xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ช่วงที่ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สโรชา- สวัสดีคะคุณผู้ชมและพ่อแม่พี่น้องนะคะ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อุ้ยตายแล้ววันนี้มีเสียงตอบรับตื่นเต้นจังเลย วันนี้ต้องขอกล่าวต้อนรับพันธมิตรฯ จากพัทยาได้มาชมในห้องส่งการถ่ายทอดสดในครั้งนี้ด้วยนะคะ พันธมิตรฯ จากพัทยาจากร้านเรือไม้พัทยาได้สนับสนุเอเอสทีวีด้วยนะคะ มอบมาเป็นเงินสด บอกว่าเอเอสทีวีขอให้เอเอสทีวีอยู่คู่คนไทยนะคะ 10,000 บาท ขอบพระคุณมากนะคะ นอกจากนี้แล้ว ทีมงานของเราได้ไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรมน้องติ๊กนะคะ ที่วัดมกุฏเมื่อค่ำวันนี้ ก็มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามมอบให้อเอสทีวี 3,000 บาทเช่นเดียวกัน ขอบพระคุณนะคะ
พ่อแม่พี่น้อง วันนี้รายการของเราเช่นเคย อาจจะมีการปรับรูปแบบเล็กน้อย เพราะว่า อย่างที่เรียนให้ทราบ เราอยากจะให้เหมาะสมที่สุด และถูกอกถูกใจพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ ที่สุด วันนี้เราจะปรับเปลี่ยนรูปแบบ ให้แกนนำได้ยืนปราศรัยคุยกับพี่น้องตรงๆ คุยกับกล้อง คุยผ่านกล้องไปยังพี่น้องพันธมิตรฯ ทางบ้าน คุยกันตรงๆ คุยกันชัดๆ นอกจากนี้ รับเกียรติจาก พี่ไม้ ศิริชัย ไม้งาม ตามด้วย คุณชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย และจะมีการพักชมดนตรีกัน หลังจากเจอพี่ไม้แล้ว เจอพี่ชัชแล้ว จะมาพบกับดนตรี วันนี้ ดนตรีที่ชื่อว่า พล โชค จำได้ไหมคะ ที่เป่าแซกโซโฟนเพราะๆ แล้วก็มีการเล่นกีต้าร์เพราะๆ ด้วย หลังจากนั้นเราจะมานั่งคุยกันในเรื่องของการสนทนา วันนี้หัวข้อ "จับขั้วการเมือง" แขกพิเศษค่ะ ส.ว.เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ที่มีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในการเมืองช่วงนี้ รวมไปถึงพี่ชายของเรา คุณวีระ สมความคิด จะมานั่งสนทนาในห้องส่ง วันนี้ แต่ว่าก่อนอื่นเรียนให้พ่อแม่พี่น้องได้ทราบกัน ถึงบรรยากาศการสวดอภิธรรม น้องติ๊ก

3

สโรชา- มีการเล่นกีต้าร์เพราะๆ ด้วย หลังจากนั้นเราจะมานั่งคุยกันในเรื่องของการสนทนา วันนี้หัวข้อจับขั้วการเมือง แขกพิเศษคะ ส.ว.เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหาที่มีบทบาทเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงการเมืองช่วงนี้ รวมไปถึงพี่ชายของเราคุณวีระ สมความคิด ก็จะมานั่งร่วมสนทนาในห้องส่งวันนี้ด้วยคะ แต่ว่าก่อนอื่นเลยคะ เรียนให้พ่อแม่พี่น้องได้ทราบกันถึงบรรยากาศการสวดอภิธรรมน้องติ๊กนะคะ หรือว่าน้องศศิธร เชยโสภณ วันนี้อเอสทีวีเป็นเจ้าภาพในการสวดอภิธรรมนะคะ วันนี้เราคงอาจจะยังไม่นำภาพ อาจจะยังไม่สามารถนำภาพมาให้พ่อแม่พี่น้องได้ชมกัน เดี๋ยวโอกาสหน้าจะนำมาให้นะคะ แต่ว่าวันนี้ก็มีการสวดอภิธรรมที่ศาลา 8 วัดมกุฏนะคะ ก็ได้ทราบถึงเรื่องราวของน้องติ๊ก คุณติ๊กอายุ 32 ปีนะคะ เป็นการการ์ดอาสาของเราร่วมชุมนุมกันมา ร่วมเคลื่อนไหวกันมาตั้งแต่ปี 2549 และก็อยู่ด้วยกันมาด้วยกันตลอดเลย และก็มีการเคลื่อนไหวด้วยกันตลอด อันนี้เป็นภาพวันนี้แล้วนะคะ เมื่อเย็นวันนี้ทางอเอสทีวีเป็นเจ้าภาพ และก็มีแกนนำพันธมิตรฯ ไปร่วมงานกันนะคะ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง คุณพิภพ ธงไชยนะคะ รวมไปถึงตัวแทนของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล คือคุณจันทร์ทิพย์ และคุณจินตนาถ ลิ้มทองกุลนะคะ ก็ไปร่วมพร้อมกับพ่อแม่พี่น้องอีกจำนวนมากทีเดียวคะ ที่ไปร่วมสวดอภิธรรม ในวันนี้ก็ได้ทราบนะคะว่า น้องติ๊กนั้นได้เป็นการ์ดอาสา และนอกจากจะเป็นการ์ดอาสาแล้ว หลังจากที่เราเลิกชุมนุม น้องติ๊กได้อาสาที่จะช่วยขนข้าวขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล และในระหว่างการขนข้าวขนของนั้นเอง ที่ประสบอุบัติเหตุพลัดตกจากรถ ทำให้คุณหมอบอกว่า ได้ทำให้กล้ามสมองแตก และเลือดคั่งในสมอง และก็ในที่สุดก็เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมานะคะ การสวดอภิธรรมนั้นจะมีถึงวันที่ 11 ธันวาคมนี้ และก็จะมีการทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 14 วันอาทิตย์ที่ 14 ในเวลา 14.00 น.คะ นอกจากนี้แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เราจะต้องอำลาวีรชนของเราอีกท่านหนึ่งนะคะ คุณชัย หรือคุณรณชัย ชัยศรี วันนี้มีพิธีฌาปนกิจศพนะคะ ที่ จ.สงขลา พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ ก็ไปกันอย่างคับคั่งทีเดียวนะคะ และแกนนำของเราก็ไปอีกหลายต่อหลายท่านเช่นเดียวกัน อ่านแล้วรู้สึกว่ามีบางช่วงบางตอนที่อยากจะมาเล่าให้พ่อแม่พี่น้องได้ฟังกัน คุณรณชัยนะคะ ที่ทราบกันดีว่ากำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ ทราบไหมคะว่าคุณรณชัยหารายได้พิเศษศส่งตัวเองเรียนปริญญาเอกอย่างไร เนื่องจากว่ามีความถนัดทางด้านคอมพิวเตอร์ ก็รับจ้างพิมพ์งานด้วยตนเอง เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่ให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้แล้ว คุณบุญสม คุณแม่ของคุณชัย เล่าให้ฟังว่า มีหลายครั้ง หลายหนที่ทางบ้าน รวมไปถึงพี่ชายและคุณแม่ขอร้องไม่ให้คุณชัยเดินทางมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ เนื่องจากกลัวจะเป็นอันตราย แต่คุณชัยก็ตอบคุณแม่ทุกๆ ครั้ง บอกว่า ไม่ตายตอนนี้ก็ต้องตายในวันข้างหน้าอยู่ดี แต่ถ้าต้องตายเพื่อชาติ เพื่อในหลวง เขาก็ยอม เพื่อให้พ่อแม่ได้ภูมิใจ คุณแม่เล่าให้ฟังว่า ขอให้ลูกชายนั้นหลับให้สบาย และขอให้ดวงวิญญาณนั้นไปเป็นทหารอารักขาพระพี่นางฯ ดวงวิญญาณของพระพี่นางฯ ก็ร่วมอาลัยกับวีรชนของเราอีก 1 ท่านที่ต้องจากเราไปในวันนี้ ก็นำภาพมาให้พ่อแม่พี่น้องได้รับชม รับทราบกันด้วย ได้เห็นบรรยากาศการร่วมไว้อาลัยของพันธมิตรฯ ภาคใต้เราไปกันอย่างคับคั่งทีเดียวค่ะพี่น้อง
เดี๋ยวเราจะมาพบกับแกนนำ เรื่องราวของการเมืองวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เห็นภาพที่ไม่เคยคิดจะเห็น พี่น้องจำได้ไหมคะ ภาพที่คุณเนวิน ชิดชอบ เคยสวมกอดคุณทักษิณ ชินวัตร เขาไม่เรียกว่าสวมกอด เขาเรียกโผเข้าไปกอด ในช่วงระยะเวลานั้นหลายคนก็นำมาแซวคุณเนวิน ว่าโอ้โหโผกอดเข้ายิ่งกว่าที่ภรรยาโผกอดเข้าอีกนะ ดูสนิทชิดเชื้อ ดูรักกันดีมากๆ แต่ในที่สุดวันนี้เราก็เห็นภาพของคุณเนวิน คนเดียวกันนี่แหละ ที่เข้าไปสวมกอดคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บรรยากาศของการแถลงข่าว จะเรียกว่าแถลงข่าวคงไม่ใช่ แต่เป็นการชี้แจงและแสดงจุดยืนต่อหน้าสื่อมวลชน และแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน รวมไปถึงแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ หลายท่านบอกว่า เอาละจบแล้ว เกมจบแล้ว ณ เวลานี้ค่อนข้างจะมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีของไทยคนต่อไป น่าจะชื่อว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณเนวินบอกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นกลุ่มเนวินยินดีถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดในหลายๆ ด้านแต่ก็ยินดี เพราะ 4 ข้อ 4 เหตุผลหลักๆ คือ 1. จะต้องรักษาสถาบันสูงสุดของไทยเอาไว้ 2. ฝากให้รัฐบาลชุดต่อไปได้นำเรื่องราวนโยบายประชานิยมเข้ามาดำเนินการในช่วงนี้ เพราะว่ารากหญ้านั้นลำบากและได้รับผลกระทบอย่างมาก อีกเรื่องนึงคือ เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ คุณเนวินต่ออีกเรื่อง เรื่องสุดท้าย คือเรื่องของกฎหมาย เรื่องของความปรองดอง คุณเนวินบอกว่าอยากจะให้เกิดความปรองดองในชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็อยากจะให้ใช้กฎหมายในบรรทัดฐานเดียวกัน มาตรฐานเดียวกันกับทุกๆ กลุ่ม ทุกๆ สี ไม่ว่าจะเป็นสีไหนก็แล้วแต่ คุณอภิสิทธิ์ฟังแล้วบอกว่า ยินดีมาก พร้อมรับทุกข้อเสนอ บอกว่าเป็นสิ่งที่ประชาธิปัตย์คิดไว้อยู่แล้ว คิดไว้เสมอ และแต่ละข้อประชาธิปัตย์ตั้งใจจะดำเนินการอยู่แล้ว แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่นักข่าว หลังจากที่เจรจากับคุณอภิสิทธิ์แล้ว ประชาธิปัตย์กลับไปหมดแล้ว คุณเนวินตอบกับนักข่าว มีอยู่อย่างหนึ่งว่า ตกลงแตกหักไหม แตกหักไหมกับคุณทักษิณ แตกหักหรือเปล่า คุณเนวินบอกว่า ไม่แตกหัก สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังเป็นนาย แต่ตอนนี้เรื่องส่วนตัวกับเรื่องของชาติเป็นคนละเรื่องกัน บอกว่ายังรักและเคารพ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ และตามรายงานข่าวจากคนในกลุ่มของเพื่อนเนวินเองบอกว่า หลังจากที่พยายามให้แกนนำในพรรคพลังประชาชนพยายามติดต่อคุณเนวินอย่างต่อเนื่อง คุณเนวินไม่ยอมคุยกับใครเลย คุณทักษิณในที่สุดตัดสินใจต่อสายตรงถึงคุณเนวินถามว่าเกิดอะไรขึ้น กลับมาเถอะ กลับมามีอะไรคุยกันได้ คุณเนวินตอบเพียงสั้นๆ ว่า ทุกอย่างจบแล้วครับนาย เพราะฉะนั้นตอนนี้เฝ้าติดตามเพราะว่า หลังจากที่มีข่าวนี้ตั้งแต่เช้าแล้วคะ ก็มีกระแสของโผคณะรัฐมนตรีในชุดต่อไปได้เห็นแล้วนะคะ กลุ่มเพื่อนเนวินจากที่ได้ 2 ที่นั่งในรัฐบาลชุดเดิมที่มีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำจะได้ทั้งหมด 4 ที่นั่ง หลังจากที่คุณอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้วนะคะ 4 ที่นั่งที่ว่านี้ กลุ่มคุณเนวินจะได้ทั้งสิ้นมี รัฐมนตรีคมนาคมว่าการนะคะ ซึ่งรายงานข่าวบอกว่าคุณชัย ชิดชอบจะมานั่งในตำแหน่งนี้ รัฐมนตรีช่วยคมนาคมอีกตำแหน่งหนึ่ง ช่วยเกษตรอีกตำแหน่งหนึ่ง และช่วยมหาดไทยเป็นตำแหน่งสุดท้ายรวมทั้งสิ้น 4 ตำแหน่ง ในส่วนอื่นๆ ก็ยังมีให้เห็นนะคะ ในรายงานข่าวว่า กลุ่มก้อนต่างๆ ไม่ว่าาจะเป็นอดีตพรรคมัชฌิมาฯ อดีตชาติไทย หรือว่าเพื่อแผ่นดินนั้นได้ไปกี่ที่นั่ง และตามโผแล้วมีอะไรบ้างก็มีให้เห็นในตามข่าว เดี๋ยวคงได้คุยกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับท่าน ส.ว.และคุณวีระ สมความคิด ถึงเรื่องราวการจัดตั้งรัฐบาล ที่แน่ๆ ต้องถกเถียงกันยาวว่า คุณสมบัติของ ส.ส.สัดส่วนรวมไปถึงรักษาการนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงตอนนี้ประธานสภา ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่หลายท่านบอกว่า ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้แล้ว คนพวกนี้ไม่ควรที่จะอยู่ในตำแหน่ง และหมดสถานภาพการเป็น ส.ส.ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่พรรคพลังประชาชนถูกยุบ เราคงจะได้คุยกันแต่ว่าตอนนี้ไปพบกับท่านนี้ก่อนนะคะ คุณศิริชัย ไม้งาม นะคะมาพบกับเราในสตูดิโอ สวัสดีคะพี่ศิริชัยคะ

ศิริชัย- สวัสดีครับน้องแอ้มครับ

สโรชา- เป็นยังไงคะ มาเจอกันในห้องส่งเป็นครั้งแรก และจะมีการปราศรัยด้วย

ศิริชัย- ครับก็ยินดีครับ ดีใจ 6 วันที่ได้ยุติการชุมนุม

สโรชา- เหงาไหมคะ

ศิริชัย- พวกเราเองก็ติดตามนะครับ ติดตามดูว่าบ้านเมืองจะไปทิศทางใด ผมคิดว่าพันธมิตรฯ ทุกคนนั้น พยายามที่จะติดตามแล้วก็ ไม่ว่าจะเป็นคิดถึง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกอะไรทุกอย่าง ผมคิดว่าทุกคนยังอยู่หน้าจอทีวีนะครับ แต่อยากจะบอกครับว่า การต่อสู้ต้องมีวันเลิกรานะครับ ผมคืดว่าพันธมิตรฯ นั้นได้แบกปัญหาของบ้านเมืองมาตลอดเวลา 6 เดือนกว่านะครับ 192 วันนั้นเป็นการต่อสู้ที่ยืนยาวนะครับ และก็ทรหดอดทนมาก ในการต่อสู้ที่ยืนจุดยืนในอุดมการณ์ของแกนนำนั้น ผมคิดว่าจุดยืนของพันธมิตรฯ วันนี้ที่บอกว่าสำเร็จครับ สำเร็จคือ 1.รัฐธรรมนูญไม่มีการแก้ไข ผ มคิดว่าเรื่องนี้คือเรื่องใหญ่ที่สุดนะครับ เราก็รู้อยู่รัฐบาลของระบอบทักษิณนั้นพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตนเองพ้นผิด เพื่อตนเองนั้นนะครับอยู่ในอำนาจต่อไป หรือแม้ตั้งแต่กระทั่งคนบ้านเลขที่ 111 ได้หลุดจากการที่ถูกดองทางการเมืองถึง 5 ปี อันที่ 2.คือเรื่องของขบวนการยุติธรรม ที่พยายามจะแทรกแซงองค์กรอิสระต่างๆ นะครับ นี่คือเรื่องที่ 2 นะครับ อันที่ 3.ก็คือรัฐบาลออกไป ผมคิดว่าเรื่องนี้คือความสำเร็จที่การต่อสู้นั้นรัฐบาลก็ไม่สามารถจะอยู่ได้ครับ ตลอดเวลาที่ต่อสู้ 192 วันนั้น เราผ่านช่วงของความสุข ผ่านช่วงความประทับใจ ผ่านทั้งการสูยเสียนะครับ ก็ต้องเรียนครับว่า การสูญเสียนั้นนะครับ มีทั้งกระทั่งเสียชีวิต มีกระทั่งสูญเสียอวัยวะ บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก นี่คือบุคคลที่พวกเราจะต้องนึกถึงเขาตลอดเวลา แม้แต่วันนี้นะครับ เราก็ได้มีการเผาวีรชนที่ จ.สงขลา และอีกท่านหนึ่งก็ยังอยู่ในการสวดพระอภิธรรมนะครับ และก็รอที่จะทำการฌาปนกิจในวันที่ 14 คือวันอาทิตย์นะครับ เวลาบ่าย 2 โมงเย็นนะครับ พี่น้องพันธมิตรฯ กรุงเทพฯ ร่วมได้นะครับ เรื่องของน้องติ๊กนะครับคือ น.ส.ศศิธร เชยโสภณ ผมคิดว่านี่คือ วีรชนคนกล้าของพวกเราทุกคนครับ ที่เขาเสียชีวิตในการกล้ามา อยากจะเห็นสังคมไทยเป็นสังคมที่ดี ประเทศไทยเรานั้นมีอะไรดีๆ เยอะครับ แต่เราปล่อยให้นักการเมืองนะครับ ผู้เข้าสู่อำนาจนั้น ใช้อำนาจนั้นไปในทิศทางไม่ถูกต้อง พี่น้องครับผมว่า ตลอดเวลา 6 วันที่เลิกการชุมนุมนะครับ ทุกคนคิดถึงกัน ทุกคนห่วงใยกัน และก็หลายพื้นที่นะครับ ผมเองก็มีโอกาสได้ต้อนรับในการที่ไป และจำหน้าคร่าตาได้ ถึงบอกได้ครับว่า พันธมิตรฯ นั้นมีอยู่เป็นจำนวนมากครับ ผมนั้นได้รับการต้อนรับในการที่ไปที่ชะอำกับหัวหิน ก็ได้รับการต้อนรับนะครับ เข้ามาทักทายและก็ให้กำลังใจ ให้การต่อสู้นะครับที่เกิดขึ้น ก็นี่คือสิ่งที่วันนี้ก็คงยังไม่จบ ผมคิดว่าพันธมิตรฯ นั้นจากการที่อยู่ด้วยกันมันทำให้มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ในการที่ยังติดตามข่าวสารบ้านเมืองนะครับ และที่สำคัญคือ หลายจังหวัดหลายพื้นที่ มีความพยายามที่อยากจะจัดเวทีเพื่อเป็นการขอบคุณแกนนำพันธมิตรฯ และก็ได้มีการผ่อนคลายกันบ้าง เพื่อที่จะให้กิจกรรมของพันธมิตรฯ นั้นไม่ได้หายไปเสียทีเดียวนะครับ วันนี้หลายจังหวัดนะครับในวันพุธนี้คือวันพรุ่งนี้ ผมเองก็จะไปที่ จ.ระยองนะครับ และในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หรือแม้แต่ จ.อยุธยานะครับก้ได้มีการติดต่อมาแล้ว และยังมีความตั้งใจครับ เห็นว่าพวกเราถึงแม้ว่าการต่อสู้บนเวทีนะครับอาจจะจบ แต่ทุกคนนั้นยังมีเรื่องของคดีความการถูกฟ้องร้อง หรือว่าการถูกดำเนินคดี ซึ่งแกนนำทุกคนไม่ได้ย่อท้อนะครับ ผมคิดว่าเราทำเพื่อบ้านเมือง เราทำด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เรื่องของคดีความเป็นเรื่องธรรมดาครับ เพราะเราเชื่อมั่นว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ก็ต้องไปสู่ขบวนการยุติธรรม ในการที่จะตัดสินให้ความเป็นธรรมครับ ดังนั้นแกนนำทุกคนก็พร้อมที่จะต่อสู้นะครับ ที่พี่น้องเองกด็มีความตั้งใจอยากจะสมทบทุนในกองทุนสู้คดีนะครับ อย่างเช่นที่ จ.อยุธยาบอกแล้วครับว่า พร้อมจะจัดงานและก็นำเงินส่วนหนึ่งนะครับ มอบให้กับทนายความนะครับ ซึ่งเป็นทนายความแผ่นดินนะครับ ไม่มีค่าจ้าง ไม่มีเรื่องของค่าตอบแทนอะไรนะครับ ก็สู้กันมาตลอดอย่างนี้ นะครับ ไม่ว่าจะเป็นทนายสุวัตร อภัยภักดิ์ มีคุณนิติธร ล้ำเหลือ นี่ก็คือเรื่องของคดีความต่างๆ ส่วนที่บอกว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ นั้น 6 เดือนกว่า เราเองอยู่ทำเนียบประมาณ 3 เดือนครับ อยู่ที่สนามบินดอนเมืองประมาณ 7 วัน อยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 6 วัน แล้วก็มีดาวกระจายไปทุกที่ครับ ถามว่าถ้าเราชุมนุม อยู่ๆ ถ้าเราชุมนุมด้วยการที่ไม่สมเหตุสมผล ไม่ต่อสู้กับรัฐบาลที่พยายามเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์แล้วก็จะช่วยระบอบทักษิณ เราคงไม่ต้องไปเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางครับ หรือต้องเข้าไปยึดอะไรต่างๆ ดังนั้นผลที่ตามมาก็คือ ระยะเวลาที่ยาวนานในการต่อสู้ มันเป็นธรรมดาครับของการต่อสู้กับรัฐบาลที่ขาดจิตสำนึก แล้วไม่มีเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม พยายามจะอยู่ในอำนาจอย่างเดียว ผมคิดว่าพันธมิตรฯ นั้นอยู่ในเหตุการณ์ทุกเรื่อง ว่ารัฐบาลที่เราจะปล่อยให้บริหารบ้านเมืองต่อไปนั้นมีความเสียหายแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปราสาทเขาพระวิหาร ในการสูญเสียอำนาจอธิปไตย หรือในเรื่องของการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง และอีกหลายคดีครับ นี่คือสิ่งที่ทำให้พันธมิตรฯ ต้องยืนหยัดต่อสู้อย่างยาวนานจริงๆ มันทำให้วันนี้อาจจะถูกคนในส่วนต่างๆ ของสังคม พยายามพูดถึงความเสียหายที่ทำเนียบรัฐบาล ถ้าเป็นรัฐบาลอื่น ผมคิดว่ารัฐบาลที่มีคุณธรรมจริยธรรม การเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล ผมคิดว่าไม่เกิน 5 วัน 7 วัน เขาต้องพิจารณาและคืนอำนาจให้กับประชาชน แต่รัฐบาลภายใต้รัฐบาลคุณสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลคุณสมชาย ก็ยังยืนหยัดในการที่จะเอาชนะพวกเราครับ ทำให้พวกเราเองก็ต้องเหนื่อย แล้วก็เกิดความสูญเสีย เราก็ไม่รู้ครับว่าใครที่จะเข้าไปก่อให้เกิดความเสียหายกับรัฐ แต่ตลอดเวลาผมยืนยันครับว่า ในฐานะที่เป็นแกนนำและได้รับมอบหมาย เราพยายามดูแลทรัพย์สินของทางราชการ ดูแลสนามบิน การยึดสนามบินไม่ใช่สิ่งที่พันธมิตรฯ อยากทำ ผมเรียน ผมอยู่ในส่วนของแกนนำครับ แต่เนื่องจากการต่อสู้มันต้องมีการยกระดับเพื่อที่จะสร้างอำนาจต่อรองกับคนที่อยู่ในอำนาจรัฐให้ตระหนักและมีสำนึก อันนี้คือสิ่งที่เราต้องต่อสู้
ผมเองได้รับการติดต่อจากเพื่อนพ้องน้องพี่มากครับ พูดถึงวันนี้ ถึงแม้เราจะยุติการชุมนุม เรามี ASTV ก็อาจจะส่งไปถึงพี่น้องพันธมิตรฯ หรือผู้ชมทางบ้าน ประมาณแค่ 15 ล้านคน ประมาณ 5-6 ล้านครอบครัว แต่ยังน้อยครับ เขาอยากจะเห็นทีวีครับ คือ ASTV เป็นทีวีเสรีครับ นี่คือสิ่งที่พี่น้อง อยากจะให้พี่น้องร่วมชาติได้ติดตาม ASTV เหมือนกับฟรีทีวี 3 5 7 9 ครับ นี่คือสิ่งที่เขาเองพยายามฝ่า แล้วผมได้รับ sms ตลอด ก็ฝากครับว่า ถ้ารัฐบาลที่มาใหม่แล้วอยากจะเห็นว่า ประชาชนได้สนใจการเมืองนั้น ผมคิดว่าควรที่จะให้โอกาส ASTV หรือทีมงานเข้าไปทำช่องฟรีทีวี ถึงบอกครับว่า วันนี้พี่น้องประชาชนสนใจการบ้านการเมืองจากการชุมนุมมากกว่าการดูละคร ทุกคนแต่ก่อนอาจจะมองการเมืองเป็นเรื่องของนักการเมืง หรือคนที่เกี่ยวข้องครับ แต่วันนี้สังคมได้สรุปแล้วครับว่า การเมืองนั้นเป็นของคนไทยทุกคน ที่ทุกคนมีส่วนรับผิดชอบ ตั้งแต่เกิดจนถึงตาย
ครับ เราเองกำลังติดตามว่า รัฐบาลนั้นจะเกิดขึ้นอย่างไร เราอาจจะไม่ได้รัฐบาลดั่งใจหรอกครับ แต่ในเมื่อกรอบ กติกา เมื่อมีการยุบพรรคการเมือง และขณะนี้มีการเตรียมจัดตั้งรัฐบาล พันธมิตรฯ ผมคิดว่าทุกคนอยากจะเห็นผู้นำประเทศมีภาวะของผู้นำ ที่จะนำพาประเทศไปสู่ความผาสุข ให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม แล้วก็มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ด้วยความมีจริยธรรม มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์ มีความเสียสละต่อส่วนรวม และที่สำคัญครับ คือการไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น และหาผลประโยชน์ที่ทับซ้อน นั่นคือประเด็นของบ้านเมืองที่เกิดการชุมนุม เพราะผู้นำประเทศเข้ามาแล้ว ส่วนใหญ่มองเรื่องงบประมาณ ในการเข้าสู่อำนาจ นำงบประมาณนั้นมาเป็นของกลุ่มตัวเองและพวกพ้อง ถึงทำให้เกิดการชุมนุมของประชาชนที่เกิดขึ้น ดังนั้นการจัดตั้งรัฐบาล วันนี้มีการชิงไหวชิงพริบชิงเกมตลอด ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ผมเรียนพี่น้องครับว่า หน้าที่ของพันธมิตรฯ ทุกคนก็คือการติดตามดูการทำงานของรัฐบาลนั้น และหวังว่าการต่อสู้ของพันธมิตรฯ จะเป็นบทเรียนให้กับรัฐบาลทุกรัฐบาล ถ้าคุณเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ผมคิดว่าวันนี้พี่น้องประชาชนตื่นและรู้ว่า สิทธิเสรีภาพ ความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง คงไม่ยอมให้ประเทศชาติเสียหายเหมือนอย่างเช่นในช่วงที่ผ่านมา
คงบอกพี่น้องครับว่า ทุกอย่างนั้นพยายามเอาใจเป็นใหญ่ การต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ผมคิดว่าใจนั้นเป็นใหญ่จริงๆ ทุกคนใจเกินร้อย จนทำให้เราก้าวมาถึงวันนี้ได้ อาจจะดูครับว่า นักการเมืองเขาจะเล่นการเมืองกันอย่างไร เราสามารถติดตามได้ครับว่า นักการเมืองใครทำเพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง สำคัญที่สุด มีเสียงพี่น้องบอก วันนี้เราเหมือนยืมจมูกคนอื่นหายใจ ปล่อยให้นักการเมืองเขาจัดตั้งรัฐบาล เราวันนี้เหมือนกับคนนั่งดูการต่อรองตำแหน่งหน้าที่ ช่วงชิง ทั้งๆ ที่การเลือกนายกฯ เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ในสภา มีการพูดถึงการจ่ายเงิน เป็นจำนวนเงินสูงถึง 40 ล้าน เพื่อจะดึง ส.ส.มาสนับสนุนตัวเองจัดตั้งรัฐบาล หรือเป็นนายกฯ พูดถึงการรวม ส.ส.5 คน ให้รัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง และให้ตำแหน่งกระทรวงเกรดเอ นี่คือการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่ประชาชนนั้นยังไม่ได้เห็นเลยครับว่า ปัญหาของบ้านเมืองเป็นอย่างไร วันนี้ปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาเรื่องของการเสียสละเพื่อส่วนรวมนั้นมีน้อยจริงๆ ทำให้เราต้องคิดครับ ผมคิดว่าพันธมิตรฯ ทุกคนต้องคิด และมีเสียงแว่วมาตลอดถึงผม วันนี้ถ้าเราปล่อยอย่างนี้เราก็เหมือนกับเป็นคนที่อยู่นอกเกม
การต่อสู้ของพันธมิตรฯ พูดถึงการเมืองใหม่ การเมืองใหม่นั้นเราเองอยู่ในภาคประชาชน ก็มีส่วนที่จะเข้าไปอยู่ในภาคการเมือง เรื่องของการตรวจสอบถ่วงดุลได้ และมีตัวแทนโดยที่ไม่ต้องผ่านนักการเมือง แต่ในเบื้องต้น สถานการณ์การต่อสู้ พี่น้องพันธมิตรฯ พูดถึงเรื่องของพรรคการเมือง เป็นมิติใหม่นะครับ พยายามถามว่าพันธมิตรฯ สมควรจะมีพรรคการเมืองหรือไม่ ผมบอกเลยครับว่า เรื่องนี้ไม่มีการพูดกันในส่วนของแกนนำครับ รู้ว่าพี่น้องบางครั้งขาดทางเลือก ไม่ทราบว่าจะเลือกพรรคใด ก็อยากจะมีพรรคการเมืองที่พี่น้องมั่นใจและไว้ใจ แต่การต่อสู้ของพันธมิตรฯ ไม่ได้โยงว่าเราจะต้องไปเป็นนักการเมืองหรือมีพรรคการเมือง แต่ถ้าเกิดมีกระแสเรียกร้อง ผมคิดว่ามันก็เป็นเรื่องของคนที่ต่อสู้ว่า การมีพรรคการเมืองมันอาจจะเป็นทางออก แต่เราต้องยอมรับว่า การเมืองบ้านเรานั้นยังเป็นการเมืองที่ใช้ทุน เป็นการเมืองที่ใช้การซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อเข้าสู่อำนาจ พันธมิตรฯ คงไม่มีปัญญาครับ มีแต่ความจริงใจ ความตั้งใจ เราจะทำอย่างไรที่วันนี้จะทำให้คนในชาติ คนในสังคมได้ตื่น ได้ปฏิเสธการใช้เงิน อย่างเช่นพันธมิตรฯ ได้เกิดขึ้น ไม่รับเงินกลับมีน้ำใจในการบริจาคให้กับการต่อสู้ นี่คือมิติใหม่ครับ
ก็อยากขอขอบคุณนะครับพี่น้องพันธมิตรฯ ทุกคน และวันนี้ได้ให้โอกาสผมขึ้นมาพบมาพูดคุยกับพันธมิตรฯ ทุกคนครับ หวังว่าจะได้มีโอกาสอย่างนี้ แล้วก็ตลอดเวลายืนหยัดครับที่จะทำหน้าที่ในฐานะที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อน รักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน นะครับโดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ ที่คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข หรือคุณสาวิทย์ แก้วหวาน และอีกหลายๆ ท่านเพื่อนผู้นำแรงงาน ก็พยายามจะทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของบ้านเมือง โดยเฉพาะเรื่องของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ผมเรียนครับว่าหนักทุกรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนขึ้นมาก็อยากจะแปรรูป ดังนั้นการต่อสู้ของคนรัฐวิสาหกิจนั้น เราอยากจะเก็บรัฐวิสาหกิจไว้เพื่อเป็นประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ครับก็คงมีโอกาสได้พบในโอกาสต่อไปนะครับ วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณ และให้ทุกคนพยายามอยู่ในความพร้อม ติดตามข่าวสารบ้านเมือง โดยเฉพาะผ่าน ASTV เป็นทีวีที่มีคุณภาพ เป็นของประชาชนตลอดไป ขอขอบคุณครับ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น