บิวเดอสมาร์ทฯ เร่งขยายตลาดส่งออก เวียดนาม ตะวันออกกลางดันยอดขายส่งออกขยายตัว30-40% พร้อมตั้งโรงงานผลิตระบบประตูหน้าต่างในภูเก็ต พร้อมจับมือโรงงานเฟอร์นิเจอร์ผลิตเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศสร้างความครบวงจรธุรกิจ ล่าสุดเตรียมเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศ2ซีรี่ส์ในไตรมาส4 รองรับความต้องการตลาดออฟฟิศขยายตัวต่อเนื่อง แจงปี51เป้ายอดขายรวม 400 ล้านบาท
นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต และจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งภายใน กล่าวว่า เตรียมเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศใหม่2ซีรี่ส์ คือเฟอร์นิเจอร์กลุ่มโต๊ะประชุม โต๊ะทำงาน3 ซีรี่ส์ และกลุ่มเฟอร์นิเจอร์เก้าอีก3-4 ซีรี่ส์ เพื่อรองรับการขยายตัวตลาดออฟฟิศ ที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการเสริมบริการ ด้านการติดตั้งและออกแบบตกแต่งภายในออฟฟิศอย่างครบวงจร โดยบริษัทได้ร่วมทุนกับโรงงานผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ เพื่อผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์กลุ่มออฟฟิศ เจาะกลุ่มตลาดกลาง-บน เน้นด้านดีไซน์ และการคุณภาพเป็นหลัก
นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนตั้งโรงงานผลิตและพัฒนาระบบประตู หน้าต่างคุณภาพ แบรนด์ Fletcherในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัท เพื่อผลิตระบบประตู และหน้าต่าง รองรับการขยายตัวของตลาด โรงแรม รีสอร์ท และคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างสูง โดยโรงงานดังกล่าวมีกำลังการผลิตต่อปีประมาณ 50ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มเดินสายการผลิตได้เต็มที่ในไตรมาสที่4ของปีนี้
“ในปีนี้เราเน้นการทำตลาดสิ้นค้าในกลุ่มตกแต่งออฟฟิศ กลุ่มสิ้นค้าฝ้า ผนัง ซิปซัม และกลุ่มสินค้าระบบประตู หน้าต่างคุณภาพสูง เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีผลกำไร และให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มสินค้าอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า ตกแต่งออฟฟิศที่มีอัตรากำไรเบื้องต้นสูงถึง 30-35% ส่วนกลุ่มสินค้าฝ้า ผนังยิปซัม นั้นเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการขยายตัวสูง เนื่องจากมีความต้องการใช้งานในกลุ่มตลาดคอนโดมิเนียมจำนวนมาก”
สำหรับปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวม 400ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายได้จากการส่งออก30% และรายได้จาการขายในประเทศ 70% เติบโตจากปี50 ที่มียอดขายรวม 330 ล้านบาท 20-25% ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าจำหน่ายแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าตกแต่งออฟฟิศซึ่งแชร์ส่วนแบ่งรายได้รวมอยู่ 35% กลุ่มสินค้าฝ้า เพดาน ซิปซัม แชร์ส่วนแบ่งรายได้ 50% กลุ่มสินค้าสีคุณภาพสูง แชร์รายได้รวมอยู่ 3% กลุ่มผลิตภัณฑ์เอาท์ดอร์ 7% และกลุ่มระบบประตู หน้าต่าง5-10% โดยในสินค้าแต่ละกลุ่มนั้นจะเน้นการขายผ่าน กลุ่มนักออกแบบ สถาปนิก มัณฑนากร และกลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง และสมาชิกเมมเบอร์ซิป ซึ่งมีจำนวนกว่า 1,000 รายทั่วประเทศเป็นหลัก
ด้านนายเรซ ซูบรามาเนียม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ในปี52 บริษัทจะยังเน้นขยายตลาดกลุ่มสินค้าตกแต่งออฟฟิศ กลุ่มฝ้าผนังซิปซัม และกลุ่ม และการขยายตลาดส่งออกเป็นหลัก เพื่อผลักดันยอดขายของบริษัทให้เติบโต20-25% ตามนโยบายของบริษัท โดยไตรมาส4ของปีนี้บริษัทจะเปิดตลาดส่งออกในประเทศเวียดนาม และประเทศตะวันออกกลางเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีแผนจะจับมือกับโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างในอินเดีย เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง และภาษี โดยบริษัทจะจ้างผลิตสินค้าเพื่อขายในประเทศอินเดียแทนการส่งออกสินค้าในประเทศ ซึ่งจากการเปิดตลาดใหม่ดังกล่าวจะส่งผลให้ยอดส่งออกของบริษัทเติบโต30-40% ในปี52
นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต และจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งภายใน กล่าวว่า เตรียมเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศใหม่2ซีรี่ส์ คือเฟอร์นิเจอร์กลุ่มโต๊ะประชุม โต๊ะทำงาน3 ซีรี่ส์ และกลุ่มเฟอร์นิเจอร์เก้าอีก3-4 ซีรี่ส์ เพื่อรองรับการขยายตัวตลาดออฟฟิศ ที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการเสริมบริการ ด้านการติดตั้งและออกแบบตกแต่งภายในออฟฟิศอย่างครบวงจร โดยบริษัทได้ร่วมทุนกับโรงงานผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ เพื่อผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์กลุ่มออฟฟิศ เจาะกลุ่มตลาดกลาง-บน เน้นด้านดีไซน์ และการคุณภาพเป็นหลัก
นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนตั้งโรงงานผลิตและพัฒนาระบบประตู หน้าต่างคุณภาพ แบรนด์ Fletcherในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัท เพื่อผลิตระบบประตู และหน้าต่าง รองรับการขยายตัวของตลาด โรงแรม รีสอร์ท และคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างสูง โดยโรงงานดังกล่าวมีกำลังการผลิตต่อปีประมาณ 50ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มเดินสายการผลิตได้เต็มที่ในไตรมาสที่4ของปีนี้
“ในปีนี้เราเน้นการทำตลาดสิ้นค้าในกลุ่มตกแต่งออฟฟิศ กลุ่มสิ้นค้าฝ้า ผนัง ซิปซัม และกลุ่มสินค้าระบบประตู หน้าต่างคุณภาพสูง เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีผลกำไร และให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มสินค้าอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า ตกแต่งออฟฟิศที่มีอัตรากำไรเบื้องต้นสูงถึง 30-35% ส่วนกลุ่มสินค้าฝ้า ผนังยิปซัม นั้นเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการขยายตัวสูง เนื่องจากมีความต้องการใช้งานในกลุ่มตลาดคอนโดมิเนียมจำนวนมาก”
สำหรับปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวม 400ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายได้จากการส่งออก30% และรายได้จาการขายในประเทศ 70% เติบโตจากปี50 ที่มียอดขายรวม 330 ล้านบาท 20-25% ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าจำหน่ายแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าตกแต่งออฟฟิศซึ่งแชร์ส่วนแบ่งรายได้รวมอยู่ 35% กลุ่มสินค้าฝ้า เพดาน ซิปซัม แชร์ส่วนแบ่งรายได้ 50% กลุ่มสินค้าสีคุณภาพสูง แชร์รายได้รวมอยู่ 3% กลุ่มผลิตภัณฑ์เอาท์ดอร์ 7% และกลุ่มระบบประตู หน้าต่าง5-10% โดยในสินค้าแต่ละกลุ่มนั้นจะเน้นการขายผ่าน กลุ่มนักออกแบบ สถาปนิก มัณฑนากร และกลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง และสมาชิกเมมเบอร์ซิป ซึ่งมีจำนวนกว่า 1,000 รายทั่วประเทศเป็นหลัก
ด้านนายเรซ ซูบรามาเนียม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ในปี52 บริษัทจะยังเน้นขยายตลาดกลุ่มสินค้าตกแต่งออฟฟิศ กลุ่มฝ้าผนังซิปซัม และกลุ่ม และการขยายตลาดส่งออกเป็นหลัก เพื่อผลักดันยอดขายของบริษัทให้เติบโต20-25% ตามนโยบายของบริษัท โดยไตรมาส4ของปีนี้บริษัทจะเปิดตลาดส่งออกในประเทศเวียดนาม และประเทศตะวันออกกลางเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีแผนจะจับมือกับโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างในอินเดีย เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง และภาษี โดยบริษัทจะจ้างผลิตสินค้าเพื่อขายในประเทศอินเดียแทนการส่งออกสินค้าในประเทศ ซึ่งจากการเปิดตลาดใหม่ดังกล่าวจะส่งผลให้ยอดส่งออกของบริษัทเติบโต30-40% ในปี52