xs
xsm
sm
md
lg

“อุ๋ย” แนะแบงก์นำเงินฝากในระบบ 9.8 ล้านล.แบกรับความเสี่ยงในตลาดหุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปรีดิยาธร เทวกุล
“อุ๋ย” แนะแบงก์นำเงินฝากในระบบ 9.8 ล้านล้านบาท ตั้งกองทุนเข้าช้อนซื้อหุ้น เพื่อพยุงภาวะตลาด-ลดความผันผวนจากการเทขายของนักลงทุนต่างชาติ พร้อมหนุนการพึ่งพาตัวเองในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุน

วันนี้ (29 ต.ค.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการปาฐกถาเรื่องความเสี่ยงจากวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา โดยมองว่า จะมีผลกระทบโดยตรงต่อเม็ดเงินไหลออกของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งมีการถอนเงินออกไปจำนวนมาก ซึ่งเม็ดเงินดังกล่าวจะยังไม่ไหลกลับ เข้ามาลงทุนในประเทศไทยในระยะเวลาอันใกล้นี้

“คนไทยมีเงินออมจากการฝากเงินมาก ทำให้ไม่ยากที่จะทำ และกระจายไปยังนักลงทุนทั่วประเทศได้ เพราะว่าหากไม่ช่วยกันก็จะไม่ทำให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ เพราะปัจจุบันต่างชาติเทขายอย่างต่อเนื่อง และคงจะเห็นการขายต่อไปเรื่อยๆ”

ฉะนั้น เพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีเสถียรภาพ พ้นจากการครอบงำของนักลงทุนต่างชาติ รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ กระตุ้นการลงทุนในตลาด ด้วยนักลงทุนไทย ป้องกันความผันผวนของตลาด จากการไหลเข้า-ออก ของเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ในอนาคต

นอกจากนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังกล่าวอีกว่า การระดมทุนในตลาด อาจใช้ในรูปแบบของการจัดตั้งกองทุนโดยการนำเงินฝาก ที่มีอยู่ในระบบขณะนี้กว่า 9.8 ล้านล้านบาท มาใช้ประโยชน์ ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้บริหารสถาบันการเงิน ควรไปศึกษาร่วมกัน

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ระบุว่า ไทยมีทุนสำรองมาก 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากกรณีต่างชาติขายสุทธิหุ้นที่ถืออยู่หมดทั้งก้อน ก็ยังเหลือเม็ดเงินช่วยประเทศที่จะรองรับฟื้นตัวได้ แต่การที่ฟื้นตัวได้ช้า เป็นโอกาสในการกระตุ้นการลงทุนของคนในประเทศ อยู่ที่ว่าจะลำเลียงเงินทุนจากที่ไหนมามากพอ สิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้ คือ การดึงเม็ดเงินจากเงินฝากในประเทศที่มีอยู่จำนวนมากเข้ามาลงทุน

สำหรับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ต่อภาคธุรกิจเรียลเซกเตอร์ เชื่อว่า จะส่งผลทำให้โอกาสในการส่งออกสินค้าไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศทำได้น้อยมาก และประเมินว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป จะยังไม่ฟื้นจนถึงช่วงปลายปีหน้า ผู้ส่งออกจะต้องพึ่งพาตนเอง ลดความเสี่ยงจากตลาดการส่งออกที่ชะลอตัว

ทั้งนี้ หากต้องการให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ (จีดีพี) ยังขยายตัวได้อยู่ในระดับ 3-5% ก็จะต้องพึ่งพาการบริโภค และการลงทุนในประเทศ ให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังกล่าวอีกว่า วิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐ ซึ่งกลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจโลก การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในขณะนี้ ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้ จากเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายก่อนหน้านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น