สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันนี้ (5 มี.ค.) ว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ อนุมัติแผนการที่จะใช้เงิน 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บรรเทาปัญหาของประชาชนที่บ้านกำลังจะถูกยึด ซึ่งล่าสุดมีตัวเลขระบุว่า เจ้าของบ้านประมาณ 20% ในสหรัฐฯ เป็นหนี้จากการจำนองมากกว่ามูลค่าบ้าน แผนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการกระตุ้นการเคหะมูลค่า 275,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งจะช่วยเจ้าของบ้านสามารถปรับโครงสร้างหนี้ ให้สามารถผ่อนชำระต่อไปได้
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า เมื่อสิ้นปีที่แล้วมีบ้านที่จำนองไว้ประมาณ 8.3 ล้านหลัง เจ้าของไม่สามารถหาเงินมาผ่อนชำระต่อไปได้ และคาดว่าจะยิ่งมีเพิ่มขึ้น หากมูลค่าบ้านลดลงไปอีก
สำหรับแผนการล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ มีเป้าหมายผ่อนคลายภาระให้กับเจ้าของบ้านที่มีความต้องการเงินเร่งด่วน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ หรือเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้บ้าน สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญาจำนอง อีกทั้งเป็นการเสนอเงินสดเพื่อจูงใจธนาคาร หรือบริษัทสินเชื่อที่อยู่อาศัย ให้ช่วยประชาชนลดการผ่อนชำระรายเดือนลงมา แผนการนี้จำกัดเฉพาะกรณีบ้านเดี่ยว ที่มีมูลค่าไม่เกิน 730,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า เมื่อสิ้นปีที่แล้วมีบ้านที่จำนองไว้ประมาณ 8.3 ล้านหลัง เจ้าของไม่สามารถหาเงินมาผ่อนชำระต่อไปได้ และคาดว่าจะยิ่งมีเพิ่มขึ้น หากมูลค่าบ้านลดลงไปอีก
สำหรับแผนการล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ มีเป้าหมายผ่อนคลายภาระให้กับเจ้าของบ้านที่มีความต้องการเงินเร่งด่วน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ หรือเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้บ้าน สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญาจำนอง อีกทั้งเป็นการเสนอเงินสดเพื่อจูงใจธนาคาร หรือบริษัทสินเชื่อที่อยู่อาศัย ให้ช่วยประชาชนลดการผ่อนชำระรายเดือนลงมา แผนการนี้จำกัดเฉพาะกรณีบ้านเดี่ยว ที่มีมูลค่าไม่เกิน 730,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