเป็นหัวหน้าพรรค หรือไม่เป็น จะต้องเป็นนายสนธิ ที่เคยปวารณากับพ่อแม่พี่น้องเอาไว้ว่า ชีวิตนี้ ชั่วก็มี ดีก็หลาย แต่นับจากวันที่กราบพ่อแม่พี่น้องไป เมื่อ 2 - 3 ปีที่แล้ว ว่าจากนี้ไปจะขอทำงานให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างเดียว เอาชาติเป็นตัวตั้ง อย่างอื่นไม่สำคัญ เพราะฉะนั้นจะเป็นอะไรไม่มีควาหมมาย ขอให้ทำได้ เป็นเพียงแต่ว่าบทบาทที่เป็นนั้น บางครั้งก็สุดแล้วแต่เรื่องราวที่ถูกกำหนดมา เหมือนที่เขาบอกว่า คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต แต่ว่าที่เป็นแน่ๆ
แต่ที่อยากจะขอร้องให้พ่อแแม่พี่น้องได้รับทราบแน่ๆก็คือว่า ASTV ลำบากมาก พ่อแม่พี่น้องถ้าช่วยกันสมัคร SMS เดือนละ 200 บาท จะเป็นการช้วยค่าใช้จ่าย ASTV อย่างสูง ASTV ไม่เคยพูดถึงเรื่องอะไรเลย นอกจากเรื่องความจริง รายได้เราก็ไม่เคยได้จากทุนที่ไหน นี่เงินเดือนก็ยังจ่ายไม่หมด คิดว่าจะหมดก็คงอาทิตย์หน้า ทยอยจ่ายเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นแล้วถ้า ASTV จะเป็นของประชาชนจริงๆ พ่อแม่พี่น้องต้องให้การสนับสนุน เพราะว่าการที่ ASTV จะอยู่ได้นั้น มันเลือกอยู่ได้ 2 วิธี วิธีที่ง่ายสุดก็คือ รับเงินทุนมาจากนายทุน ซึ่งเราไม่เลือกเส้นทางนั้น เพราะถ้าเราเลือกเส้นทางนั้น วันนี้ภาคประชาชนก็ไม่ได้เกิดขึ้นพ่อแม่พี่น้อง ถ้าเราเลือกเส้นทางนั้น 17 เมษายน ผมคงไม่โดนลอบสังหาร ถ้าเราเลือกเส้นทางนั้น วันนี้ก็ไม่มีการเมืองใหม่ ถ้าเราเลือกเส้นทางนั้น วันนี้สังคมไทยไม่มีความหวังเลย ไม่มีเทียนที่ส่องสว่าง แต่เราเลือกเส้นทางที่ยืนอยู่บนความถูกต้อง ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง เราเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง เอาธรรมนำหน้า นั่นคือเราเลือกเส้นทางประชาชน เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องตอ้งช่วยกันนะครับ
วันนี้เรามีสมาชิก SMS เพียง 50,000 ราย เท่านั้นเอง ถ้าเราต้องการจริงๆ เราต้องการแสนขึ้นไปนะครับ พ่อแม่พี่น้องครับหยิบโทรศัพท์มาแล้วกด เดี๋ยวคุณแอ้มจะบอกให้ฟังว่ากดอะไรไป เดือนละ 200 บาท ไม่มาก แต่มันช่วยต่อชีวิต ASTV และจะทำให้สถานีโทรทัศน์แห่งนี้ เป็นสถานีโทรทัศน์ของพ่อแม่พี่น้อง หรือพ่อแม่พี่น้องจะบริจาคส่งตรงเข้าไปบัญชีของ ASTV ก็ได้ ผมทราบว่ามีพ่อแม่พี่น้องหลายท่านทำอยู่ แต่หลายท่านบางทีอาจจะลืมนะครับ บางครั้งไปเที่ยวเตร่ กินข้างกินปลาข้างนอก เติมน้ำมันทีก็ 600 - 700 บาท แต่ว่าเสียเดือนละ 200 บาท ให้ SMS ข่าวของ ASTV เท่ากับรักษาโทรทัศน์ช่องนี้ให้เป็นของพ่อแม่พี่น้องได้ตลอดไป
นี่คือสิ่งซึ่งผมจะอยากจะฝากบอกพ่อแม่พี่น้องว่า ถ้าผมต้องเหนื่อย ตายแล้วเกิดใหม่ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพียงเพื่อต้องการให้ทำความจริงให้ปรากฏกับพ่อแม่พี่น้อง แล้วกล้าพูดความจริง กล้ายืนอยู่บนสิ่งที่ถูกต้องครับ ขอให้พ่อแม่พี่น้องช่วยเหลือกัน สนับสนุน ASTV ด้วยครับ

