นายบุญส่ง เกิดกลาง รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ร่วมกับสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าโครงการศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเอทานอล การผสมและการขนส่งแก๊สโซฮอล์ เพื่อพัฒนาระบบจัดเก็บ ผสม ขนส่ง จำหน่ายเอทานอลให้มีคุณภาพมากขึ้น และเชื่อมโยงธุรกิจเอทานอลและแก๊สโซฮอล์ทั้งระบบ รองรับการขยายตัวของการใช้เอทานอลในปี 2565 ที่ไทยจะนำมาผสมในน้ำมันเบนซินประมาณ 9 ล้านลิตรต่อวัน เนื่องจากปัจจุบันระบบการขนส่งเอทานอลทั้งหมดของไทยเป็นการขนส่งทางรถบรรทุก ทำให้ต้นทุนการขนส่งสูง และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ที่สำคัญคือยังไม่มีโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งเอทานอลเป็นสินค้าส่งออกอย่างจริงจัง ประกอบกับโรงงานเอทานอลห่างไกลท่าเรือส่งออก เพราะส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ ส่งผลให้ความสามารถการแข่งขันด้านราคาในตลาดต่างประเทศต่ำ เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศที่เป็นศูนย์กลางการส่งออกเอทานอลในภูมิภาคเอเชีย
ด้านนายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า การปรับปรุงและมองหาเส้นทางการขนส่งเอทานอลใหม่ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อร่นระยะทางขนส่งให้น้อยลง และขนส่งได้ปริมาณมากขึ้น อย่างการพิจารณาความคุ้มค่าของการขนส่งทางรถไฟและทางเรือ ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และเพิ่มจุดผสมแก๊สโซฮอล์ รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานร่วม อย่างคลังกลาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเอทานอล และการใช้ในประเทศ และการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เกี่ยวกับการบริหารจัดการกลไกราคาตลาด
ด้านนายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า การปรับปรุงและมองหาเส้นทางการขนส่งเอทานอลใหม่ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อร่นระยะทางขนส่งให้น้อยลง และขนส่งได้ปริมาณมากขึ้น อย่างการพิจารณาความคุ้มค่าของการขนส่งทางรถไฟและทางเรือ ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และเพิ่มจุดผสมแก๊สโซฮอล์ รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานร่วม อย่างคลังกลาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเอทานอล และการใช้ในประเทศ และการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เกี่ยวกับการบริหารจัดการกลไกราคาตลาด
