กระทรวงการต่างประเทศออกเอกสารชี้แจงกรณีที่ หนังสือพิพม์ข่าวสด และหนังสือพิมพ์อรุณรัศมีของกัมพูชารายงานว่า ทหารไทยได้ยิงเครื่องยิงลูกระเบิดตกบริเวณปราสาทพระวิหาร ทำให้บันไดนาคได้รับความเสียหาย และจะยกเรื่องนี้ร้องเรียนต่อองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากกองทัพภาคที่ 2 ได้รับการชี้แจงว่า เมื่อวันที่15 ตุลาคม 2551 ตามที่มีการปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา บริเวณผามออีแดง ทหารไทยได้ใช้เพียงอาวุธปืนเล็กยาวในการตอบโต้ทหารกัมพูชา ไม่มีการใช้อาวุธหนัก หรือเครื่องยิงลูกระเบิดยิงเข้าใส่ในบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง
ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาได้มีการยิงอาวุธใส่ทหารไทย ที่ตั้งมั่นอยู่ในบริเวณสถูปคู่ ใกล้ผามออีแดงด้วยปืนไร้แรงสะเทือน และเครื่องยิงลูกระเบิดอาร์พีจี โดยปรากฏว่า ระเบิดส่วนหนึ่งตกใกล้สถูปคู่ ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และมีระเบิดอีกส่วนหนึ่ง ตกเข้าไปในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร บริเวณลานชมดาว และบ้านพักของอุทยาน ซึ่งฝ่ายไทยพบว่า มีระเบิดอาร์พีจี 2 ลูก ที่ตกลงพื้นแต่ไม่ระเบิด โดยฝ่ายไทยได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลไทยที่ประจำการในต่างประเทศ เพื่อชี้แจงข้อมูลต่อนานาชาติแล้ว
ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาได้มีการยิงอาวุธใส่ทหารไทย ที่ตั้งมั่นอยู่ในบริเวณสถูปคู่ ใกล้ผามออีแดงด้วยปืนไร้แรงสะเทือน และเครื่องยิงลูกระเบิดอาร์พีจี โดยปรากฏว่า ระเบิดส่วนหนึ่งตกใกล้สถูปคู่ ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และมีระเบิดอีกส่วนหนึ่ง ตกเข้าไปในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร บริเวณลานชมดาว และบ้านพักของอุทยาน ซึ่งฝ่ายไทยพบว่า มีระเบิดอาร์พีจี 2 ลูก ที่ตกลงพื้นแต่ไม่ระเบิด โดยฝ่ายไทยได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลไทยที่ประจำการในต่างประเทศ เพื่อชี้แจงข้อมูลต่อนานาชาติแล้ว