พันธมิตรฯใต้เดินทางมาเคารพศพและร่วมงานฌาปนกิจ "น้องชัย-รณชัย ไชยศรี" ที่วัดคูหา อำเภอสะบ้าย้อยคับคั่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียของบุคคลตัวอย่างที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมี "สมศักดิ์ โกศัยสุข-สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์" แกนนำพันมิตรฯร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ด้านพันธมิตรฯเลือดสะตอลั่นแม้เสียใจแต่ไม่อ่อนแอ ยืนยันสืบทอดเจตนารมย์ของเหล่าวีรชนให้ถึงที่สุด หากรัฐบาลใจไม่โปร่งใสพร้อมเป่านกหวีดใส่เกียร์เดินหน้าต่อทันที
วานนี้ (9 ธ.ค.) พันธมิตรทั่วภาคใต้เดินทางร่วมงานฌาปนกิจนายรณชัย ไชยศรี หรือน้องชัย อายุ 29 ปีที่วัดคูหา ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยอาวุธสงครามระเบิดเอ็ม 79 ขณะร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมินีที่สนามบินดอนเมืองในคืนวันที่ 2 ธ.ค.นับเป็นความสูญเสียของวีรบุรุษกู้ชาติเลือดสะตออีกผู้หนึ่งที่เปี่ยมด้วยจิตสาธารณะ ยืนหยัดความถูกต้องโดยไม่เสียดายแม้แต่ชีวิต และยังเป็นอีกผู้หนึ่งที่ร่วมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ตราบจนลมหายใจสุดท้าย
พันธมิตรใต้รวมตัวส่ง "น้องชัย"
หลังจากที่พันธมิตรภาคใต้จากจังหวัดต่างๆ ทั้งสงขลา, พัทลุง, ตรัง, นครศรีธรรมราช, ชุมพร, ภูเก็ต เป็นต้น เดินทางร่วมฌาปนกิจ "น้องโบว์-กมลวรรณ หมื่นหนู" ที่วัดทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.เสร็จเรียบร้อยแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้เดินทางมาร่วมงานน้องชัย ณ วัดคูหา ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย โดยรถยนต์ส่วนตัวและรถบัสโดยสาร
เช่นเดียวกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะติดตามได้เดินทางโดยรถยนต์จาก จ.นครศรีธรรมราช มาร่วมงานตั้งแต่ก่อนเที่ยง โดยมีกองทัพพันธมิตรฯใต้ให้การต้อนรับและทักทายอย่างอบอุ่นเช่นเคย นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองมาร่วมด้วย เช่น นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี, รศ.ประเสริฐ ชิตพงศ์ ส.ว.สงขลา ซึ่งเป็นตัวแทน 40 ส.ว. และนายนาราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลา
โดยบรรยากาศภายในงานนั้นเป็นไปอย่างเรียบร้อยและคราคร่ำไปด้วยพันธมิตรฯที่พร้อมใจกันแต่งตัวด้วยชุดสีดำ ผูกผ้าสัญลักษณ์ของแต่ละจังหวัด ในขณะที่พันธมิตรสงขลาฯได้จัดทำผ้าแถบโพกศีรษะเขียนข้อความไว้อาลัยน้องชัยวีรบุรุษเป็นกรณีพิเศษ และที่ขาดไม่ได้คือมือตบซึ่งเป็นอุปกรณ์แสดงความรู้สึกต่อกัน
ลั่นสานเจตนารมณ์รักษาแผ่นดิน
นายสาโรจน์ รักจันทร์ หนึ่งในคณะทำงานพันธมิตรสงขลาฯกล่าวไว้อาลัยว่า ชัยชนะที่ได้มา เพราะทุกคนมีความสามัคคี กล้าต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้มีวีรบุรุษน้องรณชัย ไชยศรี เกิดขึ้นเพราะได้ยอมแลกชีวิต ต่อไปนี้พันธมิตรภาคใต้ให้สัญญาว่าจะร่วมสานความฝันของน้องชัยที่อยากเห็นการเมืองใหม่ ปราศจากการคอรัปชัน การบ่อนทำลายประเทศชาติ และจาบจ้วงสถาบันเหนือเกล้าของคนไทยต่อไป แม้ว่าจะพบกับอุปสรรคมากมายก็ตาม ตลอดจนไม่ยอมให้การสูญเสียของวีรบุรุษ วีรสตรีเหล่านี้สูญเปล่า และหากรัฐบาลใดที่บริหารประเทศด้วยความไม่ชอบมาพากลพันธมิตรก็พร้อมที่จะเดินหน้าตรวจสอบทันที
"แม้น้องชัยจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว แต่สิ่งที่เขาเลือกคือทำเพื่อพ่อหลวง ประเทศ และครอบครัว เป็นการจากไปอย่างมีศักดิ์ศรีที่ยากนักจะมีใครกล้าแลกชีวิตของตนเองได้ วันนี้ทุกคนมีมาร่วมงานด้วยความตั้งใจเปี่ยมล้นที่จะส่งน้องชัยไปสู่สรวงสรรค์ และจะจดจำน้องชัยคนนี้ตลอดไปที่ได้ร่วมต่อสู้จนวินาทีสุดท้าย แม้ว่าทุกคนจะเสียใจกับการสูญเสียแต่ก็ต้องเข้มแข็งไม่อ่อนแอ" นายสาโรจน์กล่าว
แกนนำมอบวุฒิบัตรเชิดชูผู้กล้า
ทั้งนี้ จากความสูญเสียที่เกิดขึ้น พันธมิตรฯได้มอบวุฒิบัตรแด่ครอบครัวนายรณชัย ไชยศรี เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของบุตรชาย และในโอกาสเดียวกันคณะพันธมิตรสงขลามอบเงินร่วมทำบุญแด่นายรณชัย ไชยศรี เป็นเงินรวม 42,200 บาท รวมถึงพันธมิตร มอ., พันธมิตรฯภูเก็ต, พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี, กลุ่ม 40 ส.ว.เพื่อช่วยเหลือครอบครัวอีกจำนวนหนึ่ง
ยกย่อง"รณชัย" นักสู้เลือดอหิงสา
ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า ตนแสดงความอาลัยยิ่งกับวีรชนนายรณชัย ไชยศรี ที่จบอนาคตของตัวเองเพื่อประเทศชาติ ตลอดเวลาที่มีการชุมนุม นายรณชัยคือกองทัพหน้าของประชาชน จิตใจกล้าต่อสู้ เสียสละ เป็นแบบอย่างที่ดีของนักศึกษาทำให้ประเทศชาติมีแสงสว่างมากขึ้น
"แม้ว่ารณชัยจากพวกเราไปแล้ว แต่เขาได้ออกแบบการต่อสู้ คือ เขาได้เขียนบันทึกไว้ก่อนจะจากไปว่า การได้ตายเพื่อชาติ ดีกว่าการตายทั้งปวง ถือได้ว่า รณชัยเป็นคนที่เสียสละขั้นสูงสุด คือ ยอมเสียสละชีวิตเพื่อรักษาธรรมะ และความถูกต้อง" นายสมเกียรติ กล่าว และว่า
นับจากนี้ไป นายรณชัย จะได้รับความภาคภูมิใจในฐานะ "วีรชนของชาติ" เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 9 ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า "อหิงสา"การต่อสู้แบบไร้อาวุธ สามารถนำชัยชนะมาสู้ประเทศชาติได้ วีรกรรมการต่อสู้ของเขาในครั้งนี้ จะเป็นที่กล่าวขานและระลึกถึงตลอดไป"อ.สมเกียรติ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องรณชัย และภาคภูมิใจกับวีรชนคนรักชาติ เราต้องสูญเสียบุคคลที่มีคุณภาพไปอีกหนึ่งคน ตนรู้สึกประทับใจกับคำที่น้องรณชัยได้พูดก่อนจากไปว่าคนเราไม่ตายวันนี้ ก็ต้องตายวันหน้า แต่ถ้าจะตายก็ขอตายเพื่อชาติดีกว่า
"ทำไมคนดีที่รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต้องมาจากเราไป แต่คนที่มันกล่าวจาบจ้วงสถาบันอยู่ตลอดเวลาถึงไม่ถูกลงโทษสักที มันเจ็บปวดตรง หลายคนเป็นคนใต้ด้วยกันแต่สั่งการให้ฆ่าคนใต้กันเอง ยิง เอ็ม 79 ใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่กำลังนอนหลับ ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนที่สุด" นายสมศักดิ์กล่าวและว่า
ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมทุกคนไม่ได้อยากเป็นใหญ่ในประเทศ แต่อยากเห็นสังคมไทยดีขึ้น ตนขอสัญญากับทุกชีวิตที่เสียไปว่าจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนทุกรูปแบบ ตามที่วีรชนผู้เสียชีวิตต้องการ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นครอบครัวใหญ่ ใครเจ็บเราเจ็บ ใครมีความสุขเราก็มีความสุขด้วย อยากให้เรารักษาความเป็นเอกภาพอย่างนี้ไว้ ระบอบประชาธิปไตยหากเมื่อใดที่นักการเมืองไม่ซื่อสัตย์ ประชาชนก็มีสิทธิ์ขับไล่
