นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ว่างงานตามโครงการเรนโบว์โปรเจกต์ ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินโครงการนี้ มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านช่องทาง 7 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจแฟรนไชส์ ธุรกิจขายตรง ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจการตลาดแบบตรง ธุรกิจสีเขียว ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีกสมัยใหม่ และแหล่งการค้าแห่งใหม่
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ดำเนินโครงการนี้มาระยะหนึ่ง มีประชาชนจำนวนมากได้โทรศัพท์สอบถามมายังสายด่วนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 1570 และได้มาติดต่อสอบถามด้วยตนเอง รวมทั้งสอบถามรายละเอียดจากการเข้าร่วมงานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่ามีผู้รับรู้ข้อมูลประมาณ 150,000 คน สนใจสอบถามในรายละเอียดประมาณ 7,500 ราย และแจ้งความจำนงประสงค์จะทำธุรกิจประมาณ 5,600 ราย
นอกจากนี้ ยังมีการสอบถามข้อมูลกับผู้ประกอบธุรกิจโดยตรงด้วย ปรากฏว่า ธุรกิจแฟรนไชส์มีผู้สนใจจำนวน 8,650 ราย ในจำนวนนี้ตกลงดำเนินธุรกิจแล้วเกือบ 1,000 ราย คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณกว่า 21 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนเหล่านี้จะสร้างรายได้ให้กับเจ้าของธุรกิจ คาดว่าขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 3-5 เท่าตัว นั่นคือประมาณ 60-100 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นแฟรนไชส์ประเภทอาหาร เช่น ก๋วยเตี๋ยว ไก่ทอด เครื่องดื่ม สำหรับธุรกิจขายตรง มีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกหรือผู้แทนจำหน่ายอิสระเพิ่มขึ้น 27,381 ราย ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากลงทุนน้อย ธุรกิจการตลาดแบบตรง มีผู้สมัครเป็นพนักงานขายทางโทรศัพท์ ผ่านทางสมาคมนักการตลาดแบบไทย จำนวน 220 ราย ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้มีการจัดอบรมหลักสูตรการทำธุรกิจ E-commerce แบบครบวงจร ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมกว่า 40 ราย และ ธุรกิจสีเขียว หรือธุรกิจรีไซเคิล ก็มีผู้สนใจจะทำธุรกิจกว่า 2,000 คน ซึ่งได้จัดอบรมให้กับผู้ที่จะทำธุรกิจประมาณ 500 ราย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ดำเนินโครงการนี้มาระยะหนึ่ง มีประชาชนจำนวนมากได้โทรศัพท์สอบถามมายังสายด่วนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 1570 และได้มาติดต่อสอบถามด้วยตนเอง รวมทั้งสอบถามรายละเอียดจากการเข้าร่วมงานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่ามีผู้รับรู้ข้อมูลประมาณ 150,000 คน สนใจสอบถามในรายละเอียดประมาณ 7,500 ราย และแจ้งความจำนงประสงค์จะทำธุรกิจประมาณ 5,600 ราย
นอกจากนี้ ยังมีการสอบถามข้อมูลกับผู้ประกอบธุรกิจโดยตรงด้วย ปรากฏว่า ธุรกิจแฟรนไชส์มีผู้สนใจจำนวน 8,650 ราย ในจำนวนนี้ตกลงดำเนินธุรกิจแล้วเกือบ 1,000 ราย คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณกว่า 21 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนเหล่านี้จะสร้างรายได้ให้กับเจ้าของธุรกิจ คาดว่าขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 3-5 เท่าตัว นั่นคือประมาณ 60-100 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นแฟรนไชส์ประเภทอาหาร เช่น ก๋วยเตี๋ยว ไก่ทอด เครื่องดื่ม สำหรับธุรกิจขายตรง มีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกหรือผู้แทนจำหน่ายอิสระเพิ่มขึ้น 27,381 ราย ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากลงทุนน้อย ธุรกิจการตลาดแบบตรง มีผู้สมัครเป็นพนักงานขายทางโทรศัพท์ ผ่านทางสมาคมนักการตลาดแบบไทย จำนวน 220 ราย ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้มีการจัดอบรมหลักสูตรการทำธุรกิจ E-commerce แบบครบวงจร ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมกว่า 40 ราย และ ธุรกิจสีเขียว หรือธุรกิจรีไซเคิล ก็มีผู้สนใจจะทำธุรกิจกว่า 2,000 คน ซึ่งได้จัดอบรมให้กับผู้ที่จะทำธุรกิจประมาณ 500 ราย
