นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กัมพูชาทำหนังสือฟ้องยูเนสโกว่า ทหารไทยเป็นผู้ยิงอาวุธเข้าไปในเขตปราสาทพระวิหารก่อนนั้น ขอตรวจสอบข่าวดังกล่าวก่อนว่า กัมพูชาได้ร้องไปยังยูเนสโกจริงหรือไม่ และระหว่างการปะทะ ต้องดูว่ามีการโต้ตอบทางอาวุธหรือไม่ ทั้งนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า กัมพูชานำทหารเข้าไปบริเวณปราสาทพระวิหารหลายร้อยนาย โดยมีทั้งอาวุธสงครามและปืนใหญ่ ซึ่งจากรายงานข่าวมีการยิงจรวดอาร์พีจีลงมาจากปราสาทพระวิหาร เข้ามายังฝ่ายไทยด้วย และหากเป็นเช่นนั้น เป็นสิทธิที่ไทยจะป้องกันตัวได้
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยเตรียมชี้แจงเรื่องดังกล่าว และกระทรวงการต่างประเทศกำลังตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดว่า กัมพูชามีกำลังทหารโดยรอบปราสาทจำนวนเท่าใด รวมถึงมีอาวุธอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม หากมีการตั้งฐานทัพบริเวณปราสาทพระวิหารทั้งที่เป็นมรดกโลก จะถือเป็นการขัดต่ออนุสัญญามรดกโลกหรือไม่ ตรงนี้ยูเนสโกจะเป็นผู้ตรวจสอบ ไทยไม่จำเป็นต้องทำหนังสือร้องไป
ส่วนการประชุมร่วมของรัฐสภาเพื่อพิจารณากรอบการเจรจาไทย-กัมพูชาวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) นั้น นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ไม่ได้เป็นการพิจารณาสาระทั้งหมดของการเจรจา เป็นเพียงการพิจารณาให้ความเห็นชอบในกรอบที่ทั้งสองฝ่ายจะหารือกัน และในรื่องการปักปันเขตแดน จะพิจารณากรอบแนวทางเพื่อการเจรจาไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน และเพื่อขออนุมัติจากรัฐสภาเพื่อให้ฝ่ายไทยเจรจากับฝ่ายกัมพูชาได้
เบื้องต้นหากรัฐสภาอนุมัติ คณะกรรมการฝ่ายไทยจะสามารถดำเนินการเจรจาได้ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาและอุปสรรคของรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร เราต้องปฏิบัติตาม
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยเตรียมชี้แจงเรื่องดังกล่าว และกระทรวงการต่างประเทศกำลังตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดว่า กัมพูชามีกำลังทหารโดยรอบปราสาทจำนวนเท่าใด รวมถึงมีอาวุธอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม หากมีการตั้งฐานทัพบริเวณปราสาทพระวิหารทั้งที่เป็นมรดกโลก จะถือเป็นการขัดต่ออนุสัญญามรดกโลกหรือไม่ ตรงนี้ยูเนสโกจะเป็นผู้ตรวจสอบ ไทยไม่จำเป็นต้องทำหนังสือร้องไป
ส่วนการประชุมร่วมของรัฐสภาเพื่อพิจารณากรอบการเจรจาไทย-กัมพูชาวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) นั้น นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ไม่ได้เป็นการพิจารณาสาระทั้งหมดของการเจรจา เป็นเพียงการพิจารณาให้ความเห็นชอบในกรอบที่ทั้งสองฝ่ายจะหารือกัน และในรื่องการปักปันเขตแดน จะพิจารณากรอบแนวทางเพื่อการเจรจาไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน และเพื่อขออนุมัติจากรัฐสภาเพื่อให้ฝ่ายไทยเจรจากับฝ่ายกัมพูชาได้
เบื้องต้นหากรัฐสภาอนุมัติ คณะกรรมการฝ่ายไทยจะสามารถดำเนินการเจรจาได้ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาและอุปสรรคของรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร เราต้องปฏิบัติตาม
