นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แถลงผลประชุมคณะกรรมการบีโอไอ ว่า การพิจารณาคำขอรับส่งเสริมการลงทุนครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก หลังจากคณะกรรมการบีโอไอ ไม่ได้พิจารณาอนุมัติโครงการเป็นเวลา 8-9 เดือน การเร่งรัดลงทุนภาคเอกชนครั้งนี้ เพื่อเป็นกลไกอุดหนุนเศรษฐกิจไทยสู้กับภัยเศรษฐกิจโลกไม่ให้ทรุดตัวมากนัก และสามารถประคับประคองให้ฟื้นตัวในอนาคต โดยวันนี้ (17 ต.ค.) ได้มีการอนุมัติ 5 โครงการ มูลค่ารวม 11,663 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเดินหน้าตามแนวทาง 6 มาตรการกู้วิกฤติสถาบันการเงินโลก
สำหรับ 5 โครงการที่ได้รับการอนุมัติ ประกอบด้วย บริษัท เมโทร (ปาร์ติเกิล) จำกัด ผลิตไม้แผ่นอัดปาร์ติเกิลบอร์ด วงเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท บริษัท ขอนแก่นกล๊าส อินดัสทรี จำกัด ผลิตขวดแก้ว วงเงิน 1,720 ล้านบาท บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด ลงทุนขยายกิจการผลิตแผ่นยิปซัม เพื่อใช้ในงานก่อสร้าง มูลค่าลงทุน 1,095 ล้านบาท นายฮิโรโนริ มิชิฟูชิ ได้รับการส่งเสริมผลิตชิ้นส่วนเหล็กหล่อ มูลค่าลงทุน 2,816 ล้านบาท และบริษัทในกลุ่ม ปตท. คือ บริษัท พีทีที ยูทิลิตี้ จำกัด ขยายกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ไอน้ำ และน้ำร้อน มูลค่าลงทุน 4,032 ล้านบาท จังหวัดระยอง การลงทุนของ ปตท.ครั้งนี้ นับเป็น 1 ใน 6 มาตรการที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ว่า ปตท.จะลงทุน 30,000 ล้านบาท
ด้านนางอรรชกา ศรีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า 9 เดือนแรกปีนี้มีนักลงทุนยื่นคำขอรับการส่งเสริมลงทุนมูลค่ารวม 340,000 ล้านบาท และจนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีการยื่นคำขออีกประมาณ 100,000 ล้านบาท ปีหน้าจะเร่งผลักดันโครงการขนาดใหญ่ โดยปี 2552 ตั้งเป้าหมายการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวมประมาณ 650,000 ล้านบาท และตามที่บีโอไอยังอยู่ในช่วงปีแห่งการลงทุนก็จะเร่งให้เกิดการลงทุนด้วยการให้แรงจูงใจคือ ผู้ที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่ม เช่นผู้ที่ลงทุนในเขต 2 จะพิจารณาสิทธิเท่ากับเขต 3 ทั้งนี้ จะเน้นส่งเสริมลงทุนโครงการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทค
สำหรับ 5 โครงการที่ได้รับการอนุมัติ ประกอบด้วย บริษัท เมโทร (ปาร์ติเกิล) จำกัด ผลิตไม้แผ่นอัดปาร์ติเกิลบอร์ด วงเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท บริษัท ขอนแก่นกล๊าส อินดัสทรี จำกัด ผลิตขวดแก้ว วงเงิน 1,720 ล้านบาท บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด ลงทุนขยายกิจการผลิตแผ่นยิปซัม เพื่อใช้ในงานก่อสร้าง มูลค่าลงทุน 1,095 ล้านบาท นายฮิโรโนริ มิชิฟูชิ ได้รับการส่งเสริมผลิตชิ้นส่วนเหล็กหล่อ มูลค่าลงทุน 2,816 ล้านบาท และบริษัทในกลุ่ม ปตท. คือ บริษัท พีทีที ยูทิลิตี้ จำกัด ขยายกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ไอน้ำ และน้ำร้อน มูลค่าลงทุน 4,032 ล้านบาท จังหวัดระยอง การลงทุนของ ปตท.ครั้งนี้ นับเป็น 1 ใน 6 มาตรการที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ว่า ปตท.จะลงทุน 30,000 ล้านบาท
ด้านนางอรรชกา ศรีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า 9 เดือนแรกปีนี้มีนักลงทุนยื่นคำขอรับการส่งเสริมลงทุนมูลค่ารวม 340,000 ล้านบาท และจนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีการยื่นคำขออีกประมาณ 100,000 ล้านบาท ปีหน้าจะเร่งผลักดันโครงการขนาดใหญ่ โดยปี 2552 ตั้งเป้าหมายการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวมประมาณ 650,000 ล้านบาท และตามที่บีโอไอยังอยู่ในช่วงปีแห่งการลงทุนก็จะเร่งให้เกิดการลงทุนด้วยการให้แรงจูงใจคือ ผู้ที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่ม เช่นผู้ที่ลงทุนในเขต 2 จะพิจารณาสิทธิเท่ากับเขต 3 ทั้งนี้ จะเน้นส่งเสริมลงทุนโครงการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทค