ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “พันธมิตรสงขลาฯ” ยังไม่รื้อเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเมืองภาคประชาชน ณ ลานประวัติศาสตร์ หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ ประกาศยังให้คงความเป็นศูนย์กลางการระดมพลังพี่น้องประชาชนร่วมต่อสู้กับ “ระบอบทักษิณ” จนกว่าจะเห็นพัฒนาการสู่การเมืองใหม่ที่ชัดเจน เผยหลังจากสิ้นเสียงอ่านคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้ยุบ 3 พรรคการเมืองทาสทรราชทักษิณ “พลังประชาชน-ชาติไทย-มัชฌิมาประชาธิปไตย” เสียงไชโยโห่ร้องสลับกับเสียงก้องกังวานของประทัดนับแสนดอก ยังคงดังสนั่นทั่วเมืองหาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ด้านแกนนำพันธมิตรฯ “สมศักดิ์-สมเกียรติ” ยันจะควงแขนร่วมส่งศพ 2 วีรชนคนใต้กู้ชาติ “โบ-รณชัย” สู่สรวงสวรรค์ 8-9 ธ.ค.
พลันที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษาคดีประวัติศาสตร์ ที่มีคำสั่งให้ยุบ 3 พรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนและอยู่ภายใต้ปีกโอบของระบอบทักษิณ ซึ่งได้รวมตัวประกอบกันขึ้นเป็นรัฐบาลทรราช หุ่นเชิด ขายชาติ และเข่นฆ่าประชาชน ได้แก่ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ส่งผลให้ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์เสียงไชโยโห่ร้องของผองพี่น้องพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย ดังสะนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งเมืองหาดใหญ่ สลับกับเสียงก้องกัมปนาทของประทัดที่ถูกจุดขึ้นต่อเนื่องนับแสนดอกไปแล้ว ณ เวทีลานประวัติศาสตร์การเมืองภาคประชาชน หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่
เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้เมืองหาดใหญ่จะเป็นส่วนหนึ่งของผืนแผ่นดินชายแดนใต้ ซึ่งในเวลานี้ไฟใต้ระลอกใหม่ที่ถูกจุดขึ้นโดยระบอบทักษิณจะยังโชนเปลวอยู่ แต่การจุดประทัดนับแสนๆ ดอกไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือช่วงค่ำๆ ย่ำเข้าสู่กลางคืน เพื่อฉลองชัยชนะของผองพี่น้องพันธมิตรสงขลาฯก็ดำเนินไปอย่างมิได้หวั่นวิตกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ แล้วเมืองหาดใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นแหล่งรวมของศาลเจ้าจีนมากที่สุดของเมืองต่างๆ ในภาคใต้ ขณะที่เสียงประทัดแห่งการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบรรดาพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมถึงนักท่องเที่ยวสายเลือดมังกรจากมาเลเซียและสิงคโปร์เคยก้องกังวานไปทั่วเมือง ทว่าห้วงสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านพ้นเสียงประทัดแห่งการเฉลิมฉลองชัยชนะการเมืองภาคประชาชน กลับกัมปนาทต่อเนื่องกัน จบแทบจะกลบเสียงประทัดแห่งการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปเสียหมด
ห่อประทัดสีแดงถูกทยอยหอบหิ้วมามอบให้แก่เวทีพันธมิตรสงขลาฯ ณ ลานประวัติศาสตร์ หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ตั้งแต่ก่อนวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ของพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาให้ยุบ 3 พรรคการเมืองทาสในเรือนเบี้ยของระบอบทักษิณ ด้วยพี่น้องพันธมิตรสงขลาฯต่างมั่นใจว่าการต่อสู้ของประชาชนที่อยู่บนฐานของธรรมะจะต้องชนะอธรรมอย่างแน่นอน และยิ่งหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาคดีประวัติศาสตร์นี้แล้ว ห่อสีแดงของประทัดทั้งขนาดเล็กและใหญ่ยิ่งหลั่งไหลมาแบบไม่ขาดสาย
“พี่น้องพันธมิตรสงขลาฯเราหิ้วประทัดมาให้ตั้งแต่ก่อนวันศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน เพื่อให้มารอไว้สำหรับจุดแสดงความยินดีในชัยชนะของประชาชน เราเองก็ไม่แปลกใจ เพราะพี่น้องพันธมิตรสงขลาฯ เราลุกขึ้นต่อสู้กับระบอบทักษิณมาต่อเนื่องและยาวนาน ขนาดเวทีหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ยังตั้งขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม ก่อนที่พันธมิตรนัดรวมพลพี่น้องทั่วประเทศในวันที่ 25 พฤษภาคม เสียอีก พี่น้องพันธมิตรฯที่นี่รู้และเข้าใจ และสามารถอ่านความเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ล่วงหน้าด้วย” นายสาโรจน์ รักจันทร์ คณะทำงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย บอกเล่าให้ฟัง
สำหรับห่อแดงของประทัดที่หลั่งไหลเข้าสู่เวทีพันธมิตรสงขลาฯ มีตั้งแต่ห่อประทัดขนาด 500 ดอก, 1,000 ดอก, 2,000 ดอก, 5,000 ดอก และใหญ่สุดขนาด 10,000 ดอก และห่อใหญ่ๆ ก็มีอัตรามากกว่าห่อเล็กๆ เสียด้วยซ้ำ โดยตลอดวันที่ 2 ธันวาคม ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาเปลือกกระดาษสีแดงที่ห่อดินปืน กระจัดกระจายเกลื่อนหน้าเวทีขนาดภูเขาย่อมๆ เลยทีเดียว แต่พอล่วงวันที่ 3 ธันวาคม ที่พันธมิตรสงขลาฯ มีการจัดงานฉลองชัยชนะ ภูเขาซากเศษประทัดที่ถูกจุดหน้าเวทียิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม แม้จนวันนี้ก็ยังมีพี่น้องหิ้วหอบห่อประทัดมาให้คณะทำงานพันธมิตรสงขลาฯจุดอยู่อีก
เดินหน้าเวที ลานประวัติศาสตร์ต่อ
ด้านเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเมืองภาคประชาชน ณ ลานประวัติศาสตร์ หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ ของพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย นายสาโรจน์กล่าวว่า แม้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะปิดทุกเวทีการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯทั่วประเทศไปแล้ว แต่เวทีของพันธมิตรสงขลาฯจะยังไม่มีการรื้อเก็บแต่อย่างใด โดยจะยังคงเปิดเวทีที่มีการถ่ายทอดรายการดีๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ และข้อมูลข่าวสารทางการเมืองจาก ASTV ให้พี่น้องประชาชนได้ชมกันต่อไป เนื่องจากคณะทำงานพันธมิตรสงขลาฯประเมินแล้วเห็นว่า พิษสงของระบอบทักษิณจะยังไม่หมดไป และเชื่อว่าอีกไม่นานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต้องระดมพลลุกขึ้นสู้อีกระลอก
“เราจะเปิดเวทีหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ไปตลอด จะไม่มีการปิดเวที ก็เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่ หรือการเมืองภาคประชาชนที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะยังกำหนดไม่ได้ว่าการสร้างการเมืองใหม่ตอนนี้จะใช้เวลาเท่าไรกันแน่ สำหรับเวทีนี้ชัดเจน เราพันธมิตรสงขลาฯประกาศชัดเจนว่าจะคงสภาพเวทีนี้ไว้ให้ประชาชนอย่างแน่นอน” นายสาโรจน์กล่าว
ส่วน นางพัฒนี จันทรโชติ คณะทำงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตยอีกคนหนึ่ง เพิ่มเติมว่า เวทีพันธมิตรสงขลาฯเราอยู่ตรงนี้กันมานานแล้ว เราก็น่าจะมาเรียนรู้กันต่อ แล้วพี่น้องพันธมิตรสงขลาฯเราที่เขามากันทุกวัน เขาก็ติดกับพื้นที่ตรงนี้แล้ว เขายังต้องการที่จะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ว่าอนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไร จะวางแนวทางการเมืองใหม่กันอย่างไร หมายความว่าเมื่อเราเลือกตั้งกันเสร็จก็ต้องเรียนรู้ว่าใครเป็นอย่างไร เขาจะทำอย่างไรกับเรา ซึ่งก็ต้องทำให้การเมืองดีกว่าเดิม ถ้าทำแล้วไม่ดีกว่าเดิมแล้วเราจะสู้กันไปทำไม
ด้าน นายสุมิตร นวลมณี ผู้ประสานงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย กล่าวเสริมว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นระยะการเฉลิมฉลอง ซึ่งวันนี้ ( 6 ธ.ค.)พี่น้องพันธมิตรจังหวัดสตูลก็จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองใหญ่ แล้ววันที่ 7 ธันวาคม ก็เป็นคิวของพี่น้องพันธมิตรจังหวัดภูเก็ต แต่หลังจากนั้น ก็คงเป็นเรื่องของการร่วมไว้อาลัยต่อศพวีรชนคนใต้กู้ชาติ ซึ่งได้เสียชีวิตจากการเข้าร่วมต่อสู้กับพี่น้องพันธมิตรฯ ทั่วประเทศที่กรุงเทพฯ ตอนนี้เหลืออีก 2 วีรชนคือ น.ส.กมลวรรณ หมื่นหนู หรือ น้องโบ กับ นายรณชัย ไชยศรี
“ผมได้รับการติดต่อมาแล้วว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะส่ง 2 ตัวแทนมาร่วมงานฌาปนกิจศพ 2 วีรชนคนใต้กู้ชาติ คือ พี่สมศักดิ์ โกศัยสุข กับ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งจะเดินทางไปร่วมพร้อมๆ พี่น้องพันธมิตรสงขลาฯและจังหวัดใกล้เคียง โดยวันที่ 8 ธันวาคม จะไปร่วมพิธีเผาศพ น.ส.กมลวรรณ หมื่นหนู หรือน้องโบ ที่วัดทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จากนั้นวันที่ 9 ธันวาคม จะไปร่วมพิธีเผาศพน้องรณชัย ไชยศรี ที่วัดคูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยพันธมิตรสงขลาฯจะจัดรถบัสนำพี่น้องเราร่วมเดินทางไป” นายสุมิตร กล่าวในที่สุด