เมื่อเวลา10.00 น.วานนี้ (27ต.ค.) คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐ) และคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา(วิปวุฒิ) ได้มีการประชุมร่วมกัน เพื่อกำหนดกรอบการประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณากรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราวไทย– กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร และกรอบการเจรจาสำรวจ และหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา โดยเชิญนายวีระศักด์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายวีรชัย พลาศัย อธิบดีกรมสนธิสัญญา และกฎหมายระหว่างประเทศ และผู้แทนกระทรวงกลาโหม มาชี้แจง
นายวีระศักดิ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ตนได้ให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับกรอบการเจรจา และมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ที่มีการหารือกันระหว่างรมว.ต่างประเทศของทั้งสองประเทศ ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนมีมาตรการชั่วคราวร่วมกัน เพื่อสร้างความมั่นใจ และลดการเผชิญหน้า รวมทั้งกรอบการเจรจาของ JBC ที่มีการเพื่อนำไปสู่การหารือ ปักปันเขตแดนพื้นที่เฉพาะปราสาทพระวิหาร หากรัฐสภาผ่านกรอบข้อตกลงทั้งสอง ทางกระทรวงต่างประเทศ จะประสานไปยังฝ่ายกัมพูชา เพื่อขอเปิดการเจรจา JBC ได้ประมาณกลางเดือนพ.ย.นี้
นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวภายหลังการประชุมว่า ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันนี้ (28 ต.ค.) ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีความเห็นว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง กรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราวไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนบริเวณเขาพระวิหาร และกรอบการเจรจาสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา ตลอดแนว ในกรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา และกลไกอื่นๆ ภายใต้กรอบนี้ เป็นหลัก ซึ่งการพิจารณาดังกล่าวคงจะใช้เวลานานพอสมควร
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่านค้าน กล่าวว่าในการประชุมวันนี้ พรรคจะซักถามโดยมีเป้าหมายปกป้องอธิปไตยบูรณภาพดินแดนประเทศไทย โดยจะถามรัฐบาลและนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ต่างประเทศว่า จะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติ หรือกลุ่มประโยชน์ที่เกี่ยวกับพวกพ้องของตน
**รัฐบาลอ่อนแอ ทำเขมรรุกคืบ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลกัมพูชา ยื่นเรื่องต่อยูเนสโก ที่กล่าวหาว่า ทหารไทยสร้างความเสียหายให้กับปราสาทพระวิหาร ว่า รัฐบาลไทยอ่อนแอ ทำให้กัมพูชาเข้ารุกรานทั้งการเมือง และการทูต และพร้อมที่จะรุกทางทหาร ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ ทหาร กำลังรบก็มีมากกว่า ซึ่งไม่ได้มีไว้เพื่อรบ แต่มีไว้เพื่อการหนุนกำลังการต่อรอง
"ทหารไทยรูปร่างกำยำ ล่ำสัน สู้กับเด็กตัวเล็กนิดเดียวอย่างเขมรไม่ได้ ถูกตะโกนด่าเอาด่าเอา เตะเอา เตะเอา ทหารไทยก็เฉย ใหญ่แต่กาย แต่ใจอ่อนแอ ถ้าขืนมีรัฐบาลอย่างนี้ต่อไปก็เสียหมด เขมรจะฟ้องเราอย่างไรก็ได้ เพราะเราเป็นลูกไล่เขามาตลอด" พล.ต.จำลองกล่าว
**ผบ.ทบ.เขมรพบอนุพงษ์
พ.ต.หญิงศิริยา เขื่องศิริกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก แถลงยืนยันว่า ฝ่ายไทยไม่เคยมีการยิงอาวุธหนักเข้าไปในบริเวณปราสาทพระวิหาร หรือบริเวณใกล้เคียงตามที่โฆษกรัฐบาลกัมพูชาได้นำเสนอข่าวเรื่องการปะทะกันตามแนวชายแดนบริเวณผามออีแดง และภูมะเขือ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นผลให้บันไดนาคบริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจะมีกำลังทหารกัมพูชากว่า100 นาย และมีการตั้งอาวุธยิงบริเวณติดปราสาทพระวิหาร ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับปราสาทเขาพระวิหารตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง อาจเกิดจากการยิงอาวุธหนักของกัมพูชาเองในพื้นที่นั้นก็เป็นได้
"หากกัมพูชาเห็นว่าปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งมีความสำคัญกับกัมพูชา ก็ไม่ควรนำอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะปืนไร้แสงสะท้อน ถอยหลัง และเครื่องยิงลูกระเบิด ซึ่งเป็นอาวุธหนัก ตลอดจนส่วนส่วนควบคุมกัมพูชาทางยุทธวิธีไปตั้งอยู่บริเวณพื้นที่อนุรักษ์ดังกล่าว" พ.ต.หญิงศิริยากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวานนี้ พล.อ.เมี๊ยะ สุเพียะ ผบ.ทบ. กัมพูชา ได้เดินทางมาหารืออย่างไม่เป็นทางการกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่บ้านพักรับรองเกษะโกมล เพื่อหารือถึงปัญหาการวางกำลังทหารในพื้นที่พิพาท และ เหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างทั้งสองฝ่ายในห้วงเวลาที่ผ่านมา
นายวีระศักดิ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ตนได้ให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับกรอบการเจรจา และมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ที่มีการหารือกันระหว่างรมว.ต่างประเทศของทั้งสองประเทศ ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนมีมาตรการชั่วคราวร่วมกัน เพื่อสร้างความมั่นใจ และลดการเผชิญหน้า รวมทั้งกรอบการเจรจาของ JBC ที่มีการเพื่อนำไปสู่การหารือ ปักปันเขตแดนพื้นที่เฉพาะปราสาทพระวิหาร หากรัฐสภาผ่านกรอบข้อตกลงทั้งสอง ทางกระทรวงต่างประเทศ จะประสานไปยังฝ่ายกัมพูชา เพื่อขอเปิดการเจรจา JBC ได้ประมาณกลางเดือนพ.ย.นี้
นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวภายหลังการประชุมว่า ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันนี้ (28 ต.ค.) ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีความเห็นว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง กรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราวไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนบริเวณเขาพระวิหาร และกรอบการเจรจาสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา ตลอดแนว ในกรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา และกลไกอื่นๆ ภายใต้กรอบนี้ เป็นหลัก ซึ่งการพิจารณาดังกล่าวคงจะใช้เวลานานพอสมควร
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่านค้าน กล่าวว่าในการประชุมวันนี้ พรรคจะซักถามโดยมีเป้าหมายปกป้องอธิปไตยบูรณภาพดินแดนประเทศไทย โดยจะถามรัฐบาลและนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ต่างประเทศว่า จะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติ หรือกลุ่มประโยชน์ที่เกี่ยวกับพวกพ้องของตน
**รัฐบาลอ่อนแอ ทำเขมรรุกคืบ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลกัมพูชา ยื่นเรื่องต่อยูเนสโก ที่กล่าวหาว่า ทหารไทยสร้างความเสียหายให้กับปราสาทพระวิหาร ว่า รัฐบาลไทยอ่อนแอ ทำให้กัมพูชาเข้ารุกรานทั้งการเมือง และการทูต และพร้อมที่จะรุกทางทหาร ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ ทหาร กำลังรบก็มีมากกว่า ซึ่งไม่ได้มีไว้เพื่อรบ แต่มีไว้เพื่อการหนุนกำลังการต่อรอง
"ทหารไทยรูปร่างกำยำ ล่ำสัน สู้กับเด็กตัวเล็กนิดเดียวอย่างเขมรไม่ได้ ถูกตะโกนด่าเอาด่าเอา เตะเอา เตะเอา ทหารไทยก็เฉย ใหญ่แต่กาย แต่ใจอ่อนแอ ถ้าขืนมีรัฐบาลอย่างนี้ต่อไปก็เสียหมด เขมรจะฟ้องเราอย่างไรก็ได้ เพราะเราเป็นลูกไล่เขามาตลอด" พล.ต.จำลองกล่าว
**ผบ.ทบ.เขมรพบอนุพงษ์
พ.ต.หญิงศิริยา เขื่องศิริกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก แถลงยืนยันว่า ฝ่ายไทยไม่เคยมีการยิงอาวุธหนักเข้าไปในบริเวณปราสาทพระวิหาร หรือบริเวณใกล้เคียงตามที่โฆษกรัฐบาลกัมพูชาได้นำเสนอข่าวเรื่องการปะทะกันตามแนวชายแดนบริเวณผามออีแดง และภูมะเขือ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นผลให้บันไดนาคบริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจะมีกำลังทหารกัมพูชากว่า100 นาย และมีการตั้งอาวุธยิงบริเวณติดปราสาทพระวิหาร ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับปราสาทเขาพระวิหารตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง อาจเกิดจากการยิงอาวุธหนักของกัมพูชาเองในพื้นที่นั้นก็เป็นได้
"หากกัมพูชาเห็นว่าปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งมีความสำคัญกับกัมพูชา ก็ไม่ควรนำอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะปืนไร้แสงสะท้อน ถอยหลัง และเครื่องยิงลูกระเบิด ซึ่งเป็นอาวุธหนัก ตลอดจนส่วนส่วนควบคุมกัมพูชาทางยุทธวิธีไปตั้งอยู่บริเวณพื้นที่อนุรักษ์ดังกล่าว" พ.ต.หญิงศิริยากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวานนี้ พล.อ.เมี๊ยะ สุเพียะ ผบ.ทบ. กัมพูชา ได้เดินทางมาหารืออย่างไม่เป็นทางการกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่บ้านพักรับรองเกษะโกมล เพื่อหารือถึงปัญหาการวางกำลังทหารในพื้นที่พิพาท และ เหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างทั้งสองฝ่ายในห้วงเวลาที่ผ่านมา
