นายแพทย์คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ โฆษกกรมควบคุมโรค ระบุว่า แถลงการณ์ร่วมที่ที่ประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน+3 จะลงนามร่วมกันนั้น จะมีด้วยกัน 14 ข้อ แบ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ ความร่วมมือในภูมิภาค และข้อเรียกร้องต่อองค์การอนามัยโลก เพื่อการป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยตอนนี้แต่ละประเทศอยู่ระหว่างเสนอต่อที่ประชุม ว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือหรือให้ความร่วมมือด้านใดบ้างต่อการควบคุมโรค
โดยจีนระบุว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือทุกด้าน ทั้งการจัดฝึกวิธีการตรวจในห้องปฏิบัติการ จัดการประชุมวิชาการเกี่ยวกับเชื้อโรคตัวนี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายากที่จะควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ต้องทำร่วมกัน คือการป้องกันการแพร่ระบาดให้ดีที่สุด และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม และกล่าวภายหลังการเปิดประชุมด้วยว่า ไทยยังคงยืนยันถึงการติดตามการแพร่ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการระบาดในเม็กซิโกจะเริ่มคงที่ แต่ก็เริ่มปรากฏการแพร่กระจายของเชื้อในประเทศต่างๆ โดยเชื่อว่ามาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และตรวจสอบ จะเป็นมาตรการในการดูแลไม่ให้การระบาดมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และส่งผลในวงจำกัด โดยการประชุมระดับนี้เป็นระดับภูมิภาคที่จะช่วยดูแลให้การระบาดอยู่ในวงจำกัด โดยคิดว่าในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน+3/+6 ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน น่าจะมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือกันอีกรอบหนึ่ง
ทางด้าน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ระบุว่า การจัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน เพื่อหาทางควบคุมการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้อาเซียนได้รับการชื่นชมในการริเริ่มดังกล่าว และหวังว่าจะเป็นแนวทางปฏิบัติให้ทั่วโลกทำตาม
การประชุมในรอบนี้นอกจากจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันแล้ว รัฐมนตรีของประเทศที่เข้าร่วมประชุม ต่างก็ให้ความสนใจซักถามถึงสถานการณ์ แต่มีความผิดพลาดทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างการประชุมที่กรุงเทพฯ กับผู้แทนของสำนักงานควบคุมและป้องกันเชื้อโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซี มีปัญหาขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถตอบคำถามของผู้เข้าร่วมประชุมได้ แต่ก็หวังว่าจะได้พบกับรัฐมนตรีสาธารณสุขของอาเซียนทุกคน ในการประชุม World Health Congress ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 18-22 พฤษภาคมนี้ โดยจะมีการหารือและตอบคำถามในเวทีดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำตลอดเวลาในการประชุม คือเรื่องของการเฝ้าระวังการระบาดของเชื้อ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีกำหนดว่าการเฝ้าระวังจะสิ้นสุดลงเมื่อใด และที่ต้องตอกย้ำทำกันต่อไป คือการเฝ้าระวัง ควบคุม ตรวจสอบ ประสานข้อมูล ให้ข้อมูลกันอย่างจริงใจถึงตัวเลขของผู้ที่ติดเชื้อในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องเน้นย้ำ คือการให้ความร่วมมือในการประสานเรื่องข้อมูล ให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีในการผลิตวัคซีนที่จะใช้ป้องกันโรค รวมถึงการแจกจ่ายยาที่จะใช้ต้านไวรัส ให้กับประเทศที่ยังขาดอยู่ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคได้ผล
โดยจีนระบุว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือทุกด้าน ทั้งการจัดฝึกวิธีการตรวจในห้องปฏิบัติการ จัดการประชุมวิชาการเกี่ยวกับเชื้อโรคตัวนี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายากที่จะควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ต้องทำร่วมกัน คือการป้องกันการแพร่ระบาดให้ดีที่สุด และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม และกล่าวภายหลังการเปิดประชุมด้วยว่า ไทยยังคงยืนยันถึงการติดตามการแพร่ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการระบาดในเม็กซิโกจะเริ่มคงที่ แต่ก็เริ่มปรากฏการแพร่กระจายของเชื้อในประเทศต่างๆ โดยเชื่อว่ามาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และตรวจสอบ จะเป็นมาตรการในการดูแลไม่ให้การระบาดมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และส่งผลในวงจำกัด โดยการประชุมระดับนี้เป็นระดับภูมิภาคที่จะช่วยดูแลให้การระบาดอยู่ในวงจำกัด โดยคิดว่าในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน+3/+6 ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน น่าจะมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือกันอีกรอบหนึ่ง
ทางด้าน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ระบุว่า การจัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน เพื่อหาทางควบคุมการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้อาเซียนได้รับการชื่นชมในการริเริ่มดังกล่าว และหวังว่าจะเป็นแนวทางปฏิบัติให้ทั่วโลกทำตาม
การประชุมในรอบนี้นอกจากจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันแล้ว รัฐมนตรีของประเทศที่เข้าร่วมประชุม ต่างก็ให้ความสนใจซักถามถึงสถานการณ์ แต่มีความผิดพลาดทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างการประชุมที่กรุงเทพฯ กับผู้แทนของสำนักงานควบคุมและป้องกันเชื้อโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซี มีปัญหาขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถตอบคำถามของผู้เข้าร่วมประชุมได้ แต่ก็หวังว่าจะได้พบกับรัฐมนตรีสาธารณสุขของอาเซียนทุกคน ในการประชุม World Health Congress ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 18-22 พฤษภาคมนี้ โดยจะมีการหารือและตอบคำถามในเวทีดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำตลอดเวลาในการประชุม คือเรื่องของการเฝ้าระวังการระบาดของเชื้อ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีกำหนดว่าการเฝ้าระวังจะสิ้นสุดลงเมื่อใด และที่ต้องตอกย้ำทำกันต่อไป คือการเฝ้าระวัง ควบคุม ตรวจสอบ ประสานข้อมูล ให้ข้อมูลกันอย่างจริงใจถึงตัวเลขของผู้ที่ติดเชื้อในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องเน้นย้ำ คือการให้ความร่วมมือในการประสานเรื่องข้อมูล ให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีในการผลิตวัคซีนที่จะใช้ป้องกันโรค รวมถึงการแจกจ่ายยาที่จะใช้ต้านไวรัส ให้กับประเทศที่ยังขาดอยู่ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคได้ผล