นายวิศาล ดิลกวณิช ผู้จัดรายการข่าวช่อง 3 กล่าวว่า มีอาการปวดหัวและท้ายทอย 2 ข้าง รวมทั้งหูซ้ายและหูขวา ปวดคอ แพทย์ได้ให้ยาและบอกให้พักฟื้นรอดูอาการ ยอมรับว่า โลกหมุน มึน และทรงตัวไม่ค่อยดี ซึ่งแพทย์ได้แนะนำให้พักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 วัน ส่วนเรื่องงานนั้นผู้ใหญ่เข้าใจและให้หยุดงาน เมื่อถามว่า หากกลับมาดำเนินรายการอีก จะยังสอบถามแขกรับเชิญในลักษณะเดิมหรือไม่ นายวิศาล กล่าวว่า ตนเป็นคนเดิมและจะซักถามแบบเดิม ทั้งนี้ ไม่รู้สึกขยาดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย
ส่วนการทำคดีนั้น ตนให้ปากคำตำรวจแล้ว ตอนนี้เหลือการรวบรวมพยานหลักฐาน ที่เป็นเทปโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ที่มีคำให้สัมภาษณ์ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่กล่าวหาตนด้วยข้อความที่ไม่เป็นความจริง โดยระบุว่า ตนบอกว่านายชูวิทย์ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ซึ่งตนไม่ได้พูดคำดังกล่าว จึงเป็นการอ้างคำพูดเท็จ ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ดังนั้น ตนจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ทนายฟ้องหมิ่นประมาทนายชูวิทย์ด้วย เพื่อต้องการปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรี รวมทั้งเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน เพราะถือเป็นครั้งแรกที่มีความป่าเถื่อนเกิดขึ้นในเมืองไทย ก่อนหน้านี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เห็นถึงการแสดงตัวตนที่แท้จริงของนายชูวิทย์ออกมา โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการฟ้อง ส่วนเรื่องทางแพ่ง อาจจะปรึกษาทีมทนายอีกครั้ง ว่าจะเรียกค่าเสียหายเท่าไร โดยเงินที่ได้มาจะมอบให้การกุศล
ส่วนการทำคดีนั้น ตนให้ปากคำตำรวจแล้ว ตอนนี้เหลือการรวบรวมพยานหลักฐาน ที่เป็นเทปโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ที่มีคำให้สัมภาษณ์ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่กล่าวหาตนด้วยข้อความที่ไม่เป็นความจริง โดยระบุว่า ตนบอกว่านายชูวิทย์ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ซึ่งตนไม่ได้พูดคำดังกล่าว จึงเป็นการอ้างคำพูดเท็จ ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ดังนั้น ตนจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ทนายฟ้องหมิ่นประมาทนายชูวิทย์ด้วย เพื่อต้องการปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรี รวมทั้งเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน เพราะถือเป็นครั้งแรกที่มีความป่าเถื่อนเกิดขึ้นในเมืองไทย ก่อนหน้านี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เห็นถึงการแสดงตัวตนที่แท้จริงของนายชูวิทย์ออกมา โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการฟ้อง ส่วนเรื่องทางแพ่ง อาจจะปรึกษาทีมทนายอีกครั้ง ว่าจะเรียกค่าเสียหายเท่าไร โดยเงินที่ได้มาจะมอบให้การกุศล