xs
xsm
sm
md
lg

"รักษ์เมืองไทย"แนะทุกฝ่ายถอยคนละก้าว ถือคติแพ้เป็นพระชนะเป็นมาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกลุ่มรักษ์เมืองไทย กล่าวภายหลังการหารือรวมกับสมาชิกของกลุ่ม ซึ่งเป็นบุคคลผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจว่า ปัญหาการเมืองที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในขณะนี้ขอให้ทุกฝ่ายถอยกันคนละก้าว โดยถือคติว่าแพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร หากใครพยายามเอาชนะ แม้ดูเหมือนชนะ แต่จะเป็นมารในใจของประชาชน แต่หากใครแพ้เพราะยอมถอย ก็จะเป็นเหมือนคนชนะในใจของประชาชน ส่วนการพยายามพาดพิงสถาบันพระมหากษัตรย์ มองว่าสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ คนที่รักสถาบันไม่ควรพูดถึง ไม่ควรดึงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ส่วนการหารือของกลุ่มวันนี้ (7 เม.ย.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า เน้นหารือประเด็นด้านเศรษฐกิจ โดยเห็นว่าฐานะทางการคลังของประเทศยังแข็งแรงรองรับการขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 จำนวน 390,000 ล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งสิ้นปีงบประมาณ 2553 คาดว่าหนี้สาธารณะของประเทศจะอยู่ที่ร้อยละ 47-48 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) หากจัดทำงบประมาณขาดดุลดังกล่าว ตราบใดที่ภาระหนี้ยังไม่เกินร้อยละ 50 ถือว่ายังกู้เพิ่มเติมได้ แต่เป็นห่วงว่า งบประมาณปี 2553 วงเงินที่จัดสรรตามนโยบายของรัฐบาล 394,514 ล้านบาท แต่นำไปใช้ในส่วนที่ก่อให้เกิดการจ้างงานเพียง 45,000 ล้านบาท ในการพัฒนาระบบขนส่งและงบบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ถือว่าใช้ในการสร้างงานน้อย เพราะมีการจัดสรรงบรายจ่ายลงทุนมีสัดส่วนลดลงเหลือร้อยละ 20 จากงบประมาณปี 2552 อยู่ที่ร้อยละ 22 ขณะที่งบรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 72.3 เป็นร้อยละ 76.7 ของงบประมาณทั้งหมด
ทั้งนี้ กลุ่มรักษ์เมืองไทย มีข้อเสนอให้ลดงบรายจ่ายประจำที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะงบประมาณด้านบุคลากร เพราะในปีงบประมาณ 2553 ตั้งงบเพิ่มขึ้นไว้ถึง 49,060 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.1 ซึ่งหากในปีที่มีอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 3-4 การเพิ่มเงินเดือนร้อยละ 7 ถือว่าเหมาะสม แต่ภาวะอัตราเงินเฟ้อเกือบร้อยละ 0 การปรับเพิ่มเงินเดือนและงบรายจ่ายประจำดังกล่าว จะสูงกว่าภาคเอกชนและภาคอื่นๆ ที่ยังมีปัญหา ดังนั้นควรขี้นเงินเดือนเพียงร้อยละ 4 ก็ยังจะช่วยให้รายได้ที่แท้จริงเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 3 ทำให้มีงบประมาณนำไปใช้สร้างงานได้อีกถึง 21,420 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น