น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบเกี่ยวกับการคัดเลือกให้ธนาคารกรุงเทพเป็นผู้จัดพิมพ์ และจ่ายเช็กช่วยชาติให้กับประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท เนื่องจากเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด 2 บาทต่อเช็ก 1 ใบ โดยจะให้บริการทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประกันตน และข้าราชการทุกประเภท รวมทั้งหมด 9.7 ล้านใบ
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางจะทำหนังสือถึงสมาคมธนาคารไทยให้ธนาคารทุกแห่งงดคิดค่าธรรมเนียมการนำเช็กไปขึ้นเงินสด ก็ถือว่าเป็นโครงการพิเศษของรัฐบาล
โดยในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.) จะเรียกประชุมกลุ่มราชการ 300 แห่ง เพื่อชี้แจงข้อมูลและให้เร่งส่งข้อมูลให้กับธนาคารกรุงเทพภายในวันที่ 12 มีนาคม เพื่อเริ่มจัดพิมพ์เช็ก และส่งเช็กให้กับประชาชนล็อตแรกวันที่ 26 มีนาคมนี้ ส่วนการจะนำเช็กไปใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ จะมีการจัดทำคู่มือการใช้เช็ก เพราะการนำไปใช้ซื้อสินค้าของภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการตามที่ระบุไว้ จะทำให้เช็กมีมูลค่ามากกว่า 2,000 บาท แต่ถ้าหากเบิกเป็นเงินสด เพื่อใช้ตามที่ต้องการ จะมีราคาเพียง 2,000 บาท ตามมูลค่าเช็ก และจะมีการจัดพิมพ์เช็กให้มีรูปแบบพิเศษ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง ทั้งเป็นแบบตัวนูน โดยใช้เทคนิคการพิมพ์คล้ายธนบัตรที่ใช้ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางจะทำหนังสือถึงสมาคมธนาคารไทยให้ธนาคารทุกแห่งงดคิดค่าธรรมเนียมการนำเช็กไปขึ้นเงินสด ก็ถือว่าเป็นโครงการพิเศษของรัฐบาล
โดยในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.) จะเรียกประชุมกลุ่มราชการ 300 แห่ง เพื่อชี้แจงข้อมูลและให้เร่งส่งข้อมูลให้กับธนาคารกรุงเทพภายในวันที่ 12 มีนาคม เพื่อเริ่มจัดพิมพ์เช็ก และส่งเช็กให้กับประชาชนล็อตแรกวันที่ 26 มีนาคมนี้ ส่วนการจะนำเช็กไปใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ จะมีการจัดทำคู่มือการใช้เช็ก เพราะการนำไปใช้ซื้อสินค้าของภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการตามที่ระบุไว้ จะทำให้เช็กมีมูลค่ามากกว่า 2,000 บาท แต่ถ้าหากเบิกเป็นเงินสด เพื่อใช้ตามที่ต้องการ จะมีราคาเพียง 2,000 บาท ตามมูลค่าเช็ก และจะมีการจัดพิมพ์เช็กให้มีรูปแบบพิเศษ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง ทั้งเป็นแบบตัวนูน โดยใช้เทคนิคการพิมพ์คล้ายธนบัตรที่ใช้ในปัจจุบัน