นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า มาตรการภาษีช่วยภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล จะส่งผลด้านจิตวิทยาให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และจะก่อให้เกิดการจ้างงาน เนื่องจากจะทำให้สต๊อกบ้านที่ค้างอยู่ประมาณ 20,000 ยูนิต หมดไปและต้องก่อสร้างใหม่ ซึ่งจะเห็นผลเป็นรูปธรรมต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายในไตรมาสที่ 2 คาดว่า ยอดจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเท่ากับปีที่แล้วประมาณ 70,000 ยูนิต จากที่เคยคาดว่าจะลดลง
อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์จะไม่ส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่ เนื่องจากสถาบันการเงินยังเข้มงวดในการปล่อยกู้อยู่แล้ว เพราะเศรษฐกิจมีความเสี่ยง
สำหรับยอดการจองซื้ออาคารชุด หรือคอนโดมิเนียม จะลดลงประมาณ 10-20% เนื่องจากน้ำมันราคาถูก ทำให้ประชาชนหันมาเลือกซื้อบ้านเดี่ยวนอกเมืองแทน
ขณะที่นายประสงค์ เอาฬาร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เป็นห่วงว่า แม้มีมาตรการกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถขายบ้านที่เหลือได้ ซึ่งส่วนใหญ่ 80-90 ของบ้านที่ค้างสต๊อก เป็นบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท แต่หากธนาคารพาณิชย์ไม่ยอมปล่อยกู้เหมือน 2-3 เดือนที่ผ่านมา มาตรการที่ออกมาก็ไม่เห็นผล
อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์จะไม่ส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่ เนื่องจากสถาบันการเงินยังเข้มงวดในการปล่อยกู้อยู่แล้ว เพราะเศรษฐกิจมีความเสี่ยง
สำหรับยอดการจองซื้ออาคารชุด หรือคอนโดมิเนียม จะลดลงประมาณ 10-20% เนื่องจากน้ำมันราคาถูก ทำให้ประชาชนหันมาเลือกซื้อบ้านเดี่ยวนอกเมืองแทน
ขณะที่นายประสงค์ เอาฬาร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เป็นห่วงว่า แม้มีมาตรการกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถขายบ้านที่เหลือได้ ซึ่งส่วนใหญ่ 80-90 ของบ้านที่ค้างสต๊อก เป็นบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท แต่หากธนาคารพาณิชย์ไม่ยอมปล่อยกู้เหมือน 2-3 เดือนที่ผ่านมา มาตรการที่ออกมาก็ไม่เห็นผล