ทั้งนี้ นายสมเกียรติ ได้ประกาศยอดเงินช่วยเหลือครอบครัว "ไชยศรี" จากการรวบรวมจากกองทุนพันธมิตรฯ และจากพี่น้องพันธมิตรฯทั่วประเทศ เป็นเงินจำนวนกว่า 2 ล้านบาท
"ชวน" ส่ง จม.อาลัย
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนจดหมายถึงครอบครัวไชยศรี เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่สนามบินนานาชาติ อ.หาดใหญ่ เพื่อจะเดินทางต่อไป จ.พัทลุง โดยมีใจความสำคัญว่า ขอร่วมแสดงความเสียใจด้วยใจจริงและเชื่อมั่นว่าบทบาทของนายรณชัยที่ผ่านมา จะช่วยผลักดันให้การเมืองเดินหน้าอย่างแท้จริง และคุณงามความดีที่ได้กระทำขึ้นจะทำให้ดวงวิญญาณของนายรณชัยสู่วรรค์
ศิลปินใต้ขับกล่อมเชิดชู "วีรบุรุษ"
นอกจากทัพพันธมิตรกู้ชาติจะมาร่วมงานแล้วยังมีศิลปินกู้ชาติ ทั้งวง ต.คน, แสง ธรรมดา และคีรีธารอีกด้วย โดยศิลปินวง ฅ.คน ได้แต่งเพลงใหม่ล่าสุด "สดุดีดอกไม้พันธมิตร" เพื่อสดุดีวีรชนกู้ชาติที่สละชีวิต รวมทั้งขับร้องบทเพลงที่ขับร้องตลอดการกู้ชาติกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการขับกล่อมน้องชัยเป็นวาระสุดท้าย ก่อนที่จะการเริ่มทำพิธีทางศาสนาในเวลา 13.00 น.และฌาปกิจในท้ายที่สุดในเวลา 14.00 น.
สำหรับนายรณชัย ไชยศรี เกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค.2522 เป็นบุตรของนายอุทัย และนางบุญสม ไชยศรี มีพี่น้อง 2 คน โดยนายรณชัยเป็นคนสุดท้อง ด้านการศึกษานั้นนายรณชัย เรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนบ้านคูหา อ.สะบ้าย้อย และสำเร็จระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสะบ้าย้อยวิทยา อ.สะบ้าย้อย ก่อนที่จะเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่สถาบันเทคโนโลยี คณะเกษตร สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นจึงศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และก่อนเสียชีวิตกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่มหาวิทราลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ
วานนี้ (9 ธ.ค.) พันธมิตรทั่วภาคใต้เดินทางร่วมงานฌาปนกิจนายรณชัย ไชยศรี หรือน้องชัย อายุ 29 ปีที่วัดคูหา ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยอาวุธสงครามระเบิดเอ็ม 79 ขณะร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมินีที่สนามบินดอนเมืองในคืนวันที่ 2 ธ.ค.นับเป็นความสูญเสียของวีรบุรุษกู้ชาติเลือดสะตออีกผู้หนึ่งที่เปี่ยมด้วยจิตสาธารณะ ยืนหยัดความถูกต้องโดยไม่เสียดายแม้แต่ชีวิต และยังเป็นอีกผู้หนึ่งที่ร่วมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ตราบจนลมหายใจสุดท้าย
พันธมิตรใต้รวมตัวส่ง "น้องชัย"
หลังจากที่พันธมิตรภาคใต้จากจังหวัดต่างๆ ทั้งสงขลา, พัทลุง, ตรัง, นครศรีธรรมราช, ชุมพร, ภูเก็ต เป็นต้น เดินทางร่วมฌาปนกิจ "น้องโบว์-กมลวรรณ หมื่นหนู" ที่วัดทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.เสร็จเรียบร้อยแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้เดินทางมาร่วมงานน้องชัย ณ วัดคูหา ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย โดยรถยนต์ส่วนตัวและรถบัสโดยสาร
