คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โดยนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โดย พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีดีเอสไอร่วมกันตรวจสอบเอกสารสำนวนการบริจาคเงินสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ที่ก่อนหน้านี้มีการระบุว่า จำนวนแฟ้มที่แสดงอยู่หน้ากล่องไม่ตรงกับจำนวนแฟ้มที่อยู่ภายใน โดยมีแฟ้มหายไป 1 แฟ้ม โดย กกต.ขอให้ดีเอสไอยืนยันความถูกต้องของแฟ้มเอกสารทั้ง 2 กล่อง และหนังสือที่ส่งถึงนายทะเบียนพรรคการเมืองที่ระบุว่ามีจำนวน 8 แฟ้ม ซึ่งเอกสารปะหน้าบนกล่องที่ 1 ระบุว่าเป็นแฟ้นที่ 1-3 กล่องที่ 2 ระบุว่าเป็นแฟ้มที่ 4-7 ซึ่งดีเอสไอยืนยันว่าถูกต้อง พร้อมชี้แจงว่า แฟ้มเอกสารมีจำนวน 8 แฟ้มจริง แต่ลำดับแฟ้มมีเพียง 7 แฟ้ม เนื่องจากแฟ้มที่ 2 ที่เป็นคำให้การของพยานมีจำนวน 2 แฟ้มคือแฟ้มที่ 2 และ 2/1 ทั้งนี้ การเพิ่มแฟ้มที่ 2/1 เนื่องจากมีการสอบพยานเพิ่ม จึงต้องเพิ่มแฟ้ม ดังนั้น เมื่อเปิดกล่องเอกสารแล้วพบว่าแฟ้มเอกสารอยู่ครบ โดยในกล่องที่ 1 มีแฟ้มที่ 1 2 2/1และ 3 ส่วนกล่องที่ 2 มีแฟ้มที่ 4-7
พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า สำนวนดังกล่าวได้มีผู้ร้องเรียนดีเอสไอเพื่อขอให้ตรวจสอบว่า พบพฤติกรรมที่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ แต่เมื่อดีเอสไอตรวจสอบสำนวนได้ 70 เปอร์เซ็นต์ พบว่า มีบางส่วนอาจจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง ดีเอสไอยังไม่ได้สรุปผลการสอบสวนและส่งเรื่องให้ กกต.พิจารณาต่อ อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะกลับไปสรุปผลการสอบสวนและแจ้งผลให้ กกต.ทราบวันศุกร์ที่ 27 มีนาคมนี้ เรื่องนี้ถือเป็นความร่วมมือของสองหน่วยงาน สำหรับการดำเนินคดีทางอาญาเป็นหน้าที่ดีเอสไอต้องดำเนินการอยู่แล้ว ดีเอสไอพร้อมให้ความร่วมมือ หาก กกต.ต้องการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องประสานเรื่องข้อมูลและพยานหลักฐาน
รองอธิบดีดีเอสไอ ยอมรับว่าข้อมูลที่ส่งให้ กกต.มีส่วนหนึ่งที่ตรงกับเนื้อหาการอภิปรายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแต่การที่ดีเอสไอส่งข้อมูลให้ กกต.ก่อนการอภิปราย 1 วัน ไม่ได้มีนัยทางการเมือง จะเห็นได้ว่า การส่งข้อมูลดังกล่าวนี้ ดีเอสไอปิดเป็นความลับมาตลอด เพราะทราบว่าหากเปิดเผยอาจมีผลทางการเมือง
พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า สำนวนดังกล่าวได้มีผู้ร้องเรียนดีเอสไอเพื่อขอให้ตรวจสอบว่า พบพฤติกรรมที่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ แต่เมื่อดีเอสไอตรวจสอบสำนวนได้ 70 เปอร์เซ็นต์ พบว่า มีบางส่วนอาจจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง ดีเอสไอยังไม่ได้สรุปผลการสอบสวนและส่งเรื่องให้ กกต.พิจารณาต่อ อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะกลับไปสรุปผลการสอบสวนและแจ้งผลให้ กกต.ทราบวันศุกร์ที่ 27 มีนาคมนี้ เรื่องนี้ถือเป็นความร่วมมือของสองหน่วยงาน สำหรับการดำเนินคดีทางอาญาเป็นหน้าที่ดีเอสไอต้องดำเนินการอยู่แล้ว ดีเอสไอพร้อมให้ความร่วมมือ หาก กกต.ต้องการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องประสานเรื่องข้อมูลและพยานหลักฐาน
รองอธิบดีดีเอสไอ ยอมรับว่าข้อมูลที่ส่งให้ กกต.มีส่วนหนึ่งที่ตรงกับเนื้อหาการอภิปรายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแต่การที่ดีเอสไอส่งข้อมูลให้ กกต.ก่อนการอภิปราย 1 วัน ไม่ได้มีนัยทางการเมือง จะเห็นได้ว่า การส่งข้อมูลดังกล่าวนี้ ดีเอสไอปิดเป็นความลับมาตลอด เพราะทราบว่าหากเปิดเผยอาจมีผลทางการเมือง