นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กลุ่มเพื่อนนเวินกล่าวถึงกระแสข่าวรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคภูมิไทยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ถ้าตนไม่รับตำแหน่งก็จะมีการพิจารณาผู้อื่นที่มีความเหมาะสม อย่างไรก็ตามโควต้าของหัวหน้าพรรคไม่ใช่ของกลุ่มเพื่อนเนวินกลุ่มเดียว เพราะพรรคภูมิใจไทยต้องพิจาณา ผู้ที่เหมาะสมเป็นหลักมากกว่า
ผมทำงานการเมืองมา 10 กว่าปี มีความผูกพันธ์กับการเมืองพอสมควร ถึงตอนนี้เกษียณทางธุรกิจแล้ว ก็อยากเอาเวลาที่เหลือมาช่วยประเทศชาติ แต่ทางครอบครัวอยากให้พักผ่อนมากกว่าเพราะอายุมากแล้ว
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินกล่าวเสริมว่า เรานัดหมายกับส.ส.ในกลุ่มว่า หลังการเลือกตั้งซ่อมวันที่ 11 ม.ค. จะมีการหารือกันอย่างชัดเจนว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองใด ซึ่งขณะนี้ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวิน มีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายหนึ่งอยากไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ และอีกฝ่ายหนึ่ง อยากไปสังกัดพรรคการเมืองที่อยู่ในรัฐบาลแล้ว
ไม่เกินวันที่ 14 ม.ค.จะมีการแถลงทิศทางอย่างชัดเจนแน่นอน ไมว่าเราไปอยู่ พรรคการเมืองใดก็ไม่ปิดกั้น แต่ถ้านักการเมืองคนใดประสงค์จะเข้ามาสังกัดร่วมกับเราถ้าอุดมการณ์ตรงกันเราก็น้อมรับ แต่ต้องดูข้อกฎหมายอีกครั้ง
แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคภูมิใจไทยเปิดเผย ถึงความคืบหน้ากรณีที่มีข่าวว่า กลุ่มเพื่อนเนวินจะเข้ามาร่วมงานในสังกัดพรรคภูมิใจไทยว่า ในขณะนี้ทุกอย่างลงตัวและพร้อมที่จะเปิดตัวและแถลงข่าวในวันที่ 14 มกราคม 2552 ที่โรงแรมสยามซิตี้ ย่านถนนศรีอยุธยา โดยในขณะนี้สมาชิกของพรรคทุกจะสนับสนุน นายเชาวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่จะไม่ให้ ส.ส.ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร พรรค เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทั้งนี้ที่ตั้งของที่ทำการพรรคเดิมจาก ห้างสรรพสินค้าเสรีเซ็นเตอร์ จะเปลี่ยนเป็น อาคารศิริภิญโญ ย่านถนนศรีอยุธยา เนื่องจาก ส.ส.ทุกคนนั้นเห็นว่า การเดินทางสะดวกกว่าเดิม ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยจะมีส.ส.ทั้งสิ้น 39 คน ทำให้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีส.ส. มากเป็นอันดับ2
นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข หนึ่งในแกนนำพรรคภูมิใจไทย เปิดเผย กรณีที่พรรค จะผลักดัน นายเชาวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่า ส่วนตัวนั้นมองว่า นายเชาวรัตน์ มีความเหมาะสมในทุกๆ ด้านที่จะเป็นหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของความสามารถ และมีประสบการณ์หลายด้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ผลักดันนายเชาวรัตน์ เป็นเพราะจะมาเป็นนายทุนใช่ หรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เหตุผล การที่จะหาหัวหน้าพรรคซักคนนั้น ต้องเป็นคนที่มีความพร้อมในทุกด้านและมีความสามารถ และได้รับการยอมรับจากสังคมและสมาชิกในพรรค