เช่นเดียวกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะติดตามได้เดินทางโดยรถยนต์จาก จ.นครศรีธรรมราช มาร่วมงานตั้งแต่ก่อนเที่ยง โดยมีกองทัพพันธมิตรฯใต้ให้การต้อนรับและทักทายอย่างอบอุ่นเช่นเคย นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองมาร่วมด้วย เช่น นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี, รศ.ประเสริฐ ชิตพงศ์ ส.ว.สงขลา ซึ่งเป็นตัวแทน 40 ส.ว. และนายนาราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลา
โดยบรรยากาศภายในงานนั้นเป็นไปอย่างเรียบร้อยและคราคร่ำไปด้วยพันธมิตรฯที่พร้อมใจกันแต่งตัวด้วยชุดสีดำ ผูกผ้าสัญลักษณ์ของแต่ละจังหวัด ในขณะที่พันธมิตรสงขลาฯได้จัดทำผ้าแถบโพกศีรษะเขียนข้อความไว้อาลัยน้องชัยวีรบุรุษเป็นกรณีพิเศษ และที่ขาดไม่ได้คือมือตบซึ่งเป็นอุปกรณ์แสดงความรู้สึกต่อกัน
ลั่นสานเจตนารมณ์รักษาแผ่นดิน
นายสาโรจน์ รักจันทร์ หนึ่งในคณะทำงานพันธมิตรสงขลาฯกล่าวไว้อาลัยว่า ชัยชนะที่ได้มา เพราะทุกคนมีความสามัคคี กล้าต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้มีวีรบุรุษน้องรณชัย ไชยศรี เกิดขึ้นเพราะได้ยอมแลกชีวิต ต่อไปนี้พันธมิตรภาคใต้ให้สัญญาว่าจะร่วมสานความฝันของน้องชัยที่อยากเห็นการเมืองใหม่ ปราศจากการคอรัปชัน การบ่อนทำลายประเทศชาติ และจาบจ้วงสถาบันเหนือเกล้าของคนไทยต่อไป แม้ว่าจะพบกับอุปสรรคมากมายก็ตาม ตลอดจนไม่ยอมให้การสูญเสียของวีรบุรุษ วีรสตรีเหล่านี้สูญเปล่า และหากรัฐบาลใดที่บริหารประเทศด้วยความไม่ชอบมาพากลพันธมิตรก็พร้อมที่จะเดินหน้าตรวจสอบทันที
"แม้น้องชัยจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว แต่สิ่งที่เขาเลือกคือทำเพื่อพ่อหลวง ประเทศ และครอบครัว เป็นการจากไปอย่างมีศักดิ์ศรีที่ยากนักจะมีใครกล้าแลกชีวิตของตนเองได้ วันนี้ทุกคนมีมาร่วมงานด้วยความตั้งใจเปี่ยมล้นที่จะส่งน้องชัยไปสู่สรวงสรรค์ และจะจดจำน้องชัยคนนี้ตลอดไปที่ได้ร่วมต่อสู้จนวินาทีสุดท้าย แม้ว่าทุกคนจะเสียใจกับการสูญเสียแต่ก็ต้องเข้มแข็งไม่อ่อนแอ" นายสาโรจน์กล่าว
แกนนำมอบวุฒิบัตรเชิดชูผู้กล้า
ทั้งนี้ จากความสูญเสียที่เกิดขึ้น พันธมิตรฯได้มอบวุฒิบัตรแด่ครอบครัวนายรณชัย ไชยศรี เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของบุตรชาย และในโอกาสเดียวกันคณะพันธมิตรสงขลามอบเงินร่วมทำบุญแด่นายรณชัย ไชยศรี เป็นเงินรวม 42,200 บาท รวมถึงพันธมิตร มอ., พันธมิตรฯภูเก็ต, พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี, กลุ่ม 40 ส.ว.เพื่อช่วยเหลือครอบครัวอีกจำนวนหนึ่ง
ยกย่อง"รณชัย" นักสู้เลือดอหิงสา
ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า ตนแสดงความอาลัยยิ่งกับวีรชนนายรณชัย ไชยศรี ที่จบอนาคตของตัวเองเพื่อประเทศชาติ ตลอดเวลาที่มีการชุมนุม นายรณชัยคือกองทัพหน้าของประชาชน จิตใจกล้าต่อสู้ เสียสละ เป็นแบบอย่างที่ดีของนักศึกษาทำให้ประเทศชาติมีแสงสว่างมากขึ้น
"แม้ว่ารณชัยจากพวกเราไปแล้ว แต่เขาได้ออกแบบการต่อสู้ คือ เขาได้เขียนบันทึกไว้ก่อนจะจากไปว่า การได้ตายเพื่อชาติ ดีกว่าการตายทั้งปวง ถือได้ว่า รณชัยเป็นคนที่เสียสละขั้นสูงสุด คือ ยอมเสียสละชีวิตเพื่อรักษาธรรมะ และความถูกต้อง" นายสมเกียรติ กล่าว และว่า
นับจากนี้ไป นายรณชัย จะได้รับความภาคภูมิใจในฐานะ "วีรชนของชาติ" เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 9 ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า "อหิงสา"การต่อสู้แบบไร้อาวุธ สามารถนำชัยชนะมาสู้ประเทศชาติได้ วีรกรรมการต่อสู้ของเขาในครั้งนี้ จะเป็นที่กล่าวขานและระลึกถึงตลอดไป"อ.สมเกียรติ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องรณชัย และภาคภูมิใจกับวีรชนคนรักชาติ เราต้องสูญเสียบุคคลที่มีคุณภาพไปอีกหนึ่งคน ตนรู้สึกประทับใจกับคำที่น้องรณชัยได้พูดก่อนจากไปว่าคนเราไม่ตายวันนี้ ก็ต้องตายวันหน้า แต่ถ้าจะตายก็ขอตายเพื่อชาติดีกว่า
"ทำไมคนดีที่รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต้องมาจากเราไป แต่คนที่มันกล่าวจาบจ้วงสถาบันอยู่ตลอดเวลาถึงไม่ถูกลงโทษสักที มันเจ็บปวดตรง หลายคนเป็นคนใต้ด้วยกันแต่สั่งการให้ฆ่าคนใต้กันเอง ยิง เอ็ม 79 ใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่กำลังนอนหลับ ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนที่สุด" นายสมศักดิ์กล่าวและว่า
ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมทุกคนไม่ได้อยากเป็นใหญ่ในประเทศ แต่อยากเห็นสังคมไทยดีขึ้น ตนขอสัญญากับทุกชีวิตที่เสียไปว่าจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนทุกรูปแบบ ตามที่วีรชนผู้เสียชีวิตต้องการ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นครอบครัวใหญ่ ใครเจ็บเราเจ็บ ใครมีความสุขเราก็มีความสุขด้วย อยากให้เรารักษาความเป็นเอกภาพอย่างนี้ไว้ ระบอบประชาธิปไตยหากเมื่อใดที่นักการเมืองไม่ซื่อสัตย์ ประชาชนก็มีสิทธิ์ขับไล่
ทั้งนี้ นายสมเกียรติ ได้ประกาศยอดเงินช่วยเหลือครอบครัว "ไชยศรี" จากการรวบรวมจากกองทุนพันธมิตรฯ และจากพี่น้องพันธมิตรฯทั่วประเทศ เป็นเงินจำนวนกว่า 2 ล้านบาท
"ชวน" ส่ง จม.อาลัย
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนจดหมายถึงครอบครัวไชยศรี เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่สนามบินนานาชาติ อ.หาดใหญ่ เพื่อจะเดินทางต่อไป จ.พัทลุง โดยมีใจความสำคัญว่า ขอร่วมแสดงความเสียใจด้วยใจจริงและเชื่อมั่นว่าบทบาทของนายรณชัยที่ผ่านมา จะช่วยผลักดันให้การเมืองเดินหน้าอย่างแท้จริง และคุณงามความดีที่ได้กระทำขึ้นจะทำให้ดวงวิญญาณของนายรณชัยสู่วรรค์
ศิลปินใต้ขับกล่อมเชิดชู "วีรบุรุษ"
นอกจากทัพพันธมิตรกู้ชาติจะมาร่วมงานแล้วยังมีศิลปินกู้ชาติ ทั้งวง ต.คน, แสง ธรรมดา และคีรีธารอีกด้วย โดยศิลปินวง ฅ.คน ได้แต่งเพลงใหม่ล่าสุด "สดุดีดอกไม้พันธมิตร" เพื่อสดุดีวีรชนกู้ชาติที่สละชีวิต รวมทั้งขับร้องบทเพลงที่ขับร้องตลอดการกู้ชาติกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการขับกล่อมน้องชัยเป็นวาระสุดท้าย ก่อนที่จะการเริ่มทำพิธีทางศาสนาในเวลา 13.00 น.และฌาปกิจในท้ายที่สุดในเวลา 14.00 น.
สำหรับนายรณชัย ไชยศรี เกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค.2522 เป็นบุตรของนายอุทัย และนางบุญสม ไชยศรี มีพี่น้อง 2 คน โดยนายรณชัยเป็นคนสุดท้อง ด้านการศึกษานั้นนายรณชัย เรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนบ้านคูหา อ.สะบ้าย้อย และสำเร็จระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสะบ้าย้อยวิทยา อ.สะบ้าย้อย ก่อนที่จะเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่สถาบันเทคโนโลยี คณะเกษตร สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นจึงศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และก่อนเสียชีวิตกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่มหาวิทราลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ
