“วิปรัฐ” ขอไถ่บาป! สั่งแขวนร่าง “หมอเหวง” หวั่นนองเลือดซ้ำ

คกก.ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ไม่กล้าสวนกระแส โยนกลับร่างรัฐธรรมนูญแก้ 291 ให้คณะกรรมการยกร่างฯ และตัวแทนแต่ละพรรคพิจารณาคุณสมบัติตัวแทนทั้ง 76 จังหวัด เหตุกลัวบล็อกโหวต สารภาพบาปอาจจำเป็นต้องแขวนร่าง “หมอเหวง” โดยไม่มีกำหนด เกรงซ้ำรอยนโยบายเปื้อนเลือด

วันนี้ (27 ต.ค.) คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐ) และคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา (วิปวุฒิ) ได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดกรอบการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณากรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราวไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร และกรอบการเจรจาสำรวจและหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา โดยเชิญนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายวีรชัย พลาศัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศ และผู้แทนกระทรวงกลาโหมมาชี้แจง

นายวีระศักดิ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ตนได้ให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับกรอบการเจรจาและมาตรการคุ้มครองชั่วคราวที่มีการหารือกันระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งของประเทศที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนมีมาตรการชั่วคราวร่วมกัน เพื่อสร้างความมั่นใจและลดการเผชิญหน้า รวมทั้งกรอบการเจรจาของ JBC ที่มีการเพื่อนำไปสู่การหารือปักปั่นเขตแดนพื้นที่เฉพาะปราสาทพระวิหาร หากรัฐสภาผ่านกรอบข้อตกลงทั้งสองน้างกระทรวงต่างประเทศจะประสานไปยังฝ่ายกัมพูชาเพื่อขอเปิดการเจรจา JBC ได้ประมารกลางเดือนพฤศจิกายนนี้

นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีความเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพิจารณาญัตติด่วนเรื่องกรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราวไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนบริเวณเขาพระวิหาร และกรอบการเจรจาสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชาตลอดแนว ในกรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา และกลไกอื่นๆ ภายใต้กรอบนี้เป็นหลัก ซึ่งการพิจารณาดังกล่าวคงจะใช้เวลานานพอสมควร ส่วนการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย แก้ไขเพิ่มเติม ที่เสนอคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 (คปพร.) วิปยังไม่ได้พิจารณาว่าจะนำมาพิจาณาเมื่อใด

นายวิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 นั้น ทางวิปรัฐบาลได้มอบร่างที่คณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วให้ตัวแทนพรรคการเมืองกลับไปพิจารณา ทั้งนี้คาดว่าจะต้องมีการแก้ไขร่างในบางส่วน อาทิ คุณสมบัติและที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในประเด็นที่ให้สมาชิกพรรคการเมืองเป็น ส.ส.ร.ได้หรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นการจำกัดคุณสมบัติของคนส่วนใหญ่ รวมถึงสัดส่วนของตัวแทนภาควิชาการแขนงต่างๆ ฯลฯ จึงคาดว่าจะต้องใช้เวลาพิจารณาพอสมควรโดยต้องรับฟังความเห็นจากพรรคร่วมรัฐบาล และส.ว. ส่วนกรอบเวลาในการทำงานของ ส.ส.ร.ที่ประชุมเห็นชอบตามกรอบเวลา 180 วัน

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าจะมีการหยิบยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามาพิจาณาในวันที่ 5 พ.ย.นี้ นายวิทยา กล่าวว่า คงไม่สามารถนำร่างดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาได้ในวันนี้ 5 พ.ย.เพราะร่างยังไม่เสร็จ คงต้องพิจารณาให้ละเอียดก่อน

“สำหรับความพร้อมเรื่องรายชื่อผู้สนับสนุนญัตติมีความพร้อมอยู่แล้ว ส่วนจะยื่นเมื่อใดขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างฯ” นายวิทยา กล่าว

นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคมัชฌิมาธิปไตย ในฐานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า ตัวแทนจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลและวุฒิสภา ยกเว้นตัวแทนจากพรรคพลังประชาชนมีความเห็นคัดค้านการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ของนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ โดยเฉพาะคุณสมบัติของ ส.ส.ร.เรื่องที่มาตัวแทนของ ส.ส.ร.จังหวัด เนื่องจากเกรงว่าจะมีการบล็อกโหวตและเกรงว่าหากไม่มีความโปร่งใสและถูกต่อต้าน นอกจากนี้ ตนยังได้เสนอว่าการตั้ง ส.ส.ร.ครั้งนี้ไม่ควรให้ ส.ส.ร.50 สนช. และส.ส.ส.ว.เข้ามาเกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับตน ส่วนเรื่องคุณสมบัติของตัวแทนจังหวัดในเรื่องการสังกัดพรรคการเมืองนั้น ที่ประชุมเห็นว่าไม่ควรที่จะไปกำหนดเพราะถือว่าเป็นการปิดกั้นคนส่วนใหญ่ โดยได้มอบหมายให้แต่ละพรรค รวมถึง ส.ว.กลับไปคิดเรื่องรูปแบบและคุณสมบัติ ส.ส.ร.เพื่อนำมาพิจารณาใหม่ในวันที่ 3 พ.ย.นี้

“ที่ประชุมได้มีการหารือว่าจะไม่มีการนำร่างฉบับที่ คปพร.เสนอเข้าสู่การพิจารณาเพราะเกรงว่าจะเกิดกระแสต่อต้านและสร้างความขัดแย้งมากขึ้น ดังนั้นก็จะไม่มีการนำเข้าพิจารณาแต่จะเป็นการเลื่อนออกไปเรื่อยๆ หรือแขวนไว้ เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง เพราะเราก็รู้กันอยู่ว่าหมอเหวงอยู่ข้างฝ่ายไหน โดยการเลื่อนนี้สามารถเลื่อนวาระออกไปได้ถึง 4 ปี” นายเกียรติกร กล่าว