วานนี้(11 ส.ค.) เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง นายนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และคณะกรรมการ มีมติแจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กระทำผิด ตามข้อกล่าวหาของนายกรัฐมนตรี ที่ 34/2551 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2551 รวม 2 ข้อหา คือข้อ 3. ออกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ พ.ต.อ. ตำแหน่งผู้กำกับการฝ่ายปฏิบัติการที่ 1-10 ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ ทำให้ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งไม่มีกฎหมายรองรับตำแหน่ง
ข้อที่ 2. ใช้ถ้อยคำที่มิบังควรและไม่เหมาะสมในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงาน ในบันทึกของกองสวัสดิการที่เสนอขอให้พิจารณางดการแข่งกันกีฬาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ส่วนข้อกล่าวหาข้อที่ 1.โครงการเช่ารถ 5 ประเภท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) รวม 6,217 คัน มูลค่า 9,899,578,200 บาท มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต และฝ่าฝืนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 นั้นคณะกรรมการยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จสิ้น ซึ่งจะได้แจ้งให้มารับทราบในภายหลัง
ภายหลังรับทราบข้อกล่าวหา พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ กล่าวว่า คณะกรรมการแจ้งข้อกล่าวหาว่าตนกระทำผิดรวม 2 ข้อหา คือ เรื่องใช้ถ้อยคำ “ควายหรือเปล่า” กับลูกน้อง และเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ส่วนเรื่องโครงการเช่ารถนั้น คณะกรรมการยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จ จึงยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเรื่องใช้ถ้อยคำนั้น คณะกรรมการเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย จึงเหลือเพียงเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ซึ่งที่ดำเนินการไปมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ประชาชนได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิต และทรัพย์สิน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ดำเนินการเอง แต่ได้ทำผ่าน ก.ตร. โดยต่อไปจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำหนังสือชี้แจ้งต่อคณะกรรมการฯ ภายในเวลา 15 วัน พร้อมเสนอรายชื่อพยานให้คณะกรรมการสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งยังระบุไม่ได้ว่า มีจำนวนเท่าใด แต่จะเตรียมให้อัยการได้ดำเนินการสอบถามให้มากที่สุด
ส่วนอีกเรื่องที่ถูกตั้งกรรมการสอบ เรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น ถูกใส่ความ มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง
ข้อที่ 2. ใช้ถ้อยคำที่มิบังควรและไม่เหมาะสมในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงาน ในบันทึกของกองสวัสดิการที่เสนอขอให้พิจารณางดการแข่งกันกีฬาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ส่วนข้อกล่าวหาข้อที่ 1.โครงการเช่ารถ 5 ประเภท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) รวม 6,217 คัน มูลค่า 9,899,578,200 บาท มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต และฝ่าฝืนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 นั้นคณะกรรมการยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จสิ้น ซึ่งจะได้แจ้งให้มารับทราบในภายหลัง
ภายหลังรับทราบข้อกล่าวหา พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ กล่าวว่า คณะกรรมการแจ้งข้อกล่าวหาว่าตนกระทำผิดรวม 2 ข้อหา คือ เรื่องใช้ถ้อยคำ “ควายหรือเปล่า” กับลูกน้อง และเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ส่วนเรื่องโครงการเช่ารถนั้น คณะกรรมการยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จ จึงยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเรื่องใช้ถ้อยคำนั้น คณะกรรมการเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย จึงเหลือเพียงเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ซึ่งที่ดำเนินการไปมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ประชาชนได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิต และทรัพย์สิน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ดำเนินการเอง แต่ได้ทำผ่าน ก.ตร. โดยต่อไปจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำหนังสือชี้แจ้งต่อคณะกรรมการฯ ภายในเวลา 15 วัน พร้อมเสนอรายชื่อพยานให้คณะกรรมการสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งยังระบุไม่ได้ว่า มีจำนวนเท่าใด แต่จะเตรียมให้อัยการได้ดำเนินการสอบถามให้มากที่สุด
ส่วนอีกเรื่องที่ถูกตั้งกรรมการสอบ เรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น ถูกใส่ความ มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง