นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่า สหภาพยุโรป หรือ อียู อยู่ระหว่างการเตรียมจัดทำร่างระเบียบเพื่อออกมาตรการเสริม ในการควบคุมการตรวจสอบสินค้าผัก-ผลไม้สด นำเข้า โดยจะตรวจเข้มทันทีร้อยละ 50 ณ ด่านนำเข้า จากเดิมตรวจเพียงร้อยละ 10 ของปริมาณการนำเข้า และสัดส่วนการตรวจสอบอาจมีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นได้ ตามผลการตรวจสอบที่พบ ซึ่งจะทบทวนทุก 3 เดือน คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ปลายปี 2552 สำหรับสินค้าผักของไทยที่จะถูกตรวจสอบยาฆ่าแมลงตกค้างอย่างเข้มงวดเพิ่มขึ้น ขณะนี้มี 3 รายการ ได้แก่ ถั่วฝักยาว มะเขือ และกะหล่ำปลี
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวอีกว่า การนำเข้าสินค้าผักสด หรือแช่เย็น แช่แข็งจากไทย ส่วนใหญ่นำเข้าเพื่อบริโภคของชุมชนคนเอเชียในยุโรปเป็นหลัก การที่ไทยจะรักษาตลาดยุโรปไว้ได้ จำเป็นต้องดำเนินการตามระเบียบความปลอดภัยด้านอาหารที่เข้มงวดของ อียู ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรเร่งปรับปรุงมาตรฐานสินค้า และระมัดระวังในการใช้ยาฆ่าแมลงให้มากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการส่งสินค้าผัก-ผลไม้ของไทยโดยรวม
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวอีกว่า การนำเข้าสินค้าผักสด หรือแช่เย็น แช่แข็งจากไทย ส่วนใหญ่นำเข้าเพื่อบริโภคของชุมชนคนเอเชียในยุโรปเป็นหลัก การที่ไทยจะรักษาตลาดยุโรปไว้ได้ จำเป็นต้องดำเนินการตามระเบียบความปลอดภัยด้านอาหารที่เข้มงวดของ อียู ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรเร่งปรับปรุงมาตรฐานสินค้า และระมัดระวังในการใช้ยาฆ่าแมลงให้มากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการส่งสินค้าผัก-ผลไม้ของไทยโดยรวม