นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่อดีตคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง เดินทางไปร่วมเปิดตัวพรรคภูมิใจไทยเมื่อวานนี้ ว่า ต้องดูเจตนาของผู้ไปร่วมงานว่าไปในฐานะแขกที่ได้รับเชิญหรือไปร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ระบุว่า ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ นอกจากไม่มีสิทธิทางการเลือกตั้งแล้ว ยังไม่สามารถจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ได้ แต่ไม่ได้บัญญัติในเรื่องของผู้ที่สนับสนุนการจัดตั้งพรรคการเมืองไว้ ซึ่งเรื่องนี้ กกต. คงไม่ไปเตือน แต่เป็นเรื่องที่ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิ จะรู้หน้าที่และสิทธิของตนเอง เพราะการเดินทางไปร่วมเปิดตัวพรรคนั้น กกต.คงไม่สามารถประเมินว่าเป็นการไปร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองได้
ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยนั้น นางสดศรี กล่าวว่า ตามกฎหมายไม่สามารถย้ายได้ หากสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว นอกจากจะมีการยุบสภาเท่านั้น
นางสดศรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางพรรคฝ่ายค้านยังไม่เลือกบุคคลมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 110 ระบุไว้ชัดเจน เพื่อให้ครบถ้วนตามขบวนการรัฐสภา ซึ่งหากไม่ดำเนินการ เกรงว่าจะมีปัญหาการทำงานในสภาโดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ไม่สามารถทำได้
ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยนั้น นางสดศรี กล่าวว่า ตามกฎหมายไม่สามารถย้ายได้ หากสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว นอกจากจะมีการยุบสภาเท่านั้น
นางสดศรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางพรรคฝ่ายค้านยังไม่เลือกบุคคลมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 110 ระบุไว้ชัดเจน เพื่อให้ครบถ้วนตามขบวนการรัฐสภา ซึ่งหากไม่ดำเนินการ เกรงว่าจะมีปัญหาการทำงานในสภาโดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ไม่สามารถทำได้