เศรษฐกิจทั่วโลกส่อเค้าอาการลำบากสาหัสหนักขึ้นอีกเมื่อวันพฤหัสบดี(20) ภายหลังสหรัฐฯแถลงตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงของภาวะเงินฝืดและความอ่อนแอกำลังเพิ่มมากขึ้น แถม "เฟด" ยังออกปากถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการถดถอยยาวนาน ขณะที่ทางฟากญี่ปุ่นก็ระบุว่า การส่งออกสู่เอเชียกำลังทรุดเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี และการปลดพนักงานก็กำลังมากขึ้น
เมื่อวันพุธ(19) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯรายงานว่า ราคาผู้บริโภคของอเมริกาดิ่งลงไป 1% ในเดือนตุลาคม อันเป็นการลดลงต่อเดือนที่มากที่สุดตั้งแต่ทางกระทรวงเริ่มรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 1947
ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯก็ระบุว่า ที่อยู่อาศัยใหม่ก็ลดจำนวนลงมา 4.5% เมื่อเทียบกับปีต่อปีหรืออยู่ที่เท่ากับ 791,000 หน่วยเท่านั้น นับเป็นอัตราเพิ่มที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มรายงานมาในปี 1959
รายงานทั้งสองนั้นแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังอ่อนแอลงมากกว่าที่ได้คาดไว้เดิม ซึ่งจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆของประเทศในไตรมาสที่สี่และหลังจากนี้ลดน้อยลงอย่างมาก
"อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่หดตัวพร้อมทั้งเงินเฟ้อที่ดิ่งลงด้วย ทำให้เริ่มมีเสียงพูดหนาหูถึงภาวะเงินฝืด" เจนนิเฟอร์ ลี จากบีเอ็มโอ แคปปิตอล มาร์เก็ตส์กล่าว "และคาดว่าภาพรวมในไตรมาสที่ปีนี้จะอัปลักษณ์ยิ่ง"
ในขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ก็ลดประมาณการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้าลง ซึ่งตอกย้ำความเป็นไปได้ที่ว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะถดถอยรุนแรง ในขณะที่แง้มประตูสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเอาไว้
เมื่อวันพุธ(19) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯรายงานว่า ราคาผู้บริโภคของอเมริกาดิ่งลงไป 1% ในเดือนตุลาคม อันเป็นการลดลงต่อเดือนที่มากที่สุดตั้งแต่ทางกระทรวงเริ่มรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 1947
ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯก็ระบุว่า ที่อยู่อาศัยใหม่ก็ลดจำนวนลงมา 4.5% เมื่อเทียบกับปีต่อปีหรืออยู่ที่เท่ากับ 791,000 หน่วยเท่านั้น นับเป็นอัตราเพิ่มที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มรายงานมาในปี 1959
รายงานทั้งสองนั้นแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังอ่อนแอลงมากกว่าที่ได้คาดไว้เดิม ซึ่งจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆของประเทศในไตรมาสที่สี่และหลังจากนี้ลดน้อยลงอย่างมาก
"อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่หดตัวพร้อมทั้งเงินเฟ้อที่ดิ่งลงด้วย ทำให้เริ่มมีเสียงพูดหนาหูถึงภาวะเงินฝืด" เจนนิเฟอร์ ลี จากบีเอ็มโอ แคปปิตอล มาร์เก็ตส์กล่าว "และคาดว่าภาพรวมในไตรมาสที่ปีนี้จะอัปลักษณ์ยิ่ง"
ในขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ก็ลดประมาณการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้าลง ซึ่งตอกย้ำความเป็นไปได้ที่ว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะถดถอยรุนแรง ในขณะที่แง้มประตูสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเอาไว้