นอกจากเป็นช่วงที่คนไทยจะได้สาดน้ำดับร้อนในเทศกาล “สงกรานต์” แล้ว สงกรานต์ยังถือเป็นช่วงเวลาที่ญาติพี่น้องจะได้อยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพราะทุกคนต่างกลับสู่ภูมิลำเนาไปกราบพ่อ ไหว้แม่ตามประเพณีไทยที่สืบทอดกันมา ที่สำคัญวันที่ 14 เมษายนของทุกปี ยังถือเป็น “วันครอบครัว” อีกด้วย
ประชาชนทั่วไปอย่างเราๆ ท่านๆ ต่างก็อยู่มีแผนการอยู่ในใจว่าปีใหม่ไทยจะไปรดน้ำญาติผู้ใหญ่ หรือจะไปเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์กับใครบ้าง แล้วบรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย ซึ่งที่ผ่านมาต่างต้องรับผิดชอบภาระของตนเองหน้าตาคร่ำเคร่ง จะถือโอกาสไปพักผ่อน เล่นน้ำสงกรานต์อย่างไรกันบ้างต้องตามไปดู
** “วิทยา” แยกกันเดินกับศรีภรรยา
“วิทยา แก้วภราดัย” รมว.สาธารณสุข และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.นครศรีธรรมราช บอกว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่ได้ไปไหนก็อยู่ที่นครฯ นี่แหละ ทุกปีในช่วง 12-14 เม.ย. จะไปร่วมกิจกรรมกับชาวบ้านเป็นประจำลงพื้นที่ตลอดทุกปี ขอทำหน้าที่ สส.เขต ส่วนกับภรรยาก็มักจะแยกสายกันเดินตระเวนไปงานนั้นงานนี้
“ส่วนลูกๆ ที่ปกติอยู่กรุงเทพฯ ก็จะกลับมาบ้านที่นครฯ ช่วงวันที่ 14 หรือ 15 เม.ย.คงจะพาเที่ยวได้สักวัน เที่ยวแถวนี้ขับรถพาเที่ยว ไปรดน้ำผู้สูงอายุตามงานที่จัด ผมทำมา 20 ปีแล้ว ก็เลยเล่นสงกรานต์ไม่เป็นแล้ว”
แถม รมว.สธ.ยังบอกอีกด้วยว่า ปีนี้คงต้องกวดขันเป็นพิเศษเพราะรับผิดชอบเรื่องการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการหามาตรการลดอุบัติเหตุลดคนเจ็บเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตเป็นหลัก โดยจะหารือกับผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราชและขอความร่วมมืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่ ช่วยกันรณรงค์ในทางสายรอง ถนนหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการพุ่งเป้าที่ตรงจุด นอกจานกี้พบว่าตัวเลขอุบัติเหตุจากมอเตอร์ไซค์สูงมาก คงต้องกวดขันการสวมหมวกกันน็อกด้วย
ขณะที่ “มานิต นพอมรบดี” รมช.สาธารณสุข ก็ไม่น้อยหน้าเพราะในฐานะเป็น ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จ.ราชบุรี ก็ต้องตระเวนลงพื้นที่ทำงานขยันขันแข็งตลอดช่วงสงกรานต์
“ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน ไปแต่งานบุญ งานรดน้ำผู้สูงอายุที่จะจัดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งในปีนี้มีหน้าที่เพิ่มขึ้นมาคือ ต้องลงไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ซึ่งเป็นจุดตรวจวัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และถ้ามีโอกาสก็จะพาลูกๆ ไปตักบาตรตอนเช้า เข้าวัดทำบุญด้วย”
แม้จะทำหน้าที่กำกับดูแลกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งมีเด็กและเยาวชนอยู่ในสังกัดจำนวนมาก แต่ รมว.ศึกษาธิการ ก็ไม่ได้ปิดกั้น ห้ามปรามน้องๆ หนูๆ วัยรุ่น ใส่เสื้อสายเดี่ยวแต่อย่างใด เพียงแต่เตือนเล็กๆ ว่า
“สายเดี่ยวใส่ได้นะ แต่ขอให้ระมัดระวังอย่าให้โป๊ และการไปเล่นน้ำสงกรานต์หากแต่งกายล่อแหลมก็จะไม่เหมาะสม เด็กๆ จะสวมใส่เสื้อผ้าอย่างไรก็ได้ ที่สำคัญคือให้อยู่ในกรอบประเพณีที่ดีงาม และถูกกาลเทศะ เพราะบางทีวัยรุ่นก็อยากจะใส่เสื้อผ้าแฟชั่นบ้าง คงห้ามเลยไม่ได้”
** “อิสสระ” ชวนลูกอย่าห่วงเที่ยวกลับไปหาพ่อแม่
ในส่วนมุมมองด้านครอบครัวของ “อิสสระ สมชัย” เจ้ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพราะหากดูจากเนื้องานที่รับผิดชอบแล้วต้องถือว่า พม.มีหน้าที่โดยตรงในการรับผิดชอบงานด้านสถาบันครอบครัว ซึ่ง รมว.พม.มีความเห็นว่า ทางกระทรวง พม.ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งทุกปีก็จะมีการจัดงานวันแห่งครอบครัวขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักให้ทุกคนในสังคมได้รับรู้ถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว เพราะต้องยอมรับว่า ทุกวันนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมส่วนใหญ่ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากปัญหาครอบครัวทั้งสิ้น และยิ่งปัญหาเศรษฐกิจ การงาน การเงิน ที่ผันผวนอย่างหนักแล้ว จะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ทำให้กระทบต่อครอบครัวทั้งสิ้น เมื่อผู้ปกครองเองเริ่มมีภาระหน้าที่ที่หนักขึ้น ก็ทำให้ไม่มีเวลาให้กับลูก ลูกเองก็จะหาที่พึ่งทางอื่นจนนำมาสู่ปัญหาเยาวชนต่อไป ดังนั้นจึงอยากให้สังคมเกิดความตระหนักถึงการให้เวลากับครอบครัว พยายามให้พ่อ แม่ ปู่ย่า ตายาย และ ลูกๆ หลานๆ ได้มีโอกาสอยู่พร้อมหน้ากัน โดยอาจถือวันหยุดช่วงสงกรานต์เป็นจุดเริ่มต้นกับสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นกับทุกครอบครัว
รมว.พม.ยังบอกอีกว่า ในมุมส่วนตัวแล้วจะให้ความสำคัญกับครอบครัวมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่เนื่องจากตนเป็นนักการเมือง และบทบาทล่าสุดกับการเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องยอมรับว่ามีเวลาให้ครอบครัวน้อยกว่าเมื่อก่อน ทำให้ในวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์นี้ ก็จะถือโอกาสกลับไปที่ จ.อุบลราชธานีบ้านเกิด เพื่ออยู่กับครอบครัว พบปะกับญาติพี่น้องที่จะมารวมตัวกัน และกิจกรรมที่จัดกันในครอบครัวทุกปีคือ การจัดรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ซึ่งจะเป็นการรวมของลูกๆ หลานๆ จำนวนมาก
“โอกาสวันสงกรานต์นี้ อยากให้ลูกๆ ทุกคนกลับไปหาพ่อแม่ กลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ไปรดน้ำขอพรท่าน เพื่อให้มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ มีกำลังใจในการต่อสู่กับสภาพปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้น หากทุกคนสามารถสร้างความตระหนักเรื่องของครอบครัวได้ สังคมไทยก็จะห่างหายจากความขัดแย้ง ซึ่งต้องเริ่มที่ครอบครัวอบอุ่นก่อนเป็นอันดับแรกในการแก้ปัญหาทุกอย่าง” อิสสระแนะนำ
