“แพม” เหลืออด งัดหลักฐานมัด “พลอย” โกหกเรื่องกอด “ป๊อบ” พร้อมท้าแน่จริงแถลงคู่ กร้าว ต้องขอโทษและถอนคำพูดที่ด่าเสียหาย ถึงจะถอนฟ้อง เหน็บ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ใครกันแน่โกหก ส่วนกรณีที่สาวพลอยรับผิดที่ด่าประจานรุนแรง เจ้าตัวซัดตอนทำไม่คิด ด้านแม่แพม เปิดใจไม่โกรธ แต่สงสารพ่อแม่สาวพลอย ที่มีลูกสาวพฤติกรรมแบบนี้ ส่วนภาพหลุดนัวแฟนเก่า แม่คอนเฟิร์มเองไม่น่าเกลียด
หลังจากไม่พอใจที่ถูกนักร้องสาว “พลอย ณัฐชา สวัสดิ์รักเกียรติ” หรือ “พลอย ลิตเลิ้ลว้อยซ์” เปิดศึกด่าผ่านไฮไฟว์(Hi5) ด้วยคำที่หยาบคายรุนแรงเหตุ เพราะหึงหวงที่สาว “แพม ปานพิมพ์ เตชะธนชัยพัฒน์” นักแสดงเรื่อง เดอะกิ๊ก3 เอารูปหนุ่ม “ป๊อบ ทศพล สมิงวัน” แฟนเก่า ซึ่งปัจจุบันกำลังคบอยู่กับสาวพลอย มาโพสต์ไว้ในไฮไฟว์ จนสาวแพมทนไม่ไหวออกมาแถลงข่าวตอบโต้ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตนเอง พร้อมกับหอบหลักฐานขึ้นโรงพัก แจ้งความดำเนินคดีกับสาวพลอยให้ถึงที่สุด แถมยังแฉสาวพลอย ว่า เคยโผกอดหนุ่มป๊อบต่อหน้าต่อตา สมัยที่ยังคบกับตนอยู่
กระทั่งล่าสุดสาวพลอยได้ออกมาชี้แจงบ้าง โดยยอมรับผิดเรื่องที่ไปด่าสาวแพมด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ปฏิเสธยันเตไม่เคยกอดหนุ่มป๊อบอย่างที่ถูกกล่าวหา ทำเอาสาวแพมถึงกับเหลืออด งัดหลักฐานข้อความในไฮไฟว์ที่ยืนยันได้ว่าสาวพลอยโกหกออกมาโชว์
ซึ่งงานนี้เจ้าตัวยอมเปิดบ้านให้ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” ได้เข้าไปสัมภาษณ์อย่างหมดเปลือก พร้อมเปิดใจ “อภัสนันท์ เตชะธนชัยพัฒน์” คุณแม่ ถึงกรณีที่ลูกสาวถูกตราหน้าว่า ทะเลาะกันเพราะเรื่องผู้ชาย งานนี้ทำเอาคุณแม่อัดอั้น ถึงกับน้ำตาปริ่มเลยทีเดียว
แพม : “ตั้งแต่แจ้งความไปทางโน้นยังเงียบอยู่ ไม่มีการโทรมาขอโทษหรือติดต่อมาพูดคุยอะไร ตอนที่แจ้งความไปหนูก็คิดว่าเขาคงจะออกมาพูดมารับผิดชอบอะไรบ้าง แต่เขาก็เงียบ(ยิ้ม) ความรู้สึกมันโกรธจนหายโกรธแล้วค่ะ เพราะเรื่องมันก็เลยมาจะเดือนนึงแล้ว เขาก็ยังไม่รับผิดชอบอะไรสักอย่างเลย ตอนนี้แค่อยากให้เขารับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำ และอยากให้แก้คำพูดให้หน่อย เพราะด่าเราแรงมากในหลายๆ คำ ทำให้คนเข้าใจเราผิด”
“ถ้าทางโน้นยังไม่ออกมารับผิดชอบ ทนายจะแจ้งความเพิ่มข้อหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อีกข้อหานึง ถ้าเอาความต้องการส่วนตัว หนูไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ขอแค่เขาขอโทษในสิ่งที่ทำทุกอย่างก็จบ และต้องขอโทษต่อสาธารณะชน เพราะเวลาทำเขาก็ทำต่อสาธารณะชน ฉะนั้นเวลาขอโทษก็ต้องขอโทษต่อสาธารณะชนเหมือนกัน เวลาทำยังกล้า เวลาขอโทษก็ต้องกล้าเหมือนกัน”
“ออกมาแถลงคู่กันเลย ว่าทำไปเพื่ออะไรเพราะหนูไม่รู้เหตุผลที่แท้จริง ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร และหนูก็ไม่รู้ว่าใครไปบอกอะไรเขา ถึงได้มาว่าเราขนาดนี้ ทำไมไม่คุยกับเราก่อน ทั้งๆ ที่วันแรกที่หนูให้สัมภาษณ์ หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงเขาสามารถหาเบอร์หนูได้ แต่ก่อนหน้านี้เป็นคนบอกเองว่าอยากคุยกับหนูนานมากแล้ว แต่ไม่สามารถหาเบอร์หนูได้ แต่พอเป็นข่าวกลับหาเบอร์เราได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หนูก็เลยคิดว่านี่เหรอที่บอกว่าอยากคุยกับหนูนานแล้ว ดูไม่จริงใจกับเรา”
เนื่องจากวันพฤหัสบดี ที่จะถึงนี้(2 เม.ย.) สาวพลอยมีงานโชว์ตัวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และหากมีการขอโทษผ่านสื่อในวันนั้น ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจะยอมถอนฟ้องหรือเปล่า งานนี้เจ้าตัวบอกว่าขอถามผู้ใหญ่ก่อน พร้อมยื่นคำขาดไม่ใช่แค่ขอโทษ แต่ต้องถอนคำพูดเรื่องที่ด่าเสียๆ หายๆ ด้วย
“ตัวหนูเองแค่อยากให้เขาออกมาขอโทษ พูดทุกอย่างให้เคลียร์ เคลียร์ทุกๆ อย่างนะคะ แต่หนูก็ต้องถามทางผู้ใหญ่ก่อนว่าจะว่ายังไง เพราะว่าหนูมีสังกัดเซ็นสัญญาไว้ ฉะนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับทางต้นสังกัด เพราะคนมาว่าเด็กในสังกัด แล้วมันก็ทำให้สังกัดเสียชื่อเสียงไปด้วย ว่าเด็กในสังกัดทำตัวไม่ดีนะ”
“เขาต้องแก้คำพูดให้ด้วยนะ เพราะสิ่งที่เขาพูดมันทำให้คนเข้าใจหนูผิด ไม่รู้เขาไปเอามาจากไหนว่าทำศัลยกรรมทั้งหน้า ถามว่าหนูทำศัลยกรรมมั้ย หนูก็ทำแต่หนูทำหน้าอก หนูไม่ได้ทำหน้าอย่างที่เขาพูด คนเข้ามาถามว่าไปกรีดตาที่ไหน ไปทำจมูกมาเหรอ แล้วจมูกหนูมันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว มาบิดดูได้เลย ถ้าว่าเรื่องที่มันจริงหนูไม่ว่านะ แต่นี่เหมือนโดนใส่ร้าย”
“แต่เรื่องที่ด่าว่าหนูเรียนไม่เก่ง หนูไม่โกรธนะ ทำไมก็เราเรียนไม่เก่ง อย่างเรื่องย้ายที่เรียนบ่อย เพราะมันจะมีช่วงนึงที่หนูมีงานหนังเข้ามา แล้วตอนนั้นกำลังโปรโมตเดอะกิ๊ก2 พร้อมกันกับถ่ายหนังเรื่อง เพื่อนกันเฉพาะวันพระ มันติดกันหนูก็เลยดรอปไว้ แล้วหนูอยากย้ายมาเรียนม.กรุงเทพ ก็เลยโอนมาเรียนที่ม.กรุงเทพ แล้วรู้สึกว่าเวลาขออาจารย์ทำงานมันยากกว่า ก็เลยคิดว่าเทอมนี้จะกลับมาเรียนม.รังสิตเหมือนเดิม อย่างที่บอกว่าไม่โกรธเลยที่ว่าเราเรียนไม่เก่ง เพราะเขาอาจจะคิดไม่เหมือนที่เราคิด คือหนูก็ทำงานไปด้วย ถามว่าทำงานหนักมั้ย คือผลงานอาจจะดูน้อย แต่เราก็ทำหลายอย่าง แต่มันอาจจะไม่โดดเด่นเท่านั้นเอง”
“แต่ถ้าหากคนจะเชื่อว่าเราเป็นอย่างนั้น หนูเชื่อว่าเวลามันจะพิสูจน์ได้ สักวันคนคงจะเห็นว่าเราเป็นยังไง หนูไม่เฟค ถามว่าหนูแรงมั้ย หนูก็ปกติวัยรุ่นคนนึง ที่ก็มีแต่งตัวเปรี้ยวบ้าง พูดจาหยาบคายมั้ย กับเพื่อนมันก็มีบ้าง อยากให้คนเข้าใจว่าหนูก็เป็นเด็กผู้หญิงคนนึงในสังคม เราอาจจะทำงานในวงการ เป็นคนของประชาชน แต่หนูก็จะพยายามทำตัวให้ดีให้เต็มที่ แต่ด้วยงานที่ออกมามีถ่ายบิกีนี ถ่ายFHM หรือถ่ายอะไรที่มันดูแรง คนก็มองได้ว่าเด็กคนนี้คงแรง คำที่เขาว่าคงจะเป็นจริง”
“แต่ถ้าเขาไม่แก้ข่าวให้จะทำยังไงหรือค่ะ(นิ่งคิดนาน) หนูคงจะทำอะไรไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของเขาที่จะแก้หรือไม่แก้ให้เรา แต่ความต้องการของเราคืออยากให้ออกมาแก้ให้หน่อย ว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะมันทำให้คนอื่นมองเราในแง่ไม่ดี ยังไงก็หวังว่าเขาจะแก้ให้หน่อย เพราะตอนนี้ทั้งสองคนก็เงียบไปเลย ถ้าไม่ขอโทษก็ให้ดำเนินคดีไป ให้ทนายจัดการ”
สวนกลับสาวพลอย ที่ปฏิเสธว่าไม่ได้กอดหนุ่มป๊อบต่อหน้าต่อตา สมัยที่ยังคบกันอยู่ งานนี้สาวแพมถึงกับงัดหลักฐานออกมาตบหน้าอีกฝ่ายเลยทีเดียว
“หนูทราบว่าเขารู้จักกันมาก่อนที่จะมาคบกับหนู หนูเลิกกับป๊อบวันที่ 12 มกราฯ แล้วเขาก็คบกันวันที่ 14 หรือ 15 นี่แหละ ซึ่งก็มีหลักฐานที่ยืนยันว่าเขาคบกันวันนั้น แล้วหนูก็มีหลักฐานว่าหนูเลิกกับป๊อบวันนั้นเหมือนกัน มันเป็นแมสเสจที่ป๊อบส่งมาว่าป๊อบไม่ได้มีใคร แต่ว่าเราเลิกกันแล้ว ส่งมาวันที่ 12 มกราฯ แล้วก็วันที่ 14 มันเป็นไฮไฟว์ของป๊อบค่ะ ซึ่งพลอยไปเม้นต์ไว้ ว่าเราคบกันหนึ่งเดือนแล้วนะ แต่วันที่เม้นต์คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งครบหนึ่งเดือนคือวันที่ 14 มกราฯถูกต้องมั้ยคะ นั่นคือหลักฐานซึ่งหนูก็เซฟไว้หมดแล้ว หนูเซฟหลักจากที่มีเรื่องกันแล้ว เพราะหนูไม่อยากให้ใครมามองว่าหนูพูดเองหรือเปล่า ต้องเซฟทุกอย่างเพราะอยากให้มันมีหลักฐาน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคนจะหาว่าพูดเองหรือเปล่า”
“หนูยืนยันว่าพลอยกอดป๊อบจริงๆ ค่ะ เพราะอันนี้หนูก็มีหลักฐานเหมือนกัน เพื่อนป๊อบเขาส่งแมสเสจมาขอโทษหนูในไฮไฟว์ คือตอนนั้นหนูมีปัญหากับเพื่อนป๊อบนิดหน่อย หนูก็เลยคิดว่าถ้าเพื่อนป๊อบไม่คิดอะไรจริงๆ ไม่ได้โกรธหนูจริงๆ ทำไมต้องให้พลอยเดินมากอดป๊อบด้วย แล้วเขาก็ส่งกลับมาว่าเขาขอโทษเพราะเขาไม่คิดว่าพลอยจะเดินเข้าไปกอดป๊อบจริงๆ แล้วหนูก็มีพยานบุคคลด้วย เป็นเพื่อนป๊อบนั่นแหละ”
“วันนั้นหนูนั่งอยู่กับป๊อบ แล้วพลอยก็เดินเข้ามากอดคอ เข้ามาข้างหลังก็โน้มมากอดจากข้างหลัง แล้วก็พูดว่าสวัสดีป๊อบ ซึ่งตอนนั้นป๊อบก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วหนูไม่ใช่คนหึงหวงจับผิดอะไร แค่รู้สึกว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมากอดแฟนเรา แต่เขาบอกว่าเป็นเพื่อน ก็เลยโอเคเพื่อนก็เพื่อน”
ยันไม่ใช่คนโกหก เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการแสดงเหมือนอย่างที่อีกฝ่ายพาดพิง
“ที่มาทำแบบนี้ มันไม่ได้เป็นที่ตัวหนูคนเดียวไงคะ ทางผู้ใหญ่คิดแล้วว่าน่าจะทำแบบนี้นะ เพราะครั้งนี้มันทำให้เราเสียชื่อเสียง และบริษัทก็เสียชื่อเสียงมาก แล้วหนังก็กำลังจะฉาย แล้วทุกอย่างตอนนี้มันแย่ ข่าวนี้มันจะมีผลเสียต่อหนังด้วย ทางผู้ใหญ่ก็เลยเห็นว่าเราแจ้งความฟ้องดีกว่า”
“ถ้าเกิดหนูเล่นละคร หนูก็คงเก่งมากเลยค่ะ ยืนยันได้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องจริง หนูไม่ใช่เด็กขี้โกหก เป็นคนพูดตรงๆ คิดยังไงก็พูดอย่างนั้น รู้สึกยังไงก็พูดอย่างนั้น”
ส่วนกรณีที่สาวพลอยออกมาแสดงความเสียใจที่ใช้อารมณ์ ใช้ถ้อยคำที่รุนแรงนั้น ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่เพียงพอหรือยัง? งานนี้สาวแพมสวนทันควัน แล้วทำไมไม่คิดก่อนทำ
“แล้วทำไมไม่คิดก่อนที่จะทำล่ะ เขาเรียนมหาวิทยาลัยที่ดีมาก แต่ทำไมเขาถึงไม่คิด ทำไมถึงเลือกที่จะเขียนด่าหนูเลย แล้วให้คนอื่นมองเขาแย่ๆ ทุกอย่างเป็นฟีดแบคกลับไปตัวเขานะคะ ที่เขาร้องไห้เสียใจที่ทำให้ครอบครัวเสียใจ พ่อแม่หนูก็เสียใจเหมือนกันค่ะ หนูก็โดนเหมือนที่เขาโดนนะแหละ อาจจะโดนมากว่าด้วยซ้ำ เพราะเขาเขียนด่าหนูแรง คนแถวบ้านถามแม่หมดเลย คนที่รู้จักพ่อก็โทร.มา ทั้งๆ ที่เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพ่อแม่หนูเลย และเราก็ไม่ได้เป็นคนสร้างเรื่องที่เกิดขึ้น หนูกลับมาโดนอะไรแบบนี้ หนูไปทำอะไรให้เขา”
“ตัวหนูไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องหนักหนาอะไรมาก แต่กับพ่อแม่ท่านเป็นผู้ใหญ่ ไม่ควรจะมาโดนอะไรพวกนี้ มันเป็นเรื่องของเด็ก แต่พ่อกับแม่ต้องมาเครียด หนูเห็นแม่ร้องไห้ก็รู้สึกไม่ดี ที่เป็นลูกยังไงทำแม่ร้องไห้ แล้วที่พ่อเขาบอกว่าพลอยไม่ได้มีเจตนาเขียนทำร้ายใคร แต่มันคือชื่อหนูเต็มๆ แล้วเขาจะไม่มีเจตนาทำร้ายหนูเหรอค่ะ หนูไม่เข้าใจทำไมเขาถึงออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้”
“ต่างคนก็ต้องปกป้องตัวเอง เขาก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้มีเจตนา หนูถึงได้บอกไงคะว่า อยากให้เปิดแถลงข่าวคู่กันเลย ทุกคนจะได้รู้ว่าความจริงคืออะไร อย่างน้อยวันนั้นทุกคนต้องเอาหลักฐานไปด้วยอยู่แล้ว หนูก็มีตัวอักษรข้อความที่เซฟไว้ แล้วก็มีพยานบุคคล ถึงอยากให้แถลงคู่กันไปเลย เพราะรู้ตัวว่าไม่ได้โกหก ไม่ได้เสแสร้ง ไม่ได้ต้องการอยากดังหรืออะไรเลย ถามว่าคนที่เข้าวงการก็อยากประสบความสำเร็จ อยากมีชื่อเสียง แต่ถ้ามีชื่อเสียงในเรื่องแบบนี้ พ่อแม่ต้องมาร้องไห้ หนูไม่เอาดีกว่าค่ะ”
“ตอนนี้กับพลอยหนูรู้สึกเฉยๆ ก่อนหน้านี้ถามว่าโกรธมั้ย โกรธมากนะ ว่าทำไมถึงว่าเราขนาดนี้ ทั้งๆ ที่บอกว่าอยากคุยกับเราก่อน ตอนนี้หนูเฉยๆ เพราะเชื่อว่าไม่ว่าเราจะทำอะไรลงไป สิ่งนั้นก็จะสะท้อนกลับมาที่ตัวเราเอง เวรกรรมมีจริง ใครทำอะไรก็จะได้อย่างนั้นกลับคืน ตอนนี้อโหสิกรรมให้เลยนะ แล้วมันยากมากับการจะอโหสิกรรมให้อะไรสักอย่างนึง ก็คืออย่างที่บอกว่าเขาทำอะไร ผลมันก็จะไปสะท้อนถึงตัวเขาเอง”
“ตอนแรกเคยคิดจะเอาคืนเหมือนกัน ด่าเราแรงขนาดนี้ ไม่ไหวแล้วโมโหมาก เราไม่ได้เป็นแบบนี้ มาเขียนด่าทำให้คนอื่นมองเราไม่ดี ตอนแรกโกรธมาก แต่อย่างที่บอกอโหสิกรรมให้แล้ว คนที่ทำอะไรก็ย่อมได้อย่างนั้น ถ้าคนมองว่าหนูเฟคสักวันนึงคนก็จะรู้ว่าหนูเฟค ความจริงมันก็คือความจริงค่ะ แต่ตอนนี้ก็ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า ถึงจะอโหสิกรรมให้ แต่ก็อย่าเจอกันอีกเลย เพราะเขาทำให้ครอบครัวหนูแย่ แรกๆ แม่ต้องกินยาแก้ปวดหัว เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับวงการบันเทิง พอมาเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่ง แม่ก็ตกใจ ไม่ชินที่มีคนมาถาม แต่แม่หนูไม่ใช่คนที่จะด่า จะพูดสอนเตือนมากกว่า ดีที่แม่เข้าใจไม่อย่างนั้นหนูคงเครียดมากกว่านี้”
รับ เคยมีคนเตือนเรื่องที่หนุ่มป๊อบคบเพราะหวังเกาะดัง แต่ไม่เชื่อว่าฝ่ายชายจะเป็นคนแบบนั้น
“เคยมีคนเคยพูดกับหนูเหมือนกัน ว่าป๊อบมาเกาะเราหรือเปล่า ให้ระวัง แต่ตอนนั้นหนูก็เฉยๆ ก็ปล่อยเขาไป ถ้าเขาจะคิดแบบนั้น แต่เราบริสุทธิ์ใจที่จะคบเขา เท่าที่รู้จักกันมาเขาไม่น่าเป็นแบบนั้น เพราะเขาก็เป็นผู้ชายที่ดีคนนึง ตอนที่คบกันก็เป็นสุภาพบุรุษ ดูแลเทคแคร์ดี ซื้อข้าวให้ บุคลิกนิ่งๆ น่ารัก เป็นคนพูดจาเพราะ ไปรับไปส่งเวลาหนูไปทำงาน ไปนั่งรอเวลาทำงานตั้งแต่เช้าถึงเย็น ตอนไปถ่ายเดอะกิ๊ก3 ก็เลยไม่คิดว่าเขาจะใช้วิธีนี้กับผู้หญิง”
“แต่ไม่เคยไปบ้าน ด้วยความที่เพิ่งคุยกัน ระยะเวลาแค่ 5 เดือน เราก็แค่ศึกษากัน ถ้ายังไม่ใช่ก็ยังไม่อยากเปิดเผยให้พ่อแม่รู้ดีกว่า แต่แม่หนูก็จะรู้ว่าคุยกับคนนี้อยู่นะ (เคยไปแฟลตป๊อบแถวดอนเมืองมั้ย?) ไม่เคยค่ะ หนูไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ที่นั่นหรือเปล่า เพระไม่เคยถาม การคบหากันแม่ก็ไม่ได้ถึงกับห้ามหรือสนับสนุน แต่ก็เปิดโอกาสให้รู้จักกับเพื่อนผู้ชาย แม่ก็ไม่ได้ปิดกั้นว่าอย่าคบ อย่าไปไหนด้วยกันนะ ก็มีถามว่าเป็นคนยังไง เป็นการถามปกติเพราะเป็นห่วงเราไงคะ”
“ที่เลิกกันเพราะนิสัยเราเข้ากันไม่ได้ มันอะไรหลายๆ อย่างที่รู้สึกเราเลิกกันเถอะ เป็นเพื่อนกันดีกว่า ส่วนเรื่องข่าวที่บอกว่าที่ป๊อบเลิกกับหนู เพราะหนูไม่สามารถทำให้เขาดังได้ ก็เลยต้องไปคบกับพลอย คือตัวหนูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น รู้สึกแค่ว่าเราก็เป็นผู้หญิงคนนึง ที่อยากมีเพื่อนไปเที่ยวไปดูหนัง มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน เขาคงไม่ใจร้ายคิดกับเราแบบนั้นมั้ง คงไม่ได้มาเกาะดัง เพราะหนูก็ไม่มีอะไรให้เกาะเหมือนกัน(ยิ้ม) ก็เลยมั่นใจว่าเขาคงไม่คิดกับเราแบบนั้น กับพลอยก็เหมือนกัน เขาคงคุยกันเข้าใจกัน แล้วรู้สึกดีก็เลยคบกัน”
เผย มีคนเคยเล่าให้ฟังเรื่องที่พลอยไปมีเรื่องตบเด็กสยาม รวมไปถึงเป็นสาวแรงไม่ได้เรียบร้อยอย่างที่เป็นอยู่ แต่เจ้าตัวไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว
“เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ แล้วก็เคยมีเพื่อนเล่าให้ฟังบ้าง แต่หนูไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ก็เลยไม่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง เป็นอย่างที่มีข่าวหรือเปล่า เพราะอย่างเราคุยอะไรกับใคร แล้วเอาไปเล่าต่อมันก็อาจจะบวกเพิ่มๆ แล้วเราก็ไม่แน่ใจว่าข่าวที่มันมา มันจริงกี่เปอร์เซ็นต์ หนูว่าที่คนมองว่าพลอยเป็นแบบนั้น คงเพราะก่อนหน้านี้พลอยเคยมีข่าวกับแทคกับหญิงแม้น คนก็เลยมองว่าแล้วกับแพมพลอยแย่งหรือเปล่า”
“ถามว่าเขาแรงมั้ย พูดตรงๆ เลยว่าเขาก็แรง เขาแรงมาก เพราะพูดกับเราขนาดนี้ ถ้าคนเรียบร้อยน่ารักคงไม่ว่าเราแรงขนาดนี้ มีอะไรคงโทร.มาคุยกับเราก่อน หรือโทร.มาด่าเราเองก็ได้ แต่ไปเขียนแบบนั้นมันคือการประจานเลย อย่างน้อยถ้าโทร.มาคุยกันดีๆ เราก็จะได้อธิบายว่าสิ่งที่คุณได้ยินมามันไม่ใช่ เอามาจากใคร อยู่ดีๆ เขาก็มาว่าหนูในไฮไฟว์ ทั้งที่ตอนที่เขาไปคบกัน เราก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันเลย ไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน เราก็ถือว่าเขามีสิทธิมีแฟนใหม่ ซึ่งหนูก็ยินดีด้วย”
“หนูก็พยายามใจเย็นที่สุด หนูพูดนิ่งที่สุดแล้ว ก็ไม่อยากให้มันมีเรื่องมากไปกว่านี้ มันก็มีตอบโต้ด้วยอารมณ์บ้าง ขึ้นเสียงบ้าง แต่ไม่ได้ใช้คำหยาบคายเหมือนที่เขาพูดกับเรา เราก็ผู้หญิงคนนึง โดนด่ามันก็แค้นเหมือนกัน แล้วป๊อบก็ยังบอกว่าทำไมทำงานวงการเดียวกันถึงได้ไม่ช่วยกันเลย ถ้าอย่างนั้นจะให้พลอยเขียนขอโทษลงในไฮไฟว์ หนูก็เลยบอกว่าไม่จำเป็นแล้วล่ะ มันเป็นข่าวออกไปแล้ว ถ้าไปเขียนขอโทษในนั้นแล้วคนจะเข้าใจเหรอ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ลบไฮไฟว์นั้นทิ้งหมดเลย”
“หนูไม่รู้ว่าเพระเขาหึงหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ ต้องถามเขาดูว่าทำไมทำแบบนี้ เพราะตัวหนูเองไม่รู้อะไรเลย อยู่ดีๆ ก็โดนด่า อย่างรูปนั้นหนูก็โพสต์ไว้นานแล้ว ตั้งแต่คบกันแรกๆ แต่ลบออกเกือบหมด เหลือไว้แค่ 2 รูป เพราะเขาก็เป็นเพื่อนคนนึง แล้วในไฮไฟว์ป๊อบก็มีรูปหนูอยู่ ถามว่ามันน่าจะมีเหตุผลอื่นมั้ย หนูไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่าอยู่ดีๆ ก็มาโกรธ แล้วก็มาด่าเรา และหลังจากเลิกกันก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย อย่างวันที่เขาโทร.มาหนูก็บอกว่า แพมไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับป๊อบแล้ว และแพมก็ไม่เคยคิดจะกลับไปหาป๊อบแล้ว พลอยยังเป็นคนพูดเองเลย บอกว่าพลอยก็รู้ว่าป๊อบก็คงไม่ทำแบบนั้น ก็รู้อย่างนี้แล้ว ทำไมยังมาว่าเราอยู่ หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน รูปก็โพสต์ไว้ตั้งนานแล้ว ไม่ได้ไปโพสต์ยั่วให้เขาหึงอะไรเลย”
“ที่ไม่ยอมลบทิ้งเพราะหนูแสดงความบริสุทธิ์ใจ ถ้าลบออกไปก็แสดงว่าหนูคิดแบบนี้ ไม่อย่างนั้นจะลบทำไม อย่างที่พลอยเขียนด่าหนู ถ้าเขาบริสุทธิ์ในจริงๆ เขาก็ต้องเก็บไว้ถูกมั้ยคะ ถ้าหนูลงเพิ่มถึงจะเรียกว่ายุเขาต่อ แล้วรูปที่ลงก็เป็นรูปธรรมดา ถ้าจะยุเขาจริงๆ คงเอารูปที่กอดกันหรือหอมแก้มกัน จริงๆ ก็มีคนบอกให้ลบจะได้จบๆ แต่หนูคิดกับเขาแค่เพื่อนไงคะ เราบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีเจตนาทำให้ทางโน้นเจ็บใจหรืออะไร”
โต้ ปล่อยภาพสวีทชุดสอง ทั้งอุ้ม ทั้งหอมแก้ม ออกมาเพื่อประชดอีกฝ่าย
“หนูยืนยันได้ ว่าไม่ได้เป็นคนปล่อยเอง เพราะในคอมฯหนูไม่มีแล้ว รูปนี้ลงหนังสือกอสซิปสตาร์ ไปบริษัทหนูก็เปิดอ่าน ถามพี่ๆ เขาก็บอกว่าได้มาจากอินเตอร์เน็ต คือก่อนหน้านี้หนูลงรูปไว้เยอะมาก แต่ลบทิ้งไปหมดแล้วเหลือไว้แค่ 2 รูปอย่างที่บอก แต่ไม่รู้ว่ามีคนเซฟไว้ก่อนหน้านี้หรือเปล่า เพราะตอนที่ลงทางหนังสือก็ไม่ได้โทร.มาบอกเรา มันคนละส่วนกัน หนูเป็นเด็กในสังกัดโมโนฯ แต่กอสซิปเขาก็ทำงานของเขา เขาก็ลงข่าวเหมือนลงข่าวคนอื่นๆ ปกติ แต่ทางผู้ใหญ่ก็มีการพูดคุยกันแล้ว หนูก็เข้าใจว่าเป็นการทำงาน”
“ซึ่งหนูก็ตกใจเพราะรูปหนักกว่าเดิมอีก เพราะรูปแต่ละรูปมันแย่ เพราะมีรูปที่กอดคอ ป๊อบอุ้ม แล้วก็หอมแก้ม คือมีแต่รูปแบบนี้เลย ตอนนี้คนมองหนูไม่ดี แล้วหนูก็อยากให้คนอื่นมองหนูในแง่ดีบ้าง ดังแบบนี้มันดังจริง แต่มันดังได้แป๊บเดียว หนูไม่อยากดังเหมือนพลุ ขึ้นไปสว่างแล้วก็หาย แต่หนูอยากเป็นดาวที่อยู่ค้างฟ้าตลอด หนูก็รู้ว่าถ้าปล่อยไปแล้วคนต้องมองหนูแย่ แล้วหนูจะปล่อยไปเพื่ออะไร ทำให้ตัวเองมีค่าต่ำลงเหรอ”
รับ มีคลิปวีดีโอที่เคยถ่ายร่วมกับหรุ่มป๊อบไว้ แต่ไม่ได้หวือหวา และไม่คิดจะปล่อยออกมายั่วยุอีกฝั่งอย่างที่เป็นข่าว
“ยอมรับว่ามีค่ะ เป็นคลิปที่เราถ่ายกันเล่นๆ ป๊อบบอกรักหนู หนูก็เลยถ่ายเก็บไว้ ไม่ได้หวือหวาอะไรเลยด้วย ก็ถ่ายกันเล่นๆ แค่นั้น แต่มีคนคิดว่าเราจะปล่อยออกมา แต่จริงๆ มันไม่ใช่ เราแค่อยากเก็บเป็นความทรงจำดีๆ ที่วันนึงเราเคยรู้สึกดีๆ ให้กัน หนูไม่ได้รู้สึกโกรธหรือเกลียดเขาไงคะ ก็เลยไม่รู้จะทิ้งไปทำไม แล้วตอนนี้ก็เซฟไว้ในแผ่น ไม่มีทางหลุดแน่นอน เพราะถ้าหลุดก็รู้ได้เลยว่าหนูเป็นคนปล่อยเอง”
ถูกมองว่าแย่งผู้ชาย ไม่ทำให้เสียใจเท่าทำให้พ่อแม่ต้องร้องไห้ เสียใจ
“คนมองว่าบ้าผู้ชายหรือเปล่า แต่จริงๆ คือมันไม่ใช่ หนูโมโหหนูโกรธเพราะเขาเขียนด่าให้เราเสียหาย และมันมีผลกระทบกับครอบครัว พ่อแม่หนูเสียใจ หนูทำแม่ร้องไห้ และวันที่หนูร้องไห้ คนมองว่าหนูสร้างกระแสหรือเปล่า หนูถามหน่อยว่าถ้าคนเราเห็นแม่ตัวเองร้องไห้ ยังยืนยิ้มอยู่ได้เหรอคะ ความรู้สึกตอนนั้นคือทำไมหนูทำตัวแย่จัง ถ้าเขาไม่ว่าหนูเรื่องทุกอย่างมันก็ไม่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นเพราะว่าเขาเป็นคนเริ่มที่จะเขียนด่าหนู ถ้าคนเราโดนด่าจะเราจะยอมให้ตัวเองโดนฝ่ายเดียวเหรอคะ พอเรื่องมันเป็นแบบนี้ คนก็เลยคิดว่าเราทะเลาะกันเพราะแย่งผู้ชาย ฟังดูมันดูแย่นะ"
“เหตุการณ์นี้สิ่งที่เสียใจที่สุดคือทำให้พ่อแม่เสียใจ ทำให้แม่ร้องไห้ เรื่องนี้หนูไม่โทษใคร ตัวหนูเองก็บริสุทธิ์ใจที่จะลงรูป ตัวพลอยเองก็คงมีอารมณ์เขาก็เลยไม่พอใจก็เลยออกมาว่า ส่วนป๊อบเองก็คงไม่อยากจะพูดอะไร เพราะว่าถ้าพูดไปคนก็จะมองว่าเข้าข้างพลอยหรือเปล่า หรือถ้าพูดอะไรไม่ดีคนก็จะมองเขาไม่ดี สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราไม่ได้คุยกันก่อน แต่ก็อยากให้พลอยออกมารับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำ อยากขอบคุณพลอยที่ทำให้คนรู้จักหนูมากขึ้น และทำให้คนรู้จักเราในทางที่แย่ด้วย”
ด้านแม่สาวแพม เปิดใจน้ำตาคลอเจ็บปวดที่ลูกสาวโดนรังแก แต่ไม่ถือโทษโกรธสาวพลอย เพียงแต่รู้สึกสงสารพ่อแม่สาวพลอย ที่มีลูกสาวนิสัยแบบนี้
“รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึก เพราะเราเลี้ยงลูกมาตั้งแต่เล็กๆ เราดูแลเอาใจใส่มาตลอดจนโตเราไม่เคยให้เขารังแกใคร แต่เขากลับมาโดนรังแก หัวอกคนเป็นแม่ก็ต้องออกมาปกป้องลูก สิ่งที่เขาโดนมันเจ็บปวด เจ็บปวดอย่างมาก(น้ำตาคลอ) แม่ประคบประงมเลี้ยงดูเขามาอย่างดี แต่พอเขามาโดนแบบนี้เหมือนเราโดนทำร้ายแทนลูกน่ะ”
“ตอนแรกโกรธนะคะ แต่พอมาอ่านดีๆ อ่านเจอบรรทัดสุดท้ายที่น้องเขียนว่า หมึกแดงให้มึงจะได้ตายไวๆ เราก็มาคิดว่าโห ทำไมคำพูดน้องรุนแรงขนาดนี้ และเห็นใจพ่อแม่เขานะ ไม่รู้สึกเกลียดพ่อแม่เขานะ กลับเห็นใจพ่อแม่เขาที่มีลูกลักษณะนี้ พฤติกรรมแบบนี้ น้องเขาเป็นคนที่น่าสงสารมากๆ ในความรู้ของแม่นะ แล้วแม่ก็อ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน อ่านแล้วก็มานั่งวิเคราะห์ว่าน้องเป็นคนน่าสงสาร เขาถึงได้มีพฤติกรรมแบบนี้ แล้วรู้สึกสงสารเขา ว่าที่เขาเป็นแบบนี้เพราะหนึ่งอายุยังน้อย สองเขายังคิดไม่เป็น หรือบางทีเกี่ยวกับการที่ว่าคบเพื่อนด้วยก็มีส่วน เพราะว่าเด็กสมัยนี้จะเลี้ยงให้ดีอย่างที่เราคิด มันคงเป็นไปไม่ได้”
“ความสงสารที่ว่าไม่ได้โทษว่าคือการอบรม แต่อาจจะเป็นเพราะน้องใช้ชีวิตยังไม่เป็น เพราะวัยรุ่นสมัยนี้จะให้ใช้ชีวิตเหมือนรุ่นแม่ก็ไม่ได้ เด็กสมัยนี้มันน่ากลัวกว่าที่เราคิด แต่แม่ก็โทษแพมด้วยนะ เพราะเขายังเด็ก สองยังคิดไม่เป็น สามเขาไปเจอเพื่อนหรือคนรอบข้างยังให้ข้อคิดเห็นเขาไม่ดีเท่าที่ควร แต่ลึกๆ แล้วแพมก็ยังเป็นลูกที่ดีสำหรับแม่ ส่วนผิดเขาก็มีเหมือนกัน ด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์”
“ถามว่าเรื่องนี้จะโทษใครดี สามคนนี้แม่ไม่โทษใครเลยดีกว่า เพราะว่าเขายังอยู่ในวัยรุ่น วัยคึกคะนองอยู่ วัยที่เรียกว่าฉาบฉวย ไม่ใช่วัยที่เรียกว่าถาวร แม่จะบอกน้องตลอดว่าคบเพื่อนตอนนี้ให้คบเป็นเพื่อน อย่าคบแบบแฟน เพราะมันยังไม่ใช่วัยอนาคต เป็นวัยฉาบฉวยผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไป”
“ที่คนมองว่ามาแย่งผู้ชายกัน จริงๆ แม่มองว่ามันไม่สมควรที่จะมาใช้คำพูดอย่างนี้นะ เพราะมันเป็นความรู้สึกของเด็กที่ยังคิดไม่เป็น ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ คิดอะไรยังไม่ละเอียดไม่ถี่ถ้วน มันก็เลยออกมาในลักษณะแย่งผู้ชาย ถามว่ารู้สึกยังไงกับคำว่าลูกสาวแย่งผู้ชายกัน คือแม่ปลง แม่เดินด้านธรรมะมาตลอด มันทำให้แม่ปลงกับเรื่องพวกนี้ เพราะมีความรู้สึกว่าวันนี้เรามีลมหายใจอยู่ วันรุ่งขึ้นยังไม่รู้เลยว่าเรายังจะมีลมหายใจอยู่หรือเปล่า เพราะฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุด”
“ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยหนักใจเรื่องผู้ชายนะ จะหนักใจเรื่องเรียนมากกว่า เพราะแม่มองว่าเรื่องแย่งผู้ชายมันเป็นเรื่องธรรมดา เด็กสมัยนี้มีปัญหาเรื่องนี้เยอะ ไม่ใช่ว่าจะเกิดกับแพมคนเดียว เผลอๆ รุนแรงมากกว่านี้ด้วย คนอื่นจะมองยังไงแม่ไม่สนใจนะ แต่แม่รู้สึกเฉยๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ถามว่าแม่ยอมรับเรื่องนี้ได้ยังไง ก็อย่างที่บอกไป คือแม่ยึดธรรมะ เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะยังมีลมหายใจอยู่หรือเปล่า มันเป็นธรรมชาติของสัตว์โลก มีหน้าตาดีมันก็ต้องมีคนมาชอบ จนกระทั่งมาถูกโจมตีว่าที่น้องหน้าตาดี เพราะไปทำศัลยกรรมมาทั้งตัว แม่ฟังแล้วยังเฉยเลย เพราะลูกแม่ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด แต่ถ้าลูกแม่เป็นก็อาจจะเสียใจที่ลูกเราไปทำอย่างนั้น”
“แม่ทราบว่าเขาคบกัน เพราะเท่าที่ดูป๊อบก็ดูโอเคนะ แต่แม่จะบอกตลอดว่าคบกันได้ แต่อย่าให้เกินเลยคำว่าเพื่อน วัยนี้ไม่ใช่วัยที่เราจะจริงจังนะ เราคบกันวันนี้ ไม่รู้ว่าวันหน้าจะคบกันจริงจังหรือเปล่า สักวันนึงอาจจะเดินไปคนละทิศละทางก็ได้ ไปกันไมได้ก็ต้องจบกัน อย่างป๊อบแม่ก็เคยเจอเขา เวลามาหาที่บ้าน แม่จะนั่งคุยกับเขาตลอด คุยเรื่องธรรมะให้เขาฟัง ว่าหนูต้องทำตัวดีๆ นะลูก ต้องเป็นลูกที่ดีนะ แล้วเขาก็ดีอย่างนะคะ เขารู้ว่าแม่ชอบฟังคาถาชินบัญชร เขาก็ซื้อซีดีธรรมะมาให้ แม่ก็ดูว่าเด็กคนนี้ดีมีธรรมะในตัว แต่เรื่องที่เขามีปัญหากันแล้วเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา แม่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกิดปัญหานี้ขึ้นมา”
“แต่แม่ก็รู้จักเขาแค่ภายนอก เขาถึงได้บอกว่าคนเราจะมองกันแค่ภายนอกไม่ได้ ต้องมองลึกๆ เพราะมองแค่ภายนอกเราไม่รู้ว่าเขาจริงใจกับเราแค่ไหน มันต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แล้วเขาจะแสดงธาตุแท้ออกมาว่าเป็นคนยังไง ตอนนั้นที่แม่มองป๊อบแม่ก็ว่าเขาเป็นเด็กโอเค เป็นคนมีกิริยาวาจาดี มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เรามองว่าเด็กคนนี้ใช้ได้ ถึงได้ยอมให้ลูกคบไงคะ ดูแล้วว่าไว้ใจได้นะ เขาคบกันก็อยู่ในสายตาเราตลอด เราก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ แล้วแม่ก็ประทับใจป๊อบอย่างนึง คือตอนนั้นเขาเล่าให้ฟังว่ากลับบ้านไปกราบพ่อมา ไปทานข้าวกับที่บ้าน เราก็นึกในใจว่าเออเป็นเด็กดีนะ ลูกเราคงคบคนไม่ผิด แต่เรื่องที่เขาเลิกกันแม่ไม่ทราบเรื่องเลย”
“ข่าวที่เกิดขึ้นแม่ก็ไม่เสียใจนะ เพราะรู้ว่าเขารู้เท่าไม่ถึงการณ์ สองมันไม่ได้เป็นจริงอย่างข่าว แล้วแม่จะมานั่งเสียใจทำไม แม่กลับสงสารฝ่ายตรงข้ามมากกว่า ว่าทำไมเหตุการณ์มันถึงเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องเลย จริงๆ มันเป็นเรื่องไร้สาระด้วยซ้ำ เรื่องนี้ถ้าน้องพลอยระงับสติได้ น้องก็จะมีปัญญา พอมีปัญญาน้องก็จะคิดเป็น แต่ช่วงอารมณ์ชั่ววูบน้องเขาตั้งสติไม่ได้ ก็เลยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่กับแพมแม่จะบอกน้องตลอด ว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ต้องตั้งสติให้ดีนะลูก”
สุดใจกว้างบอกเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนภาพหลุดสาวแพมกับหนุ่มป๊อบที่หลุดออกมาประจาน แม่คอนเฟิร์มไม่น่าเกลียด บอกคนอื่นอาจจะมีแรงกว่านี้ เพียงแต่ไม่มีภาพหลุดเท่านั้นเอง
“ภาพหลุดที่ออกมา แม่ก็เตือนเขานะคะ แต่พอคุยกับเขาก็เข้าใจค่ะ แม่ไว้ใจว่าเขาดูแลตัวเองได้ ตอนแรกที่เห็นภาพแม่ก็คิดว่ามันดูไม่เหมาะสมนะ แต่พอใช้หลักคุณธรรมแม่ก็ปลง เรามองไปในทางบวก บางคนอาจจะคิดว่าลูกคุณเป็นอย่างนี้ ยังมาคิดแบบนี้ แต่ถ้าคุณเดินมาทางธรรมะ จะรู้ว่านี่มันเป็นธรรมชาติของคน บางคนทำยิ่งกว่านี้แต่เขาไม่มีภาพหลุด แต่ของน้องแม่ว่ามันยังไม่ได้มากมาย บางคนเป็นยิ่งกว่านี้ด้วยซ้ำ ภาพที่ดูมันก็ไม่ได้ดูน่าเกลียด มันก็เป็นธรรมชาติ และอีกอย่างน้องไม่ได้ถ่ายกันแค่สองคน มีเพื่อนถ่ายให้ด้วย มันจะไปน่าเกลียดอะไร มีคนอยู่ด้วย แม่ก็เลยไม่ซีเรียสค่ะ”
“แม่ไม่รู้นะว่าจะมีหวือหวามากกว่านี้หรือเปล่า เพราะลึกๆ ส่วนตัวแม่ไม่ค่อยเจาะลึกน้อง เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะน้องอายุก็จะเข้า 20 ปีแล้ว และที่เลี้ยงดูเขามา ความคิดเขาจะโตกว่าอายุ ใจลึกๆ ก็เคยกลัวนะ แต่พอมาเห็นดารามีภาพหลุดกันเยอะแยะ ก็เลยเฉยๆ มันเป็นธรรมชาติของคน พูดตรงๆ คือธรรมชาติของสัตว์โลก เพราะคนเรามันมีอย่างนี้อยู่แล้ว บางคนอาจจะมากกว่านี้ แต่มันไม่มีหลุด แล้วที่ถามว่าอนาคตอาจจะมีภาพหลุดมากกว่านี้ มันอาจจะเป็นภาพตัดต่อก็ได้ อย่างที่ดาราเจอ บอกเป็นคนนี้คนนั้น แต่จริงๆ ไม่ใช่ แม่ก็เลยเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไร”
“เคยถามเหมือนกัน แต่เขาก็บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ อย่างเวลาเขาถ่ายหนัง บางทีมันก็มีฉากเลิฟซีน ซึ่งแม่ก็มองว่ามันเป็นเรื่องของธรรมชาติ นี่แม่พูดตามสัจธรรมนะ มองโลกแบบกว้างๆ ไม่ได้มองเข้าข้างลูก การเข้าวงการแม่เฉยๆ แต่ป๊าเขาไม่อยากให้เข้าวงการนี้ เพราะเป็นห่วงสางสารลูก อยากให้เรียนให้จบกว่า ทำงานด้านนี้ถ้าเดินไปในทางที่ดีมันก็ดี แต่ถ้าเดินไปไม่ถึงดวงดาวมันก็จบ”
“ไม่รู้นะว่าใครคิดยังไง แต่สำหรับแม่แม่ปลงแล้ว คนเราทำงานด้านนี้มันก็ต้องมีข่าวทั้งดีและไม่ดีปนกันไป แต่มีภาพแบบนี้ออกมา มันก็ไม่ใช่ว่ามันดีหรือไม่ดีนะคะ แต่แม่เดินสายกลาง เพราะแม่ก็เห็นหนังสือดาราบางทีลงเยอะกว่านี้อีก บางคนเป็นการโปรโมตตัวเขา แต่แม่ก็พูดได้เต็มที่ว่าเลี้ยงลูกมาดี แม่เชื่อว่าลูกของแม่ไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นกล่าวหากัน”