สโรชา- วิธีการที่จะสมัคร SMS ของ ASTV นะคะ พ่อแม่พี่น้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดในส่วนที่เป็นการเขียนข้อความ พิมพ์ตัว R เข้าไปตัวเดียว แล้วกดส่งออก ส่งมาที่หมายเลข 4321000 แล้วก็กดส่งออกอีกครั้ง พ่อแม่พี่น้องก็จะสามารถสมัคร SMS ของ ASTV โดยที่ถ้าหากว่าเป็นแบบเติมเงิน ต้องมีเงินอยู่ในบัตรเกิน 200 บาท ถึงจะดำเนินการได้ ถ้าเกิดว่าช่วงไหนของเดือนที่ต่ำกว่า 200 บาท จะต้องสมัครใหม่ ในส่วนที่เป็นรายเดือนจะไม่มีปัญหาเลย คือสมัครไปครั้งเดียว เขาจะหักรายเดือนพ่อแม่พี่น้องทุกเดือนเลย อัตโนมัติ ถ้าหากเป็นแบบเติมเงิน จะต้องมีเงินในบัตร 214 บาท อย่างน้อยถึงจะสมัครได้ อย่าลืมนะคะที่จะสมัครกัน ขอบพระคุณล่วงหน้าด้วย
ถ้าหากว่าส่งไปแล้ว พี่น้องจะได้รับข้อความกลับมา ยืนยันว่าท่านได้สมัครข่าว ASTV เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากว่าไม่ได้รับข้อความแสดงว่ายังดำเนินการไม่ได้ ก็คือส่งใหม่
พี่น้องคะ ขออนุญาตเรียนถามคุณสนธิ เรื่องคดี เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ได้ไปที่ทำเนียบ ไปสอบปากคำนายกฯ เกี่ยวกับเรื่องของคดีที่ทุบรถที่มหาดไทยแล้ว ยังพูดถึงเรื่องคดีของคุณสนธิด้วย โดย พล.ต.อ.ธานี บอกว่า คดีนี้ไม่ใช่คนร้ายธรรมดา นักข่าวถามย้ำบอกว่า เจอตอหรือเปล่า เจอของแข็งหรือเปล่า ท่านธานี บอกว่า จะเจอตอหรือไม่นั้น เอาเป็นว่าคดีคนร้ายธรรมดานั้น จับกุมง่ายกว่าคดีมีสีก็แล้วกัน ประโยคนี้มีนัย

สนธิ- มีครับ คือเพื่อความเป็นธรรมนะครับ คุณธานี รับคดีนี้ไป ผมโดนยิงเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2552 นี่ก็ผ่านมา 1 เดือนกว่า อาทิตย์หน้าก็ครบ 2 เดือน 60 วัน ถ้าถามว่าเวลา 60 วัน ก็ไม่น้อย แต่ก็ไม่มาก สำหรับคดีที่ ต้องพูดว่าคดีนี้มีอิทธิพล เพราะที่คุณธานีพูด ก็แสดงว่าคนมีสีเป็นคนยิง เมื่อคนมีสีเป็นคนยิง คุณธานีทำงานอะไรก็เจออุปสรรคหมด ลูกน้องคุณธานีก็เจออุปสรรคทุกคน หลายคน เท่าที่ทราบมีผู้หลักผู้ใหญ่ในเครื่องแบบ ระดับบิ๊กๆ เรียกเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่อยู่ในทีมคุณธานีไป แล้วไปบอกให้หยุดสอบสวน สืบสวนต่อ แต่อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกในความเห็นส่วนตัว ผมไม่สนใจ

สโรชา- จับได้ จับไม่ได้

สนธิ- เพราะผมอโหสิกรรมให้หมดแล้ว ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม แล้วคนที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าผม วางแผน มีส่วนร่วม หรือสั่งการ ในใจลึกๆผมเชื่อว่าชีวิตเขานอนไม่หลับหรอก ผมอยากจะเรียนให้เขาทราบว่าผมสวดมนต์ภาวนาทุกเช้าเลยนะ ผมกรวดน้ำให้เขาทุกวันเลยนะ อโหสิกรรมให้เขาทุกวันเลย ผมบอกว่าผมไม่ถือโทษหรอก คงเป็นเวรเป็นกรรมชาติก่อน อโหสิกรรมให้เขาตลอด ส่วนผลการอโหสิกรรมของผมจะทำให้เขาเป็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่ เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม นี่คือเป็นส่วนตัวนะครับ
ส่วนในทางคดีผมก็ไม่เคยไปทำอะไรที่กดดันคุณธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากนั้นแล้วผมยังให้คนไปบอกท่านว่า ให้ท่านทำงานตามสบาย ไม่มีปัญหาสำหรับผม ถึงแม้จะมีแม้กระทั่งตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนหนึ่ง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้มีสี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการยิงผม พยายามไปบอกลูกน้องคุณธานีบางคน ซึ่งยศ พ.ต.อ. เป็นรองผู้บังคับการ พูดเชิงขู่ ว่า "มึงไม่อยากเป็นนายพลหรือไง ถึงขยันทำงานเรื่องคดีนี้"นึกออกไหมครับ คือทุกสายจะเข้าไปบล็อก บางจุดถึงกับทำลายหลักฐาน
ช่างมันครับ ผมไม่สนใจ ผมคิดว่ามันเป็นบทเรียนที่ผมอยากจะฝากคุณสโรชา และพ่อแม่พี่น้องที่ดูรายการนี้อยู่ ให้ตระหนักว่า นี่คือสิ่งซึ่งเรายิ่งต้องการการเมืองแบบใหม่ ใช่ไหมครับ

สโรชา- เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง

สนธิ- มันยิ่งทำให้ผมมีพลัง กำลังใจในการสู้ ว่าเราเดินมาขนาดนี้แล้วเราต้องสู้ต่อ เพราะถ้าเราไม่สู้ต่อ บ้านเมืองมันไม่มีที่ยืน ประเทศไทยจะยืนไม่ได้ สื่อมวลชนคนหนึ่งมา แล้วโดนยิงด้วยอาวุธสงคราม ด้วยคนประมาณ 14 คน ใช้รถ 4 คัน วางแผนอย่างดี ด้วยความร่วมมือกับตำรวจบางคนในการที่จะปิดกล้องวงจรปิด 4 - 5 ตัว เสร็จเรียบร้อยแล้วใช้อาวุธสงครามที่เป็นปืนกลยิง ยิงด้วย M 79 จำนวน 2 ลูก แต่เผอิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ผมไม่ตาย M 79 ก็ไม่ระเบิด สิ่งแบบนี้ถ้ามันเกิดขึ้นในต่างประเทศ เขาช็อกกันทั้งวงการ แต่มันเกิดขึ้นที่เมืองไทย แล้วทุกอย่างก็เงียบหายไป ไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบ
คำถามผมมีอยู่ว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วอีกหน่อยเขานึกจะยิงใครก็ยิงได้ใช่ไหม ขอให้เขามีอำนาจ ถูกไม่ถูก อขประทานโทษ พล.อ.เปรม เขานึกจะฆ่า พล.อ.เปรม ก็ฆ่าได้ซิอย่างนั้น พอฆ่าแล้วทุกคนก็เงียบ ถ้าเขามีอำนาจอยู่ หรือใครก็ตามที่บล็อกได้ ก็บอก ลื้อหยุดสอบสวน สืบสวน เรื่องก็เงียบไป ส่งลูกน้องไปทำลายหลักฐานซะ เห็นไหมคุณแอ้ม ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ผมแล้ว อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้สังคมนี้มันยืนได้ ผมไม่ได้ต่างไปจากพ่อแม่พี่น้องชาวมุสลิมภาคใต้เลยนะ

สโรชา- คือไม่ได้รับความยุติธรรม

สนธิ- ไม่ได้รับความยุติธรรม มองไม่เห็น ขนาดผม นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พิธีกรประจำ ASTV ที่พ่อแม่พี่น้องรู้จักกันทั่วประเทศ ยังโดนแบบนี้ แล้วพ่อแม่พี่น้องชาวมุสลิมที่ไม่มีปากมีเสียงโดนกระทืบตาย ลูกหลานเขาโดนฆ่าตาย เผาตัว แล้วเขาจะไปร้องเรียนที่ไหน ถ้าอยากรู้ถึงปัญหาภาคใต้เอาเรื่องผมกับเรื่องเขามาเปรียบเทียบกัน ว่าขนาดผมเป็นคนขนาดนี้ พันธมิตรฯ ทั่วประเทศไทยเป็นห่วงเป็นใย ผู้ใหญ่ทุกคนเป็นห่วงเป็นใย เรื่องมันยังไม่ไปถึงไหน แล้วพวกที่อยู่ทางใต้ตายไปแล้วกี่พันศพ กี่ร้อยศพ ผมเชื่อว่ามีศพที่ตายไปแล้วยังหาคนยิง คนฆ่าไม่ได้อีกกี่ร้อย เฉพาะทางการ 3,600 แล้วคอรบครัวเขาละ พ่อแม่ ลูกเมีย เขาละ พี่น้องเขาละ เพื่อนฝูงเขาละ ถึงไม่น่าประหลาดใจไงเล่า ว่าปัญหาภาคใต้แก้อย่างไรก็แก้ไม่ได้

สโรชา- เพราะไม่ได้ปลดล็อกตรงนี้

สนธิ- ขนาดนายสนธิ ยังแก้ไม่ได้เลย แล้วจะแก้ภาคใต้ได้อย่างไร มันเกี่ยวโยงกันหมดเลยนะ

สโรชา- จริงๆแล้วไม่นึกนะคะ ถ้าเกิดไม่เปรียบให้เห็น

สนธิ- ต้องเปรียบให้เห็น มันเป็นปรัชญาเดียวกันเลย ชาติบ้านเมืองเดี๋ยวนี้มันอยู่ไม่ได้จริงๆแล้ว เมื่อมันอยู่ไม่ได้แล้วอีกหน่อยมันไม่มีชาติก็อยู่ไม่ได้ เมื่อชาติอยู่ไม่ได้ทุกสถาบันอยู่ไม่ได้เลย

สโรชา- เราประสบกับวิกฤตทางด้านจริยธรรม วิกฤตเศรษฐกิจไม่ต้องพูดถึง วิกฤตทางการเมือง วิกฤตทางธรรมชาติ ภัยธรรมชาติ โรคร้าย โรคระบาด ยังต้องเผชิญกันอีก
43 คนวันนี้ล่าสุด ตอนนี้ในเมืองไทยติดเกือบร้อยคนแล้ว

สนธิ- ผมมีอะไรที่อยากจะฝากคุณสโรชา ฝากท่านผู้ชมนิดหนึ่ง หวัดครั้งนี้มันระบาดได้ง่าย ผมไม่อยากจะไปก้าวก่ายการทำงานของท่าน แต่ผมมีความรู้สึกว่า ข้าราชการเรา ตลอดจนนักการเมืองเรา และผู้ปฏิบัตินั้น ขออนุญาตผมไม่กล้าพูด ใช้คำว่า ท่านทำงานไม่เป็น แต่ผม อยากให้ท่านทบทวนวิธีการทำงานของท่านซะใหม่ ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ เด็ก 4 คนที่เซนต์คาเบรียล พบว่าติดหวัด สิ่งที่โรงเรียนทำคือ สั่งปิดโรงเรียน แล้วไปค้นพบว่า เด็ก 4 คนไปติดหวัดมาจากโรงเรียนกวดวิชา สั่งปิดโรงเรียนกวดวิชา คำถามมีอยู่ 4-5 คำถาม คำถามแรก ท่านทราบหรือไม่ว่า เด็กกวดวิชานั้นกวดในชั้นเรียนนั้นมีนักเรียนกี่คน ท่านรู้รึเปล่าว่านักเรียนพวกนั้นบ้านอยู่ที่ไหน ครอบครัวอยู่ที่ไหน 2. ท่านทราบหรือไม่ว่า สอบประวัติหรือยังว่า เมื่อเขากวดวิชาที่เขาเริ่มติดหวัดแล้วเขาไปที่ไหนบ้าง แล้วเด็ก 4 คนนั้น ในชั้นเรียนของเด็กเซนต์คาเบรียลนั้นมีกี่คน ท่านทราบหรือไม่ว่า พ่อแม่เขาอยู่ที่ไหน ครอบครัวเขาอยู่ที่ไหน ถ้าท่านไม่ทราบ ท่านกำลังทำผิดร้ายแรง ท่านต้องทราบ แล้วเมื่อท่านทราบแล้ว ท่านต้องหาทุกวิธีทางไม่ให้เขาออกไปไหน ให้เขาอยู่ในบ้าน หรือว่าพาทั้งครอบครัวมาอยู่ที่โรงพยาบาล กักบริเวณ

สโรชา- เพราะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแล้ว

สนธิ- อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแล้ว นี่ยกตัวอย่างให้ฟัง เพราะฉะนั้นแล้ว เด็ก 4 คน สมมุติอยู่ 4 ห้อง เด็กทั้ง 4 ห้องต้องไปหมด รวมทั้งพ่อแม่ด้วย แล้วการปิดเทอม การหยุดให้ 7 วัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เด็กมันเฮ วันนี้ผมเชื่อว่ามีไม่ต่ำกว่า 20-30 เปอร์เซ็นต์ ไปเดินแถวสยามสแควร์

สโรชา- ไปเดินห้าง ไปดูหนัง

สนธิ- ไปเดินห้างมาบุญครอง ไปดูหนัง ไปอยู่ในห้องแอร์ ซึ่งแอร์มันจะกระจายออกไป ผมจะบอกให้นะ นี่คือความหมายของโรคระบาด แล้วจะระบาดไปหมดเลย

สโรชา- พวกที่รักษาตัวก็รักษาไป แต่เพื่อนนักเรียนในห้องเดียวกัน ที่มีสิทธิ์

สนธิ- เพราะฉะนั้นแล้วเขาต้องตอบโจทก์ 4-5 ข้อที่ผมถามให้ได้ว่าเขาทำหรือยัง ถ้ายังไม่ทำ การที่ท่านนายกฯ บอกคุมได้ คุมไม่ได้หรอกครับ ถ้าคุมได้ปริมาณไม่ขึ้นอย่างนี้หรอก ผมไม่อยากพูด พูดแล้วเดี๋ยวจะหาว่าผมกระแนะกระแหนเขาอีก พรรคประชาธิปัตย์ทำงานไม่เป็น ด้วยความสัตย์จริง คนที่ทำงานเป็น นักการเมืองทำงานเป็น ต้องลงมาสั่งการได้เต็มที่ ไม่ใช่ทำตามที่ข้าราชการบอก เพราะฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ยังคงเป็นพรรคข้าราชการเหมือนเดิม สุดแล้วแต่ข้าราชการเสนออะไรมาก็ทำไปอย่างนั้น ทีนี้มันเป็นโรคระบาดแล้ว มันต้องพูดแบบไม่เกรงใจแล้ว จะมาเกรงใจกัน ถึงจะรักท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ อย่างไรก็ งานนี้รับไม่ได้ ต้องพูด ทำไม่เป็น แล้วผมจะบอกให้ ถ้ามีการระบาดขึ้นมาต้องรับผิดชอบ ผมอยากเห็น คุณวิทยา แก้วภราดัย ทำงานรับผิดชอบมากกว่านี้ เข้าใจมากกว่านี้ แล้วเข้าถึงมากกว่านี้ด้วย สรุป คำพูดพระเจ้าอยู่หัว ใช้ได้ทุกเรื่อง เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา พัฒนาวิธีทำการ คุณจะทำเป็นเล่นไปนะงานนี้

สโรชา- ต้องคิดข้ามชอร์ต

สนธิ- คิดข้ามชอร์ตไปแล้ว

สโรชา- ไม่ใช่วิ่งตาม

สนธิ- แล้วต้องเด็ดขาด ต้องสั่งทันที วันนี้เด็กเซนค์คาเบรียล หรือเด็กที่ติด ระหว่างเพาะเชื้อจะไม่มีอาการ เพราะฉะนั้นแล้ว บางคนเดินสยามพารากอน ไปเดินในโรงหนัง

สโรชา- คือมีอยู่แล้วในร่างกาย

สนธิ- มีอยู่แล้วในร่างกาย เดี๋ยวทั้งโรงหนังเป็นหมด สยามสแควร์ เข้าไปร้านสีฟ้า เดี๋ยวก็เป็นหมด น่ากลัวมาก

สโรชา- น่ากลัว อันนี้กลับเป็นเรื่องใกล้ตัวยิ่งกว่าเรื่องอะไรซะอีก 3 นาทีสุดท้าย คุณสนธิ เรากำลังเผชิญกับสิ่งเหล่านี้อยู่ กำลังเผชิญกับปัญหารอบด้าน ความหวังมี เราคุยกันเมื่อปี 46 ตอนนั้นเราก็มีความหวัง ตอนนี้เรายังมีความหวังอยู่หรือเปล่า