ต่อข้อถามว่าจากเดิมที่มี ส.ส.เพียง7คน เมื่อมารวมกันจึงทำให้มี ส.ส.มากขึ้น จะทำให้การทำงานยากขึ้นหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า ตนนั้นมองว่า ส.ส. จำนวน 39 คน ตนว่ากำลังดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และการทำงานเมื่อได้มีการพูดคุยกัน เชื่อว่าการทำงานจะกระชับ และเดินหน้าไปได้
ผมทำงานการเมืองมา 10 กว่าปี มีความผูกพันธ์กับการเมืองพอสมควร ถึงตอนนี้เกษียณทางธุรกิจแล้ว ก็อยากเอาเวลาที่เหลือมาช่วยประเทศชาติ แต่ทางครอบครัวอยากให้พักผ่อนมากกว่าเพราะอายุมากแล้ว
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินกล่าวเสริมว่า เรานัดหมายกับส.ส.ในกลุ่มว่า หลังการเลือกตั้งซ่อมวันที่ 11 ม.ค. จะมีการหารือกันอย่างชัดเจนว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองใด ซึ่งขณะนี้ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวิน มีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายหนึ่งอยากไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ และอีกฝ่ายหนึ่ง อยากไปสังกัดพรรคการเมืองที่อยู่ในรัฐบาลแล้ว
ไม่เกินวันที่ 14 ม.ค.จะมีการแถลงทิศทางอย่างชัดเจนแน่นอน ไมว่าเราไปอยู่ พรรคการเมืองใดก็ไม่ปิดกั้น แต่ถ้านักการเมืองคนใดประสงค์จะเข้ามาสังกัดร่วมกับเราถ้าอุดมการณ์ตรงกันเราก็น้อมรับ แต่ต้องดูข้อกฎหมายอีกครั้ง
แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคภูมิใจไทยเปิดเผย ถึงความคืบหน้ากรณีที่มีข่าวว่า กลุ่มเพื่อนเนวินจะเข้ามาร่วมงานในสังกัดพรรคภูมิใจไทยว่า ในขณะนี้ทุกอย่างลงตัวและพร้อมที่จะเปิดตัวและแถลงข่าวในวันที่ 14 มกราคม 2552 ที่โรงแรมสยามซิตี้ ย่านถนนศรีอยุธยา โดยในขณะนี้สมาชิกของพรรคทุกจะสนับสนุน นายเชาวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่จะไม่ให้ ส.ส.ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร พรรค เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทั้งนี้ที่ตั้งของที่ทำการพรรคเดิมจาก ห้างสรรพสินค้าเสรีเซ็นเตอร์ จะเปลี่ยนเป็น อาคารศิริภิญโญ ย่านถนนศรีอยุธยา เนื่องจาก ส.ส.ทุกคนนั้นเห็นว่า การเดินทางสะดวกกว่าเดิม ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยจะมีส.ส.ทั้งสิ้น 39 คน ทำให้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีส.ส. มากเป็นอันดับ2
นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข หนึ่งในแกนนำพรรคภูมิใจไทย เปิดเผย กรณีที่พรรค จะผลักดัน นายเชาวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่า ส่วนตัวนั้นมองว่า นายเชาวรัตน์ มีความเหมาะสมในทุกๆ ด้านที่จะเป็นหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของความสามารถ และมีประสบการณ์หลายด้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ผลักดันนายเชาวรัตน์ เป็นเพราะจะมาเป็นนายทุนใช่ หรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เหตุผล การที่จะหาหัวหน้าพรรคซักคนนั้น ต้องเป็นคนที่มีความพร้อมในทุกด้านและมีความสามารถ และได้รับการยอมรับจากสังคมและสมาชิกในพรรค
ต่อข้อถามว่าจากเดิมที่มี ส.ส.เพียง7คน เมื่อมารวมกันจึงทำให้มี ส.ส.มากขึ้น จะทำให้การทำงานยากขึ้นหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า ตนนั้นมองว่า ส.ส. จำนวน 39 คน ตนว่ากำลังดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และการทำงานเมื่อได้มีการพูดคุยกัน เชื่อว่าการทำงานจะกระชับ และเดินหน้าไปได้