สนธิ- มีครับ มีตรงที่ว่า ส่วนตัวผม ผมเหมือนคนตายแล้วเกิดใหม่ ผมคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงมอบหมายให้ผมเดินหน้าต่อไป เพื่อทำเรื่องที่ผิดให้มันถูกซะ แล้วเข้ามาช่วยชาติ ช่วยบ้านช่วยเมือง ผมคิดว่าพันธมิตร พ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรทั้งหมดคือความหวังของประเทศชาติ วันนี้จริงๆ คนเขาบอกว่า สีเหลือง สีแดงรักชาติทั้งนั้น ผมไม่ขัดข้อง เอาเป็นวันนี้เราไม่มีสีแล้วกัน เรามีอยู่อันเดียว คือพวกเราทุกคนต้องพร้อมเอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ส่วนตัว ต้องส่วนรวม ถ้าเราเอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เราจะเริ่มเห็นวิธีแก้ปัญหา แล้วถ้าเราเอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เราจะเห็นได้ชัดเลยว่า การเมืองที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ในสภา แล้วที่กำลังจะเป็นอยู่ วิธีการเก่าๆ แบบนี้ คุณสโรชา แก้ปัญหาชาติบ้านเมืองไม่ได้เด็ดขาด

สโรชา -ไม่ได้สักข้อ

สนธิ- ไม่มีวันที่จะแก้ปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ปัญหาการศึกษา ปัญหาเรื่องจริยธรรม ปัญหาภาคใต้ ปัญหาทหาร ปัญหาตำรวจ แก้ไม่ได้เด็ดขาด สังคมไทยต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยที่ไม่เคยมีมา การเปลี่ยนแปลงในทางบวก การเปลี่ยนแปลงที่ต้องคิดนอกกรอบ การเปลี่ยนแปลงที่จะต้องละเลย ทิ้งผลประโยชน์ส่วนตัวไปซะ แล้วเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง นักการเมืองทุกคนต้องเกิดใหม่หมด ถ้าไม่เกิดใหม่ก็ตายไปเลยแล้วไม่ต้องเกิดอีก แล้วเอาคนใหม่ๆ ที่เกิดมาแล้วพร้อมทำงานให้ส่วนรวม เขาไม่เห็นแก่ประโยชน์ เพราะว่าชาติบ้านเมืองมันไปไม่ได้จริงๆ แล้วคุณสโรชา

สโรชา- ต้องกล้า ต้องเสียสละ

สนธิ- ต้องกล้าหาญ ต้องเสียสละ ต้องซื่อสัตย์ และต้องมีความสามารถในการทำงาน

สโรชา - ไม่อย่างนั้นไปไม่ได้แล้ว นี่คือภาพที่วาดให้เห็นนะคะพ่อแม่พี่น้อง เกี่ยวกับปัญหาบ้านเมืองที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ รุมเร้าทุกๆ ด้าน เห็นได้ชัดว่า วิธีการแก้ที่เป็นอยู่ เส้นทางที่เราเดินอยู่นั้น มันไม่ใช่เส้นทางที่จะสามารถแก้ปัญหาให้กับเราได้ เพราะฉะนั้นเรานี่แหละต้องเป็นตัวขับเคลื่อน พันธมิตรเป็นพลังเป็นความหวังที่เราจะเปลี่ยนแปลงเราได้

สนธิ- วันนี้ไม่จำเป็นต้องพันธมิตรก็ได้ ทุกคน ถ้าใครเห็นว่าชาติบ้านเมืองต้องเปลี่ยนแปลง แล้วของเก่าๆ เน่าๆ แบบนี้ เราจะยอมต่อไปไม่ได้ มาร่วมมือร่วมใจกัน

สโรชา - ไปดูผลโหวตนิดหนึ่งก่อนจบรายการ เห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ว่าสอบผ่านหรือไม่ สีแดงนี่คือไม่ผ่านนะคะ 89 เปอร์เซ็นต์ สีเขียวคือผ่าน 11 เปอร์เซ็นต์ คงจะได้เห็นภาพรวมกัน
ขอบพระคุณ คุณสนธินะคะที่มาร่วมรายการ ขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องคะที่ติดตาม กลับมาพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้า สวัสดีคะ
กำลังโหลดความคิดเห็น